“เฉลิมชัย-อันวาร์”โต้เดือดกลางประชุมใหญ่ปชป.

โรงแรมรามาการ์เด้นส์ 19 ก.ค.-ประชุมปชป.ระอุ “อันวาร์” ชี้หลายปัจจัยทำพรรคตกต่ำ ส่งผลเสียเก้าอี้ส.ส.ทุกเขตเลือกตั้ง ด้าน “เฉลิมชัย” สวนกลับตั้งให้เป็นรองเลขาฯพรรคเพราะหัวสมัยใหม่ แต่สิ่งที่ทำวันนี้ไม่ถูกกาละเทศะ 


ระหว่างการกระชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ของพรรคประชาธิปัตย์ นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานีและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความคิดเห็น ว่า  พรรคประชาธิปัตย์มีแนวโน้มตกต่ำลงต่อเนื่อง ไร้วี่แววจะฟื้นในอนาคต เพราะเดินผิดทาง  ซ้ำยังเปลี่ยนโอกาสเป็นวิกฤติ ส่งผลให้แพ้เลือกตั้ง สูญเสียที่นั่งส.ส.ทุกเขตเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่กทม.ที่แพ้เลือกตั้งจนเหลือศูนย์

“สาเหตุแห่งความตกต่ำของพรรคประชาธิปัตย์ มาจากประชาชนผิดหวังกับการกระทำของพรรค และพรรคไม่สามารถลบล้างข้อครหาที่เป็นตราบาปของพรรคได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีแต่พูด เอาดี ใส่ตัว เอาชั่วให้เพื่อน ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างสมาชิกพรรค วันนี้ถึงเวลาที่พรรคต้องยกเครื่องการทำงาน ยกเครื่องนโยบายของพรรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกและสถานการณ์บ้านเมืองที่ปลี่ยนแปลงไปอย่างจริงจัง เพื่อทำให้พรรคหลุดพ้นจากความตกต่ำ และหวนกลับมาครองใจประชาชน เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชน ไม่ปล่อยให้ประชาชนว้าเหว่สิ้นหวัง” นายอันวาร์ กล่าว


นายอันวาร์ กล่าวว่า โจทย์ใหญ่ที่สุดที่พรรคต้องให้ความสำคัญยิ่งยวด ในการแสวงหาทางแก้ไขโดยเร่งด่วน เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและเพื่อความมั่นคงยั่งยืนของประเทศ มีอยู่ 3 ประเด็นคือ 1.ปัญหาหนี้สินของพี่น้องประชาชนหลายสิบล้านชีวิต 2.ปัญหาความอยู่รอดของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหลายล้านราย และ3.ปัญหาโครงสร้างระบบเศรษฐกิจ ภายใต้บริบทใหม่ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่ต้องการการปฏิรูปอย่างจริงจัง เพื่อการพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น และลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอกให้น้อยลงอย่างมีดุลยภาพ

“สำหรับการแก้ปัญหาความตกต่ำของพรรค ด้วยการเปลี่ยนแปลงแก้ไขตราสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับพรรคมา 74 ปี โดยการถือวิสาสะของใครบางคนในพรรค ไม่น่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่ทางแก้ที่ถูกต้องควรต้องแก้ไขที่คน เติมคุณภาพ ประสิทธิภาพของคนในพรรคให้มีขีดความสามารถ ทำงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ผมขอเสนอแนะยุทธศาสตร์การพื้นฟูพรรค 3 ประการ คือ 1.ยึดมั่นในอุดมการณ์พรรคที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่วันก่อตั้งพรรค 2.ยึดมั่นในคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน และ3.ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข นอกจากนี้ต้องตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนพรรรค ทำหน้าที่ขับคลื่อนการพื้นฟูและพัฒนาพรรคอย่างเป็นระบบ เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาครองใจประชาชน และเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนได้อย่างแท้จริง” นายอันวาร์ กล่าว

ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า ตนให้นายอันวาร์ เป็นรองเลขาธิการพรรคเพราะมีหัวสมัยใหม่ ช่วยบริหารพรรคไปข้างหน้า และเพื่อความสบายใจขอบอกว่าไม่มีใครกังวลหรือกลัวว่านายอันวาร์จะมาเป็นรัฐมนตรี ตนมีหน้าที่ดูแลสมาชิกพรรคทั้งหมด กรรมการบริหารพรรคทุกคนพร้อมจะรับฟัง เปิดโอกาสให้สมาชิกเสนอความคิดเห็น และพร้อมจะแก้ไขให้ดีขึ้น


“แต่การกระทำในวันนี้ไม่ถูกกาลเทศะ เพราะการประชุมมีทั้งสื่อมวลชนและประชาชนที่รอฟังอยู่ภายนอก การจะพูดบางเรื่องควรคุยกันภายในพรรคเท่านั้น อะไรที่ไม่สบายใจ นายอันวาร์สามารถมาคุยกับผมได้เสมอ อยากให้ทุกคนเดินไปด้วยกัน สู้เต็มที่เพื่อรักษาพรรค” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ขณะเดียวกันมีสมาชิกหลายคนที่ถูกอ้างถึงลุกขึ้นชี้แจง อาทิ นายธนา ชีรวินิจ อดีต ส.ส.กทม. กล่าวว่า สิ่งที่นายอันวาร์ทำ ทำให้พรรคเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น และขอให้มาช่วยกัน ทุกครั้งที่นายอันวาร์ทำ ผลกระทบสะท้อนทั้งในพื้นที่และความรู้สึกไม่ดีที่คนมีต่อพรรคประชาธิปัตย์

ส่วนนายเรวัต อารีรอบ อดีต ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ความนิยมน้อยลงและเสียพื้นที่โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตทั้ง 2 ที่ เพราะไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน ประชาชนอยากให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จึงสอบตกในครั้งที่แล้ว

ส่วนนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในคนที่นายอันวาร์กล่าวอ้าง และเป็นรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ให้กับพรรค ศักดิ์ศรีของประชาธิปัตย์ ศักดิ์ศรีของประชาชนที่เลือกตน ไม่สามารถสั่งให้หันซ้ายหันขวาหันได้ จากกรณีที่เจ้ากระทรวงสั่งให้ตนทำตาม เพราะเราจะต้องทำงานร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วย ต้องทำงานตามนโยบายร่วมกัน

“ถ้าผมไม่มีผลงาน ไม่ได้เกิดจากการหันซ้ายขวาหัน เป็นเรื่องของความสามารถหรือไม่มีความสามารถของผม พรรคส่งไปแล้วทำงานไม่ได้ตามนโยบายของพรรค อีกไม่กี่วันจะประเมินคนที่เป็นรัฐมนตรี ผลออกมาอย่างไร ผมรับได้ ไม่ว่าสอบตกหรือสอบผ่าน เพราะผมเป็นคนของประชาธิปัตย์ที่ต้องรักษาประชาธิปไตย” นายถาวร กล่าว

จากนั้นนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส. กทม. กล่าวว่า สมาชิกพรรคส่วนหนึ่ง อาทิ นายไชยวัฒน์ ไตรสุรนันท์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ นายเจริญ คันธวงศ์ อดีต ส.ส. กทม. และนายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีต ส.ส.สุโขทัย ลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคขอกรรมการบริหารพรรคเปลี่ยนโลโก้พรรคในเพจและสื่อออนไลน์ให้เป็นตราพรรคแบบเดิมตามกฎหมาย โดยให้เหตุผลว่าการเปลี่ยนโลโก้พรรคโดยตัดภาพรวงข้าวและพุทธภาษิตออกไป สมาชิกพรรคจำนวนมากไม่เห็นด้วย เพราะไม่ผ่านประชาพิจารณ์ และอาจผิดกฎหมายพรรคการเมือง เพราะเพจที่แสดงสัญลักษณ์ของพรรคต้องใช้เหมือนกับที่จดทะเบียนไว้ตามกฎหมาย 

ด้านฝ่ายไอทีรับไปพิจารณาว่าจะผิดข้อข้อบังคับพรรคหรือไม่ ยืนยันไม่ได้เปลี่ยนโลโก้ แต่การนำไปใช้ในบางพื้นที่ เช่นทำเสื้อหรือสัญลักษณ์อื่น ฝ่ายกฎหมายพิจารณาแล้วว่านำไปใช้ได้ แต่ถ้าอยู่ในเฟซบุ๊กหรือสื่อออนไลน์ของพรรค ยังก้ำกึ่ง ต้องให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา ส่วนการทำของที่ระลึกมีเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ซึ่งไม่ใช่เอกสารสำคัญที่ส่งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 11 คน อาทิ นายไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์ นายเจริญ คันธวงศ์ นายเอนก ทับสุวรรณ นายสุกิจ  ก้องธรณินทร์ นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล และนายวัชระ เพชรทองร่วมกันลงลายมือชื่อเพื่อยื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรคขอให้เปลี่ยนโลโก้พรรคกลับมาเป็นเเบบเดิมตามกฎหมาย เพราะสมาชิกพรรคจำนวนมากไม่เห็นด้วยเนื่องจากโลโก้ที่แก้ไขและนำเผยเเพร่ตามเพจและสื่อออนไลน์ไม่ได้ผ่านการทำประชาพิจารณ์จากสมาชิกและอาจผิดกฎหมายพรรคการเมืองได้ เพราะเพจหรือสื่อออนไลน์ที่เเสดงสัญลักษณ์ของพรรค ต้องเป็นภาพสัญลักษณ์ของพรรคตามที่จดทะเบียนไว้ตามกฎหมาย จึงขอให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาเปลี่ยนโลโก้พรรคในเพจเเละสื่อออนไลน์กลับมาตามเดิม โดยผู้ร่วมลงชื่อ

ส่วนการเลือกเหรัญญิกพรรค นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ อดีต ส.ส.กทม.ได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่ง โดยไม่มีผู้เสนอชื่ออื่นเข้าแข่ง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

แก๊งมอดไม้เหิม! โค่นป่า 40 ไร่ “เขาชะเมา” เหลือแต่ตอ

ระยอง 3 มิ.ย.- แก๊งมอดไม้เหิมเกริม ลักลอบโค่นป่าเกือบ 40 ไร่ กลางเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขาชะเมา จ.ระยอง เหลือแต่ตอไม้ ชาวบ้านโวยไร้เจ้าหน้าที่ดูแล ผู้สื่อข่าวรับร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พิกัด ม.3 บ้านเขาพัง ถนนเขาชะเมา-แก่งหางแมว ช่วงหลัก รย.4060 กม.ที่ 8 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบภาพชวนสะเทือนใจ พื้นที่กว่า 37-40 ไร่ถูกโค่นต้นไม้จนโล่งเตียนเหลือเพียงตอไม้เบญจพรรณ ต้นยางพาราถูกโค่นราบเป็นหน้ากลอง พื้นที่กลายเป็น “เขาหัวโล้น” ไร้เงาไม้ยืนต้น ด้าน นายบุญธรรม ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า พื้นที่ทั้งหมดในหมู่บ้านรวมถึงจุดที่เกิดเหตุอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามระเบียบให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ทำกินได้ ห้ามแพ้วถาง ตัดไม้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 ระยอง 1 (รย.1) สังกัดกรมป่าไม้ ซึ่งรับผิดชอบดูแลป่าทั่วทั้ง อ.เขาชะเมาและอ.แกลง ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ […]

ชาวบ้านให้กำลังใจทหาร เชื่อพื้นที่อ้างสิทธิเป็นของไทย

อุบลราชธานี 3 มิ.ย.- ชาวบ้านแปดอุ้ม ยอมรับกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย นางดำ วัย 66 ปี ชาวบ้านแปดอุ้ม ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ยอมรับตอนนี้ครอบครัวอยู่อย่างกังวลกับสถานการณ์ แต่ยังอุ่นใจที่ทหารเข้ามาในพื้นที่ปกป้องรักษาอธิปไตยไทย พร้อมเล่าอีกว่าเมื่อก่อนเคยขึ้นไปด้านบน เห็นคูเลตของกัมพูชาขยับเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่แนวเขตแบ่งตามแนวสันปันน้ำไทย-กัมพูชา ส่วนจุดปะทะล่าสุดยืนยันว่าเป็นของไทย ชาวบ้านรู้กันตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นทวดทำเกษตรทำไร่บริเวณนั้น ตนเองก็เคยขึ้นไปทำไร่กันสนุกสนานในพื้นที่นั้นจนถึงเนิน 500 นางดำ ยังเล่าต่อไปว่า เดิมทีหมู่บ้านแปดอุ้ม ไม่ได้อยู่ด้านล่าง แต่อยู่บนเขา ใกล้จุดปะทะ แต่ในปี 2520 คอมมิวนิสต์เวียดนามและเขมรแดงเป็นพันธมิตรกันสู้รบกับรัฐบาลกัมพูชา ทางเขมรแดงได้เข้ามาต้อนชาวบ้านแปดอุ้มไปเป็นทหาร ส่วนบ้านแปดอุ้มปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่ทางการไทยจัดสรรให้ชาวบ้านใหม่ในปี 2522 โดยให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านบนลงมาอยู่ด้านล่าง ด้านนายทอน อายุ 86 ปี ชาวบ้านแปดอุ้มอีกคน บอกว่า ติดตามข่าวสารทางทหาร ทราบข่าวลือของแม่ทัพภาคที่ 2 จึงอยากให้กำลังใจทหาร ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาลูกหลานทหารไทย .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ​ชี้​ต้องยึดสันติวิธี ปมไทย-กัมพูชา

สนามหลวง 3 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ​ชี้​ปมไทย-กัมพูชา ต้องยึดสันติวิธี หลีกเลี่ยงความรุนแรง​ คำนึงถึงชีวิต-​ความสูญเสีย ขณะที่ทหารพร้อมยึดมั่นรักษาอธิปไตย ส่วนกัมพูชาเตรียมนำเรื่องขึ้นศาลโลก ให้เป็นเรื่องของการเจรจา ย้ำ​ใช้สงคราม​เป็นมาตรการสุด​ท้าย นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง จุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่า​ ตนได้บอกไปหลายครั้งแล้ว คือยึดมั่นแนวทางแก้ไขแบบสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง และยึดมั่นในการรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเราได้พยายามแสดงจุดยืนเหล่านี้ และพยายามหาช่องทางในการเจรจา เพื่อหาทางยุติได้อย่างสงบ ขณะเดียวกันเราก็ไม่ประมาท มีการประสานงานกันอย่างทั่วถึงตลอดเวลากับทางกองทัพ กองทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก​ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งที่เราทำขณะนี้ในแง่ของกองทัพ เราเตรียมความพร้อม เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ เท่าที่ตรวจดูในรายละเอียดต่างๆ มีการวางกำลังที่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้โดยมั่นใจ และกองทัพก็ได้มีการเตรียมการอย่างเหมาะสม ไม่มีความบกพร่อง ส่วนเรื่องของการเจรจา​ นายภูมิธรรม​ ยืนยันว่า​ เราได้มีการพูดคุยกันมาตลอด ทั้งกระทรวงกลาโหม​ กองทัพ​ และกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสิ่งที่เราอยากจะแก้ไขปัญหา ต้องคุยกันภายในให้เป็นเอกภาพ เมื่อวานนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทั้งวัน “สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะใช้มาตรการในการใช้ความรุนแรง หรือสงคราม จะเป็นมาตรการสุดท้าย […]

South Korea's presidential election voting place

เกาหลีใต้เลือกตั้ง ปธน.หลังการเมืองวุ่นหลายเดือน

โซล 3 มิ.ย.- ชาวเกาหลีใต้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้ หลังจากการเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 44.39 ล้านคน ในเกาหลีใต้เริ่มออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ทั่วประเทศในวันนี้ ที่เปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ส่งกำลังตำรวจทั้งหมด 28,590 นายไปประจำการตามคูหาเลือกตั้งทั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย การลงคะแนนจะเสร็จสิ้นในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะทราบผลเลือกตั้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังปิดหีบ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่แล้ว มีการจัดให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า มีผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนมากกว่า 15 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34.74 สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ตั้งแต่ปี 2557 การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ต้องจัดขึ้นก่อนกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2570 หลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนานหลายเดือน จากการที่นายยุน ซ็อก ยอล อดีตประธานาธิบดี ประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้เขาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงประชามติต่อการกระทำของนายยุน มากกว่าการชูนโยบายแข่งขันกันของผู้สมัครชิงตำแหน่ง […]