อุบลราชธานี 31 ส.ค.- ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ยังไม่วางใจโควิด-19 สั่งเพิ่มความเข้มตามชายแดนป้องกันการกลับมาระบาด โดยเฉพาะการลักลอบของแรงงานเข้าเมือง แม้ขณะนี้ยังไม่พบปัญหา เพราะไม่ได้เป็นพื้นที่หลัก แต่ต้องไม่ประมาท
นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยถึงมาตรการเข้มงวดตามแนวชายแดนว่า เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 จึงได้ปรับเพิ่มให้ชุดเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนดูแลการลักลอบนำแรงงานเถื่อนผ่านตามช่องทางธรรมชาติ เนื่องจากปัจจุบันมีการอนุญาตให้ผ่านเข้าออกได้เพียงด่านพรมแดนสากลไทย-ลาว ช่องเม็ก อ.สิรินธร โดยอนุญาตให้ส่งออกและนำเข้าเฉพาะสินค้าที่จำเป็น และผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในประเทศ แต่ต้องผ่านการตรวจมาจากประเทศต้นทางและจากสถานพยาบาลในประเทศไทย ตามมาตรการป้องกันการระบาดของโรค ส่วนแรงงานเดิมที่อยู่กับสถานประกอบการ ก็ต้องรับการตรวจดูแลจากสถานประกอบการร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และต้องอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดจะออกนอกเขตไม่ได้ ส่วนแรงงานใหม่ยังไม่อนุญาตให้เข้ามา ทำให้ตั้งแต่มีการปิดด่านเมื่อเดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่พบมีการลักลอบนำเข้าแรงงานเถื่อนตามแนวชายแดนด้านนี้ เพราะเมื่อมีการปิดจุดผ่อนปรน ด่านประเพณี นอกจากมีกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลเป็นหลักอยู่แล้ว ชุมชนตามจุดจอดเรือตามแม่น้ำโขง ยังร่วมกับ อสม.คอยตรวจตราบุคคลจากนอกชุมชนไม่ให้เดินทางข้ามแดนเข้ามาอย่างเข้มงวดตามนโยบายคณะกรรมการควบคุมโรคระบาด
นายสฤษดิ์ กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานีตรวจพบผู้ป่วยโควิด 19 ครั้งแรกเมื่อกลางเดือนมีนาคม และสามารถควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ได้อย่างเบ็ดเสร็จในเดือนพฤษภาคม รวมมีผู้ป่วยทั้งสิ้น 15 ราย เป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่ ปัจจุบันจังหวัดยังเปิดใช้สถานกักกันตัวคนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และที่ผ่านมายังไม่พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มในขณะนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย