เชียงราย 31 ธ.ค. – ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย เคยเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่นเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ตอนนี้ชาวไทยภูเขาเผ่าเผ่าอาข่าหันมาปลูกกาแฟอินทรีย์ และให้เด็กรุ่นใหม่ไปเรียนรู้ เพื่อเตรียมตัวสืบทอดการเป็นชาวสวนกาแฟ นอกจากนี้ยังรวมกลุ่มกันต่อยอดสู่การเปิดร้านกาแฟ และผลิตกาแฟเป็นสินค้าของชุมชนเพิ่มมูลค่ากาแฟ
บนดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ด้วยความสูงกว่า 1200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่นี่จึงเป็นแหล่งปลูกกาแฟพันธ์ดีอีกแห่งหนึ่งของไทย โดยเฉพาะที่หมู่บ้านพนาสวรรค์ ต.แม่สลองนอก ซึ่งเป็นชุมชนของชาวอาข่ากว่า 50 ครอบครัว ปลูกกาแฟกว่า 600 ไร่ เราจึงเห็นชาวบ้านรวมทั้งหนุ่มสาวชาวอาข่า ที่เข้ามาเรียนรู้สืบทอดการเป็นชาวสวนกาแฟจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อสร้างอาชีพโดยที่ไม่ต้องไปทำงานนอกพื้นที่
เกรียงไกร ผู้ใหญ่บ้านเล่าว่า ในอดีตที่นี่เป็นพื้นที่ปลูกฝิ่น และทำไร่เลื่อนลอย แต่จากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ให้ชาวเขาเลิกปลูกฝิ่น ชาวบ้านจึงเดินตามคำสอนหันมาปลูกกาแฟแทน
เด็กหนุ่มสาวชาวอาข่าในหมู่บ้านพนาสวรรค์ เรียนรู้การทำสวนกาแฟตั้งแต่การปลูกกาแฟพันธ์อาราบิก้าแบบอินทรีย์ การเก็บเมล็ดกาแฟจะคัดเก็บกาแฟสุก ผลสีแดงก่ำ หรือเรียกกาแฟเชอร์รี นำมาล้างคัดเมล็ดที่ไม่สมบูรณ์ออก จากนั้นจึงนำไปสีเปลือกจะได้เมล็ดกาแฟกะลาสีขาวขุ่น เปลือกที่เหลือนำไปหมักไว้ 1 ปี ทำปุ๋ยชีวภาพใช้
ส่วนเมล็ดกาแฟกะลาจะถูกนำไปแช่น้ำหมักไว้ 2-3 คืน แล้วล้างให้สะอาด นำมาตากแดดไว้อีก 2-3 วัน จนเมล็ดกาแฟแห้งสนิท จึงเก็บไว้ขาย แต่ส่วนหนึ่งจะนำไปสีจนได้เมล็ดกาแฟและนำไปคั่ว มีทั้งแบบคั่วเข้ม คั่วกลาง และคั่วอ่อน ซึ่งชาวบ้านรวมกลุ่มกันผลิตกาแฟคั่วบรรจุถุง “กาแฟพนาคอฟฟี่” ขายให้ลูกค้ามา 5 ปีแล้ว ราคามีตั้งแต่ถุงละ 200 บาท ไปจนถึงกิโลกรัมละ 800 บาท ด้วยการผลิตที่ใส่ใจพิถีพิถันทุกขั้นตอน และรสชาติที่ถูกอกถูกใจคอกาแฟ ทำให้ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังรวมกันเปิดร้านกาแฟพนาคอฟฟี่ในหมู่บ้าน เพื่อให้ลูกค้าได้ชิมรสชาติกาแฟที่หอมกรุ่น และชมการผลิตกาแฟของชาวบ้าน เป็นหมู่บ้านกาแฟที่ครบวงจร และเป็นอีกตัวอย่างของความสามัคคีที่ทำให้เกิดพลัง สร้างรายได้ สร้างชีวิตให้ชุมชนได้อย่างยั่งยืน. – สำนักข่าวไทย