ทำเนียบฯ 22 พ.ย.- คณะรัฐมนตรี กำหนดให้วันที่ 5 ธ.ค.ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของรัชกาลที่ 9 และยังคงมีกิจกรรมสำคัญของสำนักพระราชวัง มีมติเพิ่มวันหยุดชดเชยช่วงปีใหม่ 2-3 ม.ค.2560
พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเรื่องวันสำคัญ กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยจะมีหนังสืออย่างเป็นทางการออกมาอีกครั้ง ในวันที่ 5 ธันวาคม ยังคงมีกิจกรรมสำคัญของสำนักพระราชวัง มีการบำเพ็ญพระราชกุศลและพระราชทานสมณศักดิ์ของพระภิกษุสงฆ์ ส่วนวันที่ 31 ธันวาคม 2559 และวันที่ 1 มกราคม 2560 ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดปีใหม่ของไทย คณะรัฐมนตรีมีมติเพิ่มวันหยุดชดเชยอีก 2 วัน คือวันที่ 2-3 มกราคม 2560 เป็นวันหยุดปีใหม่ เพื่อให้มีวันหยุดช่วงปีใหม่อีก 4 วัน
ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้รับทราบผลการประชุมนานาชาติว่าด้วยการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย ซึ่งระบุว่า ในเด็กและผู้สูงอายุของคนไทย มีกิจกรรมการนั่งเล่นไอแพดและรับชมโทรทัศน์เป็นเวลานาน ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงกำหนดให้ทุกวันพุธ ตั้งแต่เวลา 15.00-16.30 น. เป็นต้นไป ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการออกกำลังกายของข้าราชการในทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ข้าราชการตื่นตัวในการทำงาน โดยใช้พื้นที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้าเป็นสถานที่ออกกำลังกาย ส่วนการแต่งกาย ข้าราชการสามารถนำชุดกีฬาแบบสุภาพมาเปลี่ยนเพื่อออกกำลังกายร่วมกันได้ ไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อเครื่องแต่งกายใหม่ให้สิ้นเปลือง โดยจะเริ่มในวันพุธที่ 30 พฤศจิกายนนี้เป็นวันแรก
พ.อ.หญิงทักษดา กล่าวถึงกรณีที่โซเชียลมีเดียเผยแพร่ภาพข้าราชการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ถ่ายภาพเซลฟี่ขณะเข้าร่วมพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลนั้น นายกรัฐมนตรีขอให้ยกโทษให้ข้าราชการคนดังกล่าว เพราะอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งหลังจากนี้ ขอให้ข้าราชการปฏิบัติตนสำรวมกายวาจาใจในการเข้าร่วมพระราชพิธี
ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมการทำงานของกระทรวงต่าง ๆ นั้น นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ จึงขอบคุณทุกกระทรวงที่สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนและให้ข้าราชการทุกคนปรับตัวเข้ากับการทำงานตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ซึ่งหลังจากนี้ จะไม่กำหนดวันที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมการทำงาน เพราะนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้กำหนดเองในวันที่มีเวลาว่างและรัฐมนตรีทำงานอยู่ที่กระทรวง .-สำนักข่าวไทย