ภูเก็ต 21 ส.ค.- อธิการบดี มรภ.ภูเก็ต แถลงการเสียชีวิตของ “น้องมิ้นท์” นักศึกษาปี 1 ระบุไม่ใช่กิจกรรมรับน้องตามที่เข้าใจกัน แต่เป็นกิจกรรมกีฬาสีของคณะ และตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ขณะที่ญาติยังมีข้อสงสัยเข้าร้องทุกข์ตำรวจ สภ.เมือง เพื่อสืบสวนเพิ่มเติม
เมื่อเวลา 11.00 น. (21 ส.ค.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ผศ.ดร.หิรัญ ประสารการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และคณะ ร่วมแถลงถึงความสูญเสีย น.ส.พรพิพัฒน์ เอียดคำ หรือน้องมิ้นท์ นักศึกษาชั้นปี 1 สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ว่า ทางมหาวิทยาลัยขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัว น.ส.พรพิพัฒน์ โดยเบื้องต้นจะให้ความช่วยเหลือเยียวยาเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท และได้ประสานกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งการสูญเสียครั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยขอยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากกิจกรรมรับน้องใหม่ตามที่เข้าใจแต่เป็นกิจกรรมกีฬาสีของคณะ เป็นการเตรียมกิจกรรมกีฬาสีเมื่อวันที่ 19 ส.ค.2563 อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมหาวิทยาลัยจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะดำเนินการแถลงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในลำดับถัดไป
“วันนี้เรามีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ประกอบไปด้วยทีมผู้บริหาร และนิติการที่เป็นไปตามองค์ประกอบในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ถ้าผลการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงพบว่ามีความผิดเราก็จะมีการลงโทษทางวินัยต่อไป ก็จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน และถ้าผลสอบข้อเท็จจริงยุติลงเมื่อใดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง”
ด้านนายธีรพงษ์ หนูไชยแก้ว คณบดีคณะมนุษย์ศาสตร์ กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตนั้น เบื้องต้น พ่อแม่ของนักศึกษาได้พูดคุยกับผู้ทำหน้าที่ควบคุม ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของนักศึกษาและอาจารย์ก็ได้อยู่ที่โรงพยาบาลดูแลในส่วนนี้ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุนักศึกษาได้ซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ ทำให้เกิดอาการวูบและนำส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงจะต้องรอผลชันสูตรของทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
ด้าน ผศ.ดร.นพดล จันระวัง รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ย้ำอีกครั้งว่า กิจกรรมนี้ไม่ใช่การรับน้อง แต่เป็นกิจกรรมการแข่งขันกีฬาของคณะ และมหาวิทยาลัยได้สอบถามทั้งอาจารย์ประจำสาขา และรุ่นพี่แล้ว ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้มาเป็นการซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ เพื่อจะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาของคณะ ซึ่งนักศึกษามีความตั้งใจมาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่นักศึกษาทำเป็นความตั้งใจที่จะทำอย่างเต็มที่ ทางมหาวิทยาลัยเองได้เล็งเห็นความสำคัญของนักศึกษา ได้มีพื้นที่ในการทำกิจกรรม ซึ่งเป็นกิจกรรมกีฬา ไม่ใช่กิจกรรมการรับน้อง เรื่องการรับน้องทางมหาวิทยาลัยได้ประกาศห้ามไว้แล้ว
“ส่วนความรับผิดชอบต่อนักศึกษาเป็นเรื่องของมหาวิทยาลัยที่จะต้องเข้าไปดูแลว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นเพราะอะไร อันนี้ทางอธิการฯ ก็พูดคุยว่าจะต้องตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบหาข้อเท็จจริง ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นก็จะเป็นข้อมูลตามที่ได้ให้ข้อมูลไป ส่วนข้อมูลที่ว่า นักศึกษาคนดังกล่าวถูกรุ่นพี่บังคับให้วิ่ง 3-5 รอบจริงหรือไม่นั้น ก็ต้องมีการหาข้อเท็จจริง ที่จะต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย” ผศ.ดร.นพดล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.วิลาวรรณ เอียดคำ พี่สาวของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ชน สุทธิมาศ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวัน และยังมีข้อสงสัยในการเสียชีวิตของน้องสาว จึงอยากให้ตำรวจสอบสวนหาสาเหตุเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย