พิสูจน์อีกลอตหนังสือบุดโบราณส่งคืนกว่า 100 เล่ม

นครศรีธรรมราช 7 ส.ค.- ศูนย์รับบิณฑบาตหนังสือบุดฯ นครศรีธรรมราช เปิดกล่องพิสูจน์อีกลอตหนังสือบุดโบราณส่งคืนกว่า 100 เล่ม และดาบโบราณ พร้อมฟื้นฟูตำรายันต์เล่มสำคัญ หลังจับผู้ต้องหารับสารภาพทิ้งทำลายหลักฐานในคูน้ำ ด้านตำรวจยังเร่งขยายผลจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม


วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ห้องประชุมพุทธสมาคม วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช พระครูเหม เจติยาภิบาล พระผู้ประสานงานศูนย์รับบิณฑบาตหนังสือบุดสมุดข่อยนครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ดร.สมปอง รักษาธรรม รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช และตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ประชุมความพร้อมก่อนเปิดกล่องพัสดุถูกส่งมาจากหลายพื้นที่มีทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ระยอง ขอนแก่น และกรุงเทพฯ ซึ่งผู้ส่งคืนนั้นแจ้งว่าซื้อมาโดยไม่ทราบว่าเป็นหนังสือบุดที่หายไป จึงแสดงเจตนาส่งคืนโดยไม่มีเงื่อนไข ขณะที่ศูนย์บิณฑบาตฯ ยืนยันว่าหากส่งคืนผ่านศูนย์จะไม่มีการขยายผลใด ๆ โดยหนังสือบุดที่สูญหายนั้นได้ยืนยันทางทะเบียนทั้งหมดมีจำนวน 309 เล่ม

สำหรับการส่งคืนรอบนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจนับจำนวนมีกว่า 100 เล่ม มีทั้งบุดดำ บุดขาว บุดตีนช้าง และมีดดาบโบราณ 1 เล่ม จากทั้งหมดสูญหายในส่วนวัตถุโบราณประเภทอาวุธโบราณ และผ้าโบราณรวม 29 รายการ ส่วนหนังสือที่มีการส่งคืนมาก่อนหน้านี้มีจำนวน 148 เล่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้คัดกรองยืนยันแล้วอยู่ในสารบบทะเบียนของมหาวิทยาลัยจำนวน 78 เล่ม ที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ


ขณะเดียวกันที่ห้องประชุมพุทธสมาคม นายสุรเชษฐ์ แก้วสกุล ผู้เชี่ยวชาญหนังสือบุดโบราณ ยังได้นำหนังสือบุดดำ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นตำรายันต์ชั้นสูงของเจ้าพระยานครน้อย อดีตเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ช่วงตอนต้นของกรุงรัตนโกสินทร์มาจัดแสดง หลังได้ฟื้นฟูหนังสือบุดเล่มนี้แล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุม 2 ผู้ต้องหา กรณีหนังสือบุดหายไปจากศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช โดยหนึ่งในผู้ต้องหารายนี้ ชื่อ นายฐิติพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สารภาพว่าได้นำตำรายันต์ไปโยนทิ้งในคูน้ำ เพื่อทำลายหลักฐาน อีกทั้งยังสืบทราบว่านายฐิติพงศ์ เคยประกาศขายหนังสือบุดเล่มนี้ไว้ 400,000 บาท เพราะเชื่อว่าเป็นตำรายันต์ที่เจ้าพระยานครน้อยใช้ในพิธีกรรมสร้างยันต์หรือสักยันต์

ด้าน พล.ต.ต.สนธิชัย กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนั้น นายฐิติพงศ์ เป็นผู้ที่โพสต์ขายหนังสือบุด ส่วนอีกรายคือนายอำนวย (สงวนนามสกุล) เป็นเจ้าหน้าที่โสตของศูนย์ฯ โดยนายฐิติพงศ์ อ้างว่าซื้อหนังสือบุดจากนายอำนวย 9 ครั้ง ต่างเวลากัน โดยนายอำนวยขับรถมาส่งให้ตามจุดนัดหมาย ขณะที่นายอำนวย แม้จะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่ไม่กังวลเพราะรวบรวมพยานหลักฐานแน่นหนามากจึงได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ และการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่ทั้งสองรายนี้ ยังต้องขยายผลว่ามีใครเกี่ยวข้องอีก ถ้าพยานหลักฐานสาวไปถึงจะขอออกหมายจับกุมเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง