รัฐสภา 21 ก.ค.-ส.ว.แนะแกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก ขจัดเหลือบแอบแฝงล้มสถาบัน ชี้ข้อเสนอยุบสภาฯ ถาม ส.ส.หรือยัง แนะผู้ว่าฯ แจงอธิการบดีมหาวิทยาลัย ทำความเข้าใจ ชุมนุมช่วงโควิด อาจติดเชื้อเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภาวันนี้ (21 ก.ค.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้เปิดให้ ส.ว.หารือถึงปัญหาต่าง ๆ
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.หารือเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มนักศึกษา เยาวชนปลดแอก ว่า ตนเห็นด้วยว่าการชุมนุมเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย ถ้าเป็นการชุมนุมที่สงบ สันติ ปราศจากอาวุธ แต่สิ่งที่ไม่สบายใจและขอหารือไปยังรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) หน่วยข่าวกรอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือเรื่องการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบัน ซึ่งพบในการชุมนุมทุกกรณี และในอีก 2 สัปดาห์ จะมีการนัดมาทวงถาม ตนไม่แน่ใจว่ากล่มผู้ชุมนุมที่เป็นแกนนำ ไม่ว่าจะเป็นสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ที่อาจจะมีเจตนาบริสุทธิ์ แต่กลุ่มที่เข้าไปแอบแฝงมีเบื้องหลังหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการไร้เดียงสา หรือยอมให้เข้าร่วมชุมนุม คือการมีจุดประสงค์ และวัตถุประสงค์ล้มล้างสถาบันค่อนข้างชัดเจน จะเห็นในป้ายที่หยิบขึ้นมา และเผยแพร่ทางโซเซียล รวมทั้งในที่ชุมนุนนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมและแกนนำไม่ได้จัดการ หรือควบคุม ไม่ว่าจะเป็นการยุยง เช่น การให้ล้มล้างระบอบกษัตริย์ หรือให้ยกเลิกมาตรา 112 รวมทั้งการใช้ถ้อยความที่หมิ่นเหม่ การดัดแปลงถ้อยคำ การทำรูปเลียนแบบ การหมอบกราบผู้ล้มเจ้า หรือการตั้งกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส และอีกหลายกรณี แต่ทุกม็อบที่จัดขึ้นนั้น ทำให้ความโปร่งใสที่น่าเชื่อถือหมดไป และจะนำไปสู่ความรุนแรงในอนาคตเช่นเดียวกับเหตุการณ์ในอดีต เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลง ล้มล้างสถาบัน
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า หากขบวนการนักศึกษาที่จะเดินต่อไปและยังมีกลุ่มล้มสถาบันเข้ามาแทรกแซง หรือมีเจตจำนงที่ชัดเจนเช่นนี้อยู่ จะเกิดความรุนแรงขึ้น จึงขอฝากเตือนไปยังแกนนำว่า 1.คงจะต้องขจัดกลุ่มเหล่านี้ออกไปและข้อเรียกร้องต้องชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการยุบสภาฯ ก็ต้องถามว่าสภาฯ เพิ่งขึ้นมา 1 ปี ถาม ส.ส.หรือยัง เพราะคงไม่อยากให้ยุบสภาฯ 2.เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งผ่านประชามติมา ถ้าจะเสนอแก้ไขประเด็นใดก็เสนอมาได้ แต่ต้องให้ชัดเจน แต่ถ้าร่างใหม่ทั้งหมด หมายถึงการล้มล้างรัฐธรรมนูญ และต้องไปถามประชามติ ซึ่งเรื่องนี้สำคัญและใหญ่เกินกว่ามายกเป็นประเด็นเคลื่อนไหว และ 3.เรื่องการคุกคาม ถ้ามีจริง ก็แจ้งหน่วยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนยังไม่พบว่ามีการคุกคามนิสิตนักศึกษาอย่างที่กล่าวอ้าง
“ดังนั้นอยากฝากไปยังหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้ราชการจังหวัด ขณะนี้ทราบว่าทุกมหาวิทยาลัยในหลายจังหวัดพยายามเคลื่อนไหว ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญอธิการบดีของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มาหารือและอธิบายให้เข้าใจว่าสถานการณ์บ้านเมืองเดินหน้ามาอย่างไร เพราะชัดเจนว่าการชุมนุมในต่างประเทศหลังโควิด- 19 มีผู้ป่วยมาก ดังนั้นเรื่องนี้ต้องชี้แจง ส่วนการดำเนินคดีขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการล้มล้างสถาบัน และขณะนี้มีการใช้สื่อออนไลน์บิดเบือนโจมตีสถาบันอย่างมาก และมีการยุยง สิ่งเหล่านี้กระทรวงดีอีเอสต้องดำเนินการพร้อมกันแบบบูรณาการเชิงรุก เพื่อเปิดโอกาสให้ชุมนุมอย่างสันติ ปราศจากอาวุธได้” นายสมชาย กล่าว.-สำนักข่าวไทย