เตือนผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาห้องพักถูกถอนสิทธิ์ร่วมโครงการ

กรุงเทพฯ 19ก.ค. -รองโฆษกรัฐบาลเผย ยอดจองโรงแรม “เราเที่ยวด้วยกัน” 3.6 ล้านคน แหล่งท่องเที่ยวที่นิยมเป็นภาคตะวันออก –ตก-ใต้ เตือน ผู้ประกอบการอย่าฉวยโอกาสอัพราคาห้องพัก ตรวจพบถูกถอนสิทธิ์ร่วมโครงการ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยอดการจองที่พักในโครงการเราเที่ยวด้วยกันวันแรก วานนี้(18 ก.ค.) พบว่ามีอัตราการจองของประชาชน  3.6 ล้านคน โดยนับจากการที่โรงแรมที่พักได้ส่งอัตราค่าห้องพักให้นักท่องเที่ยวได้ชำระเงิน โดยเมืองหลักยังคงได้รับความนิยมสูง ส่วนแหล่งท่องเที่ยวระยะใกล้มียอดจองสูงสุดในภาคตะวันออกและตะวันตก โดยประชาชนนิยมจองโรงแรมติดทะเล และส่วนใหญ่จะจองเพียง 1 คืน ส่วนแหล่งท่องเที่ยวระยะไกลที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดกระบี่ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมจองที่พักจำนวน 2 คืน 

“ระบบสมัครรับสิทธ์ ระบบการแจ้งยอด และระบบชำระค่าห้องพัก ทุกอย่างถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี คาดว่าช่วงวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ประชาชนจะทยอยเข้าร่วมโครงการฯและจองห้องพักมากขึ้น โดยในช่วงสัปดาห์หน้าที่มีช่วงวันหยุดชดเชยสงกรานต์ตามมติคณะรัฐมนตรี ที่ประชาชนจะเดินทางในช่วงวันศุกร์ที่ 24 ก.ค. และในส่วนสิทธิพิเศษตามโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” นั้น รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่าย 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ซึ่งจองได้ไม่เกิน 5 คืน ซึ่งมีอยู่ 5 ล้านสิทธิ์” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รัฐบาลขอความร่วมมือและย้ำเตือนไปยังผู้ประกอบการโรงแรมที่พักว่าอย่าใช้โอกาสนี้ขึ้นราคาที่พัก หลังพบข้อมูลในโซเชียลมีเดียว่ามีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวจำนวนมาก โดยจะมีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบว่าขึ้นราคาจริงหรือไม่ เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว หากพบว่าโรงแรมขึ้นราคาจริง จะถูกตัดสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการทันที ซึ่งโครงการเราเที่ยวด้วยกันนี้ มุ่งหวังที่จะส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว เพื่อกระจายรายได้สู่พื้นที่ต่าง ๆ อันเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาครวม จึงหวังว่าผู้ประกอบการจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ฉวยโอกาสกับประชาชน-สำนักข่าวไทย