กมธ.กฎหมายฯ พิจารณาปมนำเสนอข่าวน้องชมพู่

รัฐสภา 22 ก.ค.- กมธ.กฎหมายฯ รุมซักสื่อปมนำเสนอข่าวน้องชมพู่ มอบ กสทช.สอบย้อนหลัง 2 เดือน ทุกช่องปมละเมิดสิทธิเด็ก-ประชาชน ชี้นำคดี


การประชุมคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมเชิญสถานีโทรทัศน์ 2 ช่องได้แก่ อมรินทร์ทีวี และ ไทยรัฐทีวี เข้าชี้แจงถึงการนำเสนอข่าวคดีน้องชมพู่ เสียชีวิตปริศนา ที่จ.มุกดาหาร พร้อม เชิญ กสทช. มาร่วมให้ความเห็นด้วย ซึ่งในวันนี้ไทยรัฐทีวีได้ขอเลื่อนการชี้แจง มีเพียงอมรินทร์ทีวีช่องเดียว โดยนายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการฯ กล่าวว่าเหตุผลที่ต้องเชิญสื่อมาชี้แจง เนื่องจากมีประชาชนในพื้นที่เกิดเหตุ ร้องเรียนต่อกรรมาธิการว่าได้รับผลกระทบและถูกละเมิดจากการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ที่เปรียบประชาชนเหมือนสินค้าที่ถูกสื่อนำไปขาย 

จึงตั้งข้อสังเกตว่าการทำข่าวของสื่อ 2 ช่องเกินขอบเขตของหน้าที่สื่อหรือละเมิดจรรยาบรรณสื่อ หรือไม่ เป็นการซ้ำเติมน้องชมพู่หรือหาผลประโยชน์ จากคดีนี้หรือไม่ โดยเฉพาะช่องอมรินทร์ทีวี มีการนำเสนอข่าวนี้อยู่ตลอดเวลามีการสัมภาษณ์บุคคลให้กระทบต่อบุคคลที่สอง บุคคลที่สาม เพื่อเรียกเรตติ้งทางธุรกิจ มีการนำเสนอข้อมูลจากบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่เป็นการชี้นำหรือไม่ มีการเสนอข่าวในลักษณะของละครทำให้พยานยุ่งเหยิง มีการสัมภาษณ์เด็ก ร่างทรง พระ  เปรียบเสมือนเป็นพนักงานสืบสวนเอง เป็นอัยการเอง และผู้พิพากษาเอง  


ด้านนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ กรรมาธิการตั้งคำถามถึง กสทช.ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลสื่อมวลชน ว่า ได้มีการติดตามการนำเสนอข่าวคดีน้องชมพู่ของอมรินทร์ทีวีหรือไม่ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายของ กสทช.หรือไม่ 

นายสมบัติ ลีลาพตะ นิติกรเชี่ยวชาญพิเศษ ของ กสทช. กล่าวว่า เรื่องนี้ กสทช. มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลเนื้อหาการออกอากาศ ช่องอมรินทร์ทีวี ที่การดำเนินกิจการต้องอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ที่ห้ามออกอากาศในเรื่องที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย ต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจ ซึ่งการนำเสนอข่างคดีน้องชมพู่ กสทช. ไม่ได้นิ่งเฉยมีการตรวจสอบการนำเสนอข่าวของทุกช่อง และมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาดูแลเนื้อหาการออกอากาศและได้รับเรื่องนี้มาพิจารณาแล้วโดยจะมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริงในวันที่ 30 ก.ค. นี้  ทั้งกรณีไปสัมภาษณ์พี่สาวของเด็กที่เสียชีวิต และบุคคลที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ 

ทั้งนี้กรรมาธิการได้ซักถามทางอมรินทร์ทีวี ว่าได้คัดกรองตรวจสอบเนื้อหาการออกอากาศการให้สัมภาษณ์ที่เป็นข้อมูลเท็จหรือไม่ 


นายนภจรส ใจเกษม บรรณาธิการบริหารอมรินทร์ทีวี กล่าวว่า อมรินทร์ทีวี มีการตรวจสอบข่าวก่อนออกอากาศแต่จากคดีที่เกิดขึ้นมีความจริงหลายด้านอยู่ที่ว่าจะเป็นความจริงจากใคร ทั้งความจริงจากลุงพล จากพ่อแม่น้องชมพู่ หรือความจริงจากชาวบ้าน แต่ความจริงของใครคือความจริงแท้ อมรินทร์ทีวีจึงเลือกนำเสนอความจริงทุกด้าน เปิดพื้นที่ให้ทั้งฝั่ง พ่อแม่ น้องชมพู่ และฝั่งลุงพล ได้ชี้แจงอย่างรอบด้าน  ยืนยันว่าสื่อเองไม่มีสิทธิไปตัดสินว่าความจริงของใครคือข้อเท็จจริง เพราะสุดท้ายการตัดสินจะอยู่ที่คำพิพากษาของศาล 

จากนั้น ประธานกรรมาธิการฯ ซักถามต่อว่าการออกอากาศใครจะพูดอะไรให้เกิดผลกระทบอย่างไรก็ได้ใช่หรือไม่ เพราะแม่ของน้องชมพู่พูดเองเมื่อวานนี้ว่าถูกละเมิด ถูกทำให้เหมือนสินค้า มีการไปสัมภาษณ์พี่สาวน้องชมพู่ในโรงเรียนแล้วอ้างว่า ผอ.โรงเรียนอนุญาต ทั้งที่ควรขออนุญาตผู้ปกครองก่อน

ด้านนายกิตติเดช  กิจมโนมัย ที่ปรึกษากรรมาธิการ ตั้งคำถามว่ากรอบของคำว่าข้อเท็จจริงหรืออะไร เพราะสิ่งที่ อมรินทร์ทีวี นำเสนอหลาย ๆ ครั้งที่อมรินทร์ทีวีคิดว่าเป็นข้อเท็จจริง แต่คนก็จะรู้ว่านั้นเป็นความเชื่อ เหมือนอย่างกรณีรายการช่องส่องผีที่มีการนำเสนอความเชื่อแต่ก็บอกว่าเป็นข้อเท็จจริง จึงต้องถามว่าข้อเท็จจริงนั้นพิสูจน์ได้อย่างไรหรือจริง ๆ เป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น จึงขอให้อมรินทร์ทีวีควรรอบคอบมากกว่านี้ ในการนำเสนอ เพราะส่วนตัวรับไม่ได้กับคำว่าความเห็นของแต่ละคนเป็นข้อเท็จจริง ทั้งที่ความเห็นของแต่ละคนเป็นเพียงความเชื่อหากไปกระทบต่อบุคคลอื่น ๆ มันเกิดกว่าขอบเขตของหน้าที่ของสื่อ  

ส่วนกรณีการนำเสนอภาพการตรวจดีเอ็นเอประชาชนของตำรวจ นั้น บรรณาธิการบริหารอมรินทร์ทีวี ชี้แจงว่าเป็นเพียงการนำเสนอกระบวนการทำงานของตำรวจเท่านั้นแต่ไม่ได้ไปก้าวล่วงหรือไปเจาะลึกว่าเป็นดีเอ็นเอของใครอย่างไร ส่วนการสัมภาษณ์บุคคลในพื้นที่ โดยเฉพาะแม่น้องชมพู่ ยืนยันว่าทุกครั้งที่สัมภาษณ์มีการขออนุญาตทุกครั้งหากไม่อนุญาตก็จะไม่สัมภาษณ์  แต่การไปสัมภาษณ์พี่สาวน้องชมพู่ที่โรงเรียนนั้น ยืนยันว่าอมรินทร์ทีวีไม่ใช่ช่องแรกที่สัมภาษณ์ ซึ่งหลังจากแม่น้องชมพู่ไม่สบายใจอมรินทร์ทีวี ก็ไม่นำเสนออีกเลย

นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมาธิการ กล่าวว่า การใช้เสรีภาพสื่อต้องอยู่บนความรับผิดชอบต่อสังคม ต้องเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคล ถึงแม้บุคคลจะมีการยินยอมให้สัมภาษณ์ แต่การสัมภาษณ์อาจทำให้กระทบสิทธิความเป็นส่วนตัวหรือกระทำให้เกิดความสะเทือนใจของสังคมได้ สื่อต้องมีความรอบคอบเรื่องนี้ โดยเฉพาะการสัมภาษณ์พี่สาวน้องชมพู่ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเด็กโดยตรงเพราะโดยปกติการจะสัมภาษณ์เด็กเดี่ยวกับคดีต้องมีสหวิชาชีพร่วมในการดำเนินการด้วย  

จากนั้นที่ประชุมมีมติให้ กสทช. ตรวจสอบการทำข่าวของสื่อ 2 ช่อง และช่องอื่นๆ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาว่าเข้าข่ายละเมิดสิทธิ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และเป็นการมอมเมาประชาชนหรือไม่ และรายงานต่อกรรมาธิการ รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางมาตรการด้านจริยธรรมสื่อมวลชนให้ชัดเจน .-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยทั่วไทยมีฝนเพิ่มขึ้น-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 8 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง เตือนภาคตะวันออก-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รับมือฝนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศลาว และประเทศเวียดนาม เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

จุดผ่านแดน

ผบ.กกล.บูรพา แจ้งผู้ว่าฯ สระแก้ว ถือปฏิบัติเคร่งใน 5 จุดผ่านแดน-ผ่อนปรน

7 มิ.ย. – ผบ.กกล.บูรพา แจ้งผู้ว่าฯ สระแก้ว ถือปฏิบัติเคร่งใน 5 จุดผ่านแดน-ผ่อนปรน สั่งห้ามคนไทยไปเล่นการพนัน-ท่องเที่ยว ส่วนใครที่ใช้ Border pass ให้พิจารณาจาก 14 วัน เหลือ 7 วัน พร้อมห้ามรถบรรทุกสินค้า 6 ล้อขึ้นไปผ่าน ให้ไปใช้จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เท่านั้น เมื่อเวลา 19.10 น. พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา (ผบ.กกล.บูรพา) ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เรื่องมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนการค้าในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว พร้อมแนบคำสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806 / 2568, คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 (เฉพาะ) ที่ 878/68 และแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า ตามคำสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806/2568 เรื่องควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยกองทัพบกกำหนดมาตรการให้กองทัพภาคที่ […]

ทบ. แจง 4 ขั้นตอนแนวทางปฏิบัติควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย.-ทบ. แจงแนวทางปฏิบัติตามคำสั่งควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา ดำเนินการเป็นขั้นตอนตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจาก กรณีที่กองทัพบกได้ออกคำสั่งให้มีการควบคุมจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อรักษาอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงของชาติ การดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวมิได้เป็นการใช้มาตรการสูงสุดในทันที แต่เป็นแนวทางปฏิบัติแบบขั้นตอน โดยพิจารณาจากระดับความรุนแรงของสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ โดยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้ ขั้นที่ 1 จำกัดการผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่น ๆ โดยเพิ่มระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น นักพนัน หรือกลุ่มที่อาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย ขั้นที่ 2 ปรับลดช่วงเวลาในการเปิด–ปิดจุดผ่านแดน พร้อมทั้งกำหนดวัน–เวลาการเข้า–ออกอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมความเคลื่อนไหวของบุคคลและกิจกรรมในพื้นที่ชายแดน ขั้นที่ 3 ปิดจุดผ่านแดนบางจุด (Selective Closure) โดยพิจารณาจากจุดที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีข้อมูลด้านความมั่นคงที่อาจนำไปสู่การรุกล้ำ หรือการก่อเหตุจากฝ่ายตรงข้าม ขั้นที่ 4 ปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดนในกรณีที่เกิดสถานการณ์วิกฤต หรือมีการรุกรานอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมสถานการณ์ในระดับสูงสุด โฆษกกองทัพบกย้ำว่า มาตรการดังกล่าวได้มอบอำนาจให้ กองกำลังบูรพา และ […]

กองทัพอิสราเอลพบร่างตัวประกันชาวไทยในฉนวนกาซา

เยรูซาเล็ม 7 มิ.ย. – นายอิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าววันเสาร์ว่า กองทัพอิสราเอลได้พบร่างของตัวประกันชาวไทยชื่อ นายณัฐพงษ์ ปินตา ที่ถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซาตั้งแต่การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 นายคัตซ์กล่าวว่า ร่างของณัฐพงษ์ อยู่กับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ที่ชื่อว่า กองพลน้อยมูจาฮีดีน และถูกนำกลับมาจากพื้นที่ราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ในขณะที่ครอบครัวของเขาในประเทศไทยได้รับแจ้งแล้ว นายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นคนงานภาคเกษตรกรรม ถูกลักพาตัวไปจาก คิบบุตซ์ นีร์ ออซ ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆ ใกล้ชายแดน ซึ่งเป็นจุดดที่หนึ่งในสี่ของประชากรถูกสังหารหรือถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างการโจมตีที่นำโดยกลุ่มฮามาสในปี 2023 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นายณัฐพงษ์ ถูกลักพาตัวไปในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และถูกสังหารโดยผู้ที่จับตัวเขาไป ซึ่งได้ลงมือสังหารและนำร่างของตัวประกันชาวอิสราเอล-อเมริกันอีกสองคนกลับไปยังฉนวนกาซาด้วย โดยร่างของทั้งสองคนนั้นก็เพิ่งได้กลับคืนมาได้ในสัปดาห์นี้.-813.-สำนักข่าวไทย