มูลนิธิเมาไม่ขับ ยื่นหนังสือ อสส.-ผบ.ตร.แจงปมไม่ฟ้อง “บอส”

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.-มูลนิธิเมาไม่ขับ ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด-ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงการไม่สั่งฟ้องคดี “บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา ในทุกข้อกล่าวหา 



นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องขอให้ชี้แจงการสั่งไม่ฟ้องคดีผู้ต้องหา นายวรยุทธ อยู่วิทยา ในทุกข้อกล่าวหา 


โดยหนังสือถึงอัยการสูงสุด ระบุว่าตามที่ได้ปรากฏเอกสารที่ ตช 0015 (บก.น.5) 3/5232 ลงวันที่18 มิถุนายน2562 เรื่องแจ้งคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่1 โดยมีรายละเอียดว่า 

ตามคดีอาญาอ้างอิง 1) คดีอาญาระหว่างพ.ต.ท.วีรดล ทับทิมดี ผู้กล่าวหานายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่1 ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ส่งสำนวนการสอบสวน ให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการ พิเศษ ฝ่ายคดีอาญา กรุงเทพใต้ เพื่อพิจารณาแล้วนั้น 


บัดนี้อัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้ว มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีต่อนายวรยุทธ อยู่วิทยา ในทุกข้อกล่าวหา ตามหนังสืออ้างอิง 2.และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่แย้งคำสั่งของพนักงานอัยการ คดีจึงเป็นอันสิ้นสุดตามกระบวนการทางกฏหมาย และพนักงานสอบสวนได้ทำการขออนุมัติศาลเพิกถอนหมายจับในคดีนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

มูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรที่ขับเคลื่อนการรณรงค์และสนับสนุนการบังคับใช้กฏหมายเมาไม่ขับมาตั้งแต่ปี 2539 มีความสงสัยต่อกระบวนการยุติธรรมต้นทาง ในการฟ้องร้องนำตัวผู้กระทำผิด ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง 

เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นตำรวจ ประกอบกับผู้ต้องหาคือนายวรยุทธ อยู่วิทยา ได้หลบหนีไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตนเอง ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ทางมูลนิธิฯจึงขอใช้สิทธิในฐานะองค์กรขับเคลื่อน ทำงานเพื่อหยุดความตายบนท้องถนน แทนพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ  ขอทราบหลักการและเหตุผล ในการพิจารณา มีคำสั่งไม่ฟ้องต่อนายวรยุทธ อยู่วิทยา เพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อประชาชนทั้งประเทศอีกทั้งยังเป็นการดำรงไว้ ซึ่งความเชื่อมั่นของประชาชนต่อสถาบันอัยการในฐานะทนายของแผ่นดิน

ขณะที่อีกฉบับหนึ่งถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ตามที่ได้ปรากฏเอกสารที่ ตช 0015 (บก.น.5) 3/5232 ลงวันที่18 มิถุนายน 2562 เรื่องแจ้งคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่ 1 โดยมีรายละเอียดว่า 

ตามคดีอาญาอ้างอิง 1) คดีอาญาระหว่างพ.ต.ท.วีรดล ทับทิมดี ผู้กล่าวหานายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่1 ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ส่งสำนวนการสอบสวน ให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการ พิเศษ ฝ่ายคดีอาญา กรุงเทพใต้ เพื่อพิจารณาแล้วนั้น 

บัดนี้อัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้ว มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีต่อนายวรยุทธ อยู่วิทยา ในทุกข้อกล่าวหา ตามหนังสืออ้างอิง   2.และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่แย้งคำสั่งของพนักงานอัยการ คดีจึงเป็นอันสิ้นสุดตามกระบวนการทางกฏหมาย และพนักงานสอบสวนได้ทำการขออนุมัติศาลเพิกถอนหมายจับในคดีนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรที่ทำงานรณรงค์และสนับสนุนการบังคับใช้กฏหมายเมาไม่ขับ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 มีความสงสัยต่อกระบวนการตัดสินใจของท่าน ในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เหตุใดจึงไม่แย้งคำสั่งของพนักงานอัยการ ในการพิจารณาคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา

เนื่องจากคดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชนและผู้เสียชีวิตเป็นนายตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน ประการสำคัญพฤติกรรมของนายวรยุทธ อยู่วิทยา มีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ เนื่องจากหลบหนี ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตนเองในชั้นศาล

ดังที่ได้กล่าวมาแล้วมูลนิธิเมาไม่ขับจึงขอใช้สิทธิในฐานะองค์กรที่ขับเคลื่อนการทำงานเพื่อหยุดความตายบนท้องถนน แทนพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้โปรดชี้แจงเหตุผลในการไม่แย้งคำสั่งพนักงานอัยการในคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความกระจ่าง กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศที่ติดตามคดีนี้อยู่ อีกทั้งยังเป็นการดำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และในฐานะตำรวจของประชาชน  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย