“เฉลิมชัย-อันวาร์”โต้เดือดกลางประชุมใหญ่ปชป.

โรงแรมรามาการ์เด้นส์ 19 ก.ค.-ประชุมปชป.ระอุ “อันวาร์” ชี้หลายปัจจัยทำพรรคตกต่ำ ส่งผลเสียเก้าอี้ส.ส.ทุกเขตเลือกตั้ง ด้าน “เฉลิมชัย” สวนกลับตั้งให้เป็นรองเลขาฯพรรคเพราะหัวสมัยใหม่ แต่สิ่งที่ทำวันนี้ไม่ถูกกาละเทศะ 


ระหว่างการกระชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ของพรรคประชาธิปัตย์ นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานีและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความคิดเห็น ว่า  พรรคประชาธิปัตย์มีแนวโน้มตกต่ำลงต่อเนื่อง ไร้วี่แววจะฟื้นในอนาคต เพราะเดินผิดทาง  ซ้ำยังเปลี่ยนโอกาสเป็นวิกฤติ ส่งผลให้แพ้เลือกตั้ง สูญเสียที่นั่งส.ส.ทุกเขตเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่กทม.ที่แพ้เลือกตั้งจนเหลือศูนย์

“สาเหตุแห่งความตกต่ำของพรรคประชาธิปัตย์ มาจากประชาชนผิดหวังกับการกระทำของพรรค และพรรคไม่สามารถลบล้างข้อครหาที่เป็นตราบาปของพรรคได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีแต่พูด เอาดี ใส่ตัว เอาชั่วให้เพื่อน ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างสมาชิกพรรค วันนี้ถึงเวลาที่พรรคต้องยกเครื่องการทำงาน ยกเครื่องนโยบายของพรรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกและสถานการณ์บ้านเมืองที่ปลี่ยนแปลงไปอย่างจริงจัง เพื่อทำให้พรรคหลุดพ้นจากความตกต่ำ และหวนกลับมาครองใจประชาชน เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชน ไม่ปล่อยให้ประชาชนว้าเหว่สิ้นหวัง” นายอันวาร์ กล่าว


นายอันวาร์ กล่าวว่า โจทย์ใหญ่ที่สุดที่พรรคต้องให้ความสำคัญยิ่งยวด ในการแสวงหาทางแก้ไขโดยเร่งด่วน เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและเพื่อความมั่นคงยั่งยืนของประเทศ มีอยู่ 3 ประเด็นคือ 1.ปัญหาหนี้สินของพี่น้องประชาชนหลายสิบล้านชีวิต 2.ปัญหาความอยู่รอดของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหลายล้านราย และ3.ปัญหาโครงสร้างระบบเศรษฐกิจ ภายใต้บริบทใหม่ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่ต้องการการปฏิรูปอย่างจริงจัง เพื่อการพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น และลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอกให้น้อยลงอย่างมีดุลยภาพ

“สำหรับการแก้ปัญหาความตกต่ำของพรรค ด้วยการเปลี่ยนแปลงแก้ไขตราสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับพรรคมา 74 ปี โดยการถือวิสาสะของใครบางคนในพรรค ไม่น่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่ทางแก้ที่ถูกต้องควรต้องแก้ไขที่คน เติมคุณภาพ ประสิทธิภาพของคนในพรรคให้มีขีดความสามารถ ทำงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ผมขอเสนอแนะยุทธศาสตร์การพื้นฟูพรรค 3 ประการ คือ 1.ยึดมั่นในอุดมการณ์พรรคที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่วันก่อตั้งพรรค 2.ยึดมั่นในคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน และ3.ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข นอกจากนี้ต้องตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนพรรรค ทำหน้าที่ขับคลื่อนการพื้นฟูและพัฒนาพรรคอย่างเป็นระบบ เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาครองใจประชาชน และเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนได้อย่างแท้จริง” นายอันวาร์ กล่าว

ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า ตนให้นายอันวาร์ เป็นรองเลขาธิการพรรคเพราะมีหัวสมัยใหม่ ช่วยบริหารพรรคไปข้างหน้า และเพื่อความสบายใจขอบอกว่าไม่มีใครกังวลหรือกลัวว่านายอันวาร์จะมาเป็นรัฐมนตรี ตนมีหน้าที่ดูแลสมาชิกพรรคทั้งหมด กรรมการบริหารพรรคทุกคนพร้อมจะรับฟัง เปิดโอกาสให้สมาชิกเสนอความคิดเห็น และพร้อมจะแก้ไขให้ดีขึ้น


“แต่การกระทำในวันนี้ไม่ถูกกาลเทศะ เพราะการประชุมมีทั้งสื่อมวลชนและประชาชนที่รอฟังอยู่ภายนอก การจะพูดบางเรื่องควรคุยกันภายในพรรคเท่านั้น อะไรที่ไม่สบายใจ นายอันวาร์สามารถมาคุยกับผมได้เสมอ อยากให้ทุกคนเดินไปด้วยกัน สู้เต็มที่เพื่อรักษาพรรค” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ขณะเดียวกันมีสมาชิกหลายคนที่ถูกอ้างถึงลุกขึ้นชี้แจง อาทิ นายธนา ชีรวินิจ อดีต ส.ส.กทม. กล่าวว่า สิ่งที่นายอันวาร์ทำ ทำให้พรรคเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น และขอให้มาช่วยกัน ทุกครั้งที่นายอันวาร์ทำ ผลกระทบสะท้อนทั้งในพื้นที่และความรู้สึกไม่ดีที่คนมีต่อพรรคประชาธิปัตย์

ส่วนนายเรวัต อารีรอบ อดีต ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ความนิยมน้อยลงและเสียพื้นที่โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตทั้ง 2 ที่ เพราะไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน ประชาชนอยากให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จึงสอบตกในครั้งที่แล้ว

ส่วนนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในคนที่นายอันวาร์กล่าวอ้าง และเป็นรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ให้กับพรรค ศักดิ์ศรีของประชาธิปัตย์ ศักดิ์ศรีของประชาชนที่เลือกตน ไม่สามารถสั่งให้หันซ้ายหันขวาหันได้ จากกรณีที่เจ้ากระทรวงสั่งให้ตนทำตาม เพราะเราจะต้องทำงานร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วย ต้องทำงานตามนโยบายร่วมกัน

“ถ้าผมไม่มีผลงาน ไม่ได้เกิดจากการหันซ้ายขวาหัน เป็นเรื่องของความสามารถหรือไม่มีความสามารถของผม พรรคส่งไปแล้วทำงานไม่ได้ตามนโยบายของพรรค อีกไม่กี่วันจะประเมินคนที่เป็นรัฐมนตรี ผลออกมาอย่างไร ผมรับได้ ไม่ว่าสอบตกหรือสอบผ่าน เพราะผมเป็นคนของประชาธิปัตย์ที่ต้องรักษาประชาธิปไตย” นายถาวร กล่าว

จากนั้นนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส. กทม. กล่าวว่า สมาชิกพรรคส่วนหนึ่ง อาทิ นายไชยวัฒน์ ไตรสุรนันท์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ นายเจริญ คันธวงศ์ อดีต ส.ส. กทม. และนายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีต ส.ส.สุโขทัย ลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคขอกรรมการบริหารพรรคเปลี่ยนโลโก้พรรคในเพจและสื่อออนไลน์ให้เป็นตราพรรคแบบเดิมตามกฎหมาย โดยให้เหตุผลว่าการเปลี่ยนโลโก้พรรคโดยตัดภาพรวงข้าวและพุทธภาษิตออกไป สมาชิกพรรคจำนวนมากไม่เห็นด้วย เพราะไม่ผ่านประชาพิจารณ์ และอาจผิดกฎหมายพรรคการเมือง เพราะเพจที่แสดงสัญลักษณ์ของพรรคต้องใช้เหมือนกับที่จดทะเบียนไว้ตามกฎหมาย 

ด้านฝ่ายไอทีรับไปพิจารณาว่าจะผิดข้อข้อบังคับพรรคหรือไม่ ยืนยันไม่ได้เปลี่ยนโลโก้ แต่การนำไปใช้ในบางพื้นที่ เช่นทำเสื้อหรือสัญลักษณ์อื่น ฝ่ายกฎหมายพิจารณาแล้วว่านำไปใช้ได้ แต่ถ้าอยู่ในเฟซบุ๊กหรือสื่อออนไลน์ของพรรค ยังก้ำกึ่ง ต้องให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา ส่วนการทำของที่ระลึกมีเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ซึ่งไม่ใช่เอกสารสำคัญที่ส่งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 11 คน อาทิ นายไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์ นายเจริญ คันธวงศ์ นายเอนก ทับสุวรรณ นายสุกิจ  ก้องธรณินทร์ นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล และนายวัชระ เพชรทองร่วมกันลงลายมือชื่อเพื่อยื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรคขอให้เปลี่ยนโลโก้พรรคกลับมาเป็นเเบบเดิมตามกฎหมาย เพราะสมาชิกพรรคจำนวนมากไม่เห็นด้วยเนื่องจากโลโก้ที่แก้ไขและนำเผยเเพร่ตามเพจและสื่อออนไลน์ไม่ได้ผ่านการทำประชาพิจารณ์จากสมาชิกและอาจผิดกฎหมายพรรคการเมืองได้ เพราะเพจหรือสื่อออนไลน์ที่เเสดงสัญลักษณ์ของพรรค ต้องเป็นภาพสัญลักษณ์ของพรรคตามที่จดทะเบียนไว้ตามกฎหมาย จึงขอให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาเปลี่ยนโลโก้พรรคในเพจเเละสื่อออนไลน์กลับมาตามเดิม โดยผู้ร่วมลงชื่อ

ส่วนการเลือกเหรัญญิกพรรค นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ อดีต ส.ส.กทม.ได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่ง โดยไม่มีผู้เสนอชื่ออื่นเข้าแข่ง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

พรรคเพื่อไทย โพสต์นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา

กรุงเทพฯ 3 ก.ย.-พรรคเพื่อไทย โพสต์นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา ยืนยันอำนาจ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.26 น. เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความว่า ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้ยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว รายละเอียดจากแถลงอย่างเป็นทางการและยังระบุข้อความว่า “นับหนึ่งกระบวนการยุบสภา ยืนยันอำนาจ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง” นอกจากนี้ยังโพสต์ข้อความให้การให้สัมภาษณ์ของนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ได้ยืนยันว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการยื่นทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ขอบคุณพรรคประชาชน ย้ำพร้อมรับทุกเงื่อนไข

รัฐสภา 3 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณพรรคประชาชน มีมติโหวตหนุนนั่งนายกฯ ย้ำพร้อมรับทุกเงื่อนไข หัวเราะ “เพื่อไทย” บอกเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย พาประเทศไม่รอด เป็นเหตุยื่นยุบสภา ชี้ให้ไปดูคำแถลงพรรคส้ม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าสภาเมื่อเวลา 09.45 น. โดยผู้สื่อข่าว พยายามถามถึงกรณีที่พรรคประชาชนได้แถลงข่าวสนับสนุนนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ฝั่งพรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา แต่นายอนุทิน ไม่ได้ตอบคำถาม บอกแค่ว่าขอไปประชุมก่อน ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า ดีใจหรือไม่ที่พรรคประชาชนจะโหวตสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ตอบว่า “ก็ดีใจสิ และรู้สึกขอบคุณมากๆ ด้วย” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า ขอขึ้นไปประชุมกับพรรคภูมิใจไทยก่อน เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยอ้างเหตุผลการยุบสภาว่า เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย จะนำพาประเทศไปไม่รอด นายอนุทินหัวเราะ ก่อนตอบว่า ดูร่างที่พรรคประชาชนได้แถลงมันมีคำตอบอยู่ในนั้น เมื่อถามว่าพร้อมเซ็นตามข้อตกลงของพรรคประชาชนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “พร้อมสิครับ ยอมรับได้ทุกข้อ”.-สำนักข่าวไทย

มติพรรคประชาชน โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

รัฐสภา 3 ก.ย.-มติพรรคประชาชน แถลงยกมือโหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ โดยพรรคภูมิใจไทยจะต้องยอมตกลงเงื่อนไข 4 ข้อ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงว่า ในช่วงระยะเวลา 5 วันที่ผ่านมานี้ เป็นช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนและจากกระแสข่าวเมื่อวานในเรื่องของการยุบสภา ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่ได้มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการหรือมีการรับรองอย่างเป็นทางการจากฝั่งพรรคเพื่อไทยว่ามีการทูลเกล้าฯ เสนอยุบสภาแล้วหรือไม่ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน วันนี้มาพร้อมผู้บริหารพรรคบางส่วนที่ได้มีการประชุมกันเมื่อเช้านี้ถึงข้อสรุปว่าภาคประชาชนจะตัดสินใจอย่างไรในสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน นับตั้งแต่กรณีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุนเซ็น พรรคประชาชนยืนยันมาโดยตลอดว่าทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศคือการคืนอำนาจให้กับประชาชนตัดสินใจ กำหนดอนาคตของประเทศผ่านการยุบสภา เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ ให้เรามีรัฐบาลใหม่เพื่อให้มีความชอบธรรมมีเสถียรภาพและมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประชาชนทางด้านการเมืองเศรษฐกิจสังคมและความมั่นคง แต่จนถึงวันนี้รัฐบาลผู้มีอำนาจในการยุบสภา กลับยังไม่ให้ความชัดเจนและยังไม่ตอบสนองและมีความพยายามที่จะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด โดยไม่สำนึกถึงความล้มเหลวในการบริหารประเทศ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นผลจากตำแหน่ง พรรคประชาชนจึงเห็นว่าหากพรรคงดออกเสียงในการพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ อาจเกิดสถานการณ์ที่ไม่มีผู้ใดได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดไหลกลับไปรวมตัวกันของพรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิมที่ได้บริหารประเทศอย่างล้มเหลวมาตลอดสองปีที่ผ่านมา รวมทั้งทางเสี่ยงเปิดทางให้หัวหน้าคณะปฏิวัติรัฐประหารกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หรือไม่ก็เปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกซึ่งขัดต่อหลักที่พรรคประชาชนยึดถือ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตลอด 5 วันที่ผ่านมานี้ หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชนได้พิจารณาอย่างละเอียดถึงความเข้าใจของสองพรรคต่อเงื่อนไขของพรรคประชาชนและกลไกควบคุมให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องรักษาตามเงื่อนไขดังกล่าว ประกอบกับการรับฟังเสียงของสมาชิกพรรคทั่วประเทศ และผู้แทนราษฎรของพรรคอย่างรอบคอบแล้ว วันนี้คณะกรรมการบริหารของพรรคจึงได้ประชุมและมีมติว่าหากมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ความเห็นชอบเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภาคประชาชนจะให้ความเห็นชอบแก่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยพรรคภูมิใจไทยจะต้องยอมตกลงเงื่อนไขดังต่อไปนี้ ข้อที่หนึ่ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน […]

น้ำท่วมย่านการค้า อ.หล่มสัก ลดลงต่อเนื่อง สัญจรได้แล้ว

2 ก.ย. – น้ำท่วมย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลงต่อเนื่อง ถนนหลายสายรถสัญจรได้แล้ว ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำทะลักกัดเซาะถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือน ส่วน จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าหลาก-ดินโคลนถล่ม เสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือน ร้านค้าตามชุมชน และย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลง จากที่เคยท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ลดเหลือ 20-30 เซนติเมตร รวมทั้งบริเวณแยกหอนาฬิกา ซึ่งน้ำท่วมลดลงแต่ยังมีน้ำไหลผ่านอยู่บ้าง และมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ถนนหลายสายรถยนต์สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว แต่ถนนบางสายยังปิดการจราจร ป้องกันรถที่วิ่งผ่านทำให้น้ำทะลักเข้าร้านค้า เจ้าของร้านค้าบางส่วนเริ่มสำรวจความเสียหายของข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งสินค้าต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม หลังแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่าน อ.หล่มสัก ลดลงต่ำกว่าพนังกั้นน้ำราวครึ่งเมตรแล้ว หากไม่มีฝนตกหรือมวลน้ำทางตอนเหนือเติมลงมา คาดว่าน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก รวมทั้งบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรใน ต.ตาลเดี่ยว ที่อยู่ทางตอนใต้ จะลดลงเรื่อยๆ และเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้ น้ำทะลักตัดถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือนที่ จ.พิษณุโลก น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่หลากลงคลองเนินกุ่ม กัดเซาะถนนบ้านเหนือ ต.เนินกุ่ม […]