เชียงใหม่ 6 ส.ค.- “พล.อ.ประวิตร” ลุยเชียงใหม่กำชับทุกหน่วย เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมดูแลเกษตรกรผู้ปลูกลำไยจากผลกระทบ โควิด-19
เมื่อเวลา 14.10 น. วันนี้ (6 สิงหาคม 2563) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน การมอบนโยบายในการปฏิบัติงานสถานการณ์อุทกภัย และความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกลำไย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ ห้องประชุมลีลาวดี ศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นจากพายุ “ซินลากู” ทำให้เกิดอุทกภัยสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สิน อาคาร บ้านเรือน รวมทั้งพื้นที่การเกษตรของประชาชนในพื้นที่หลายจังหวัดนั้น รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนร่วมกันบูรณาการ การปฏิบัติงาน ทั้งด้านกำลังคน และเครื่องจักรต่าง ๆ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ หรือ Single Command ในจังหวัด ส่วนแนวทางการป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติ ได้แก่ การเฝ้าระวัง และแจ้งเตือนภัย ให้ติดตามการคาดการณ์ ลักษณะอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำในพื้นที่ ทำการวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ และแจ้งเตือนภัย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อม ในการให้ความช่วยเหลือประชาชน ตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัย และให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ถึงในระดับชุมชน หมู่บ้าน ตลอดจนสร้างการรับรู้ ถึงแนวทางการปฏิบัติตน ให้เกิดความปลอดภัย ช่องทางการรับความช่วยเหลือกับภาครัฐ และการอพยพประชาชน เมื่อเกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่มในพื้นที่ ให้ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการตามแผนการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ประชาชนจิตอาสา เข้าดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชน อย่างเป็นระบบ พร้อมทั้ง จัดให้มีสิ่งของจำเป็น ในการดำรงชีพ การแจกจ่ายถุงยังชีพให้ครอบคลุม ทั่วถึง และจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารเลี้ยงประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน อย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึงเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่คลี่คลายแล้วให้ระดมกำลังจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนจิตอาสา เพื่อช่วยทำความสะอาด ฟื้นฟูสภาพที่อยู่อาศัย เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว และให้เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่น ที่อยู่อาศัยพื้นที่การเกษตร สิ่งสาธารณประโยชน์ สิ่งสาธารณูปโภค เครื่องมือประกอบอาชีพโดยเร่งด่วน เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือ และฟื้นฟูตามระเบียบกรณีความเสียหาย และการช่วยเหลือที่ไม่สามารถดำเนินการตามที่ระเบียบฯ กำหนดได้ให้จังหวัดประสานหน่วยทหาร สถาบันการศึกษา (อาชีวศึกษา) และภาคเอกชน เข้าดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ที่ได้รับความเดือดร้อน จากการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 จากรายงานของ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ทราบว่าจังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณผลผลิตมากกว่าครึ่งหนึ่ง ของผลผลิตในภาคเหนือ และตลาดหลักส่วนใหญ่ คือส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 รัฐบาลได้รับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว และได้มอบหมาย ให้แจ้งแนวทางการให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องเกษตรกรได้ทราบ ในวาระต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน จากสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ให้มีความเข้มแข็งในการต่อสู้ สามัคคี ร่วมแรงร่วมใจ เพื่อให้ทุกคน สามารถผ่านวิกฤตการณ์อุทกภัยนี้ ไปด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย