เลย 17 ก.ค.-ผู้ว่าฯเลย ไถ่เครื่องยนต์คูโบต้าให้เกษตรกรหลังจำนำนาน 15 ปี เพื่อนำเงินไปส่งลูกเรียน กระซิบบอกผู้จัดการสถานธนานุบาล ไม่ให้บอกประชาชน หากจะตอบแทนให้ทำประโยชน์ให้สังคม
ช่วงโควิด ใครๆ ก็ได้รับผลกระทบ ที่พึ่งอีกแห่ง คือ โรงรับจำนำ ที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเลย มีคนเอาของมาจำนำสารพัดทั้งอุปกรณ์ เครื่องมือทำมาหากิน แม้กระทั่ง เน็ตบุ๊กของนักเรียนนักศึกษา เมื่อมีเงินก็ทยอยไถ่ถอนกันออกไป ตอนนี้ที่ยังเหลือก็คือเครื่องยนต์ยี่ห้อคูโบต้าของเกษตรกร บางเครื่องจำนำไว้เป็นสิบๆปี หางตั๋วที่มาต่อดอกยาวเหยียดเป็นหางว่าว แต่วันนี้มีผู้ใหญ่ใจดีไถ่คืนให้แล้ว
เจ้าของเครื่องยนต์คูโบต้าที่หางตั๋วต่อดอกยาวเป็นหางว่าวเครื่องนี้ คือ นายสวัสดิ์ บรรพต อายุ 62 ปี ชาวบ้านหนองหญ้าไซ ตำบลนาดินดำ อำเภอเมือง จังหวัดเลย บอกว่านำเครื่องยนต์มาจำนำไว้ตั้งแต่ปี 2548 ในราคา 6,000 บาท เพื่อนำเงินไปส่งลูกเรียน ที่บ้านยากจนหลังจากนั้นมา ก็ตัดดอกมาตลอด เดือนละ 80 บาท เป็นระยะเวลากว่า 15 ปี เพราะตนไม่มีเงินมาไถ่ถอน ตอนทำนา ก็ต้องจ้าง วันนี้ดีใจมากที่มีคนมาไถ่คืนให้ ตั้งแต่จำนำมา ลูกก็เรียนจบกันหมดแล้ว แต่จบ ม.3 เท่านั้น เพราะไม่มีเงินส่งเรียนต่อ จนตอนนี้ลูกอายุ 25 ปี แล้ว
นางบุศรา ชัยจันทร์ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเลย เปิดเผยว่าหลังผู้ใหญ่ใจดีท่านนี้ได้นำเงินมาฝากไว้ เพื่อไถ่ถอน เครื่องมือการเกษตรให้ชาวบ้าน ตนก็หาดูรายชื่อ ไถ่ให้จนครบ 154 คน แล้วก็ตกใจว่าทำไมหางตั๋วที่ลูกค้ามาตัดดอกมันยาวเป็นหางว่าวเลย ก็ดู จึงรู้ว่า ลูกค้ามาเครื่องรถคูโบต้า มาจำนำไว้ตั้งแต่ ปี 2548 ซึ่งระยะเวลานานพอสมควร แต่ดูรายการที่มาต่อดอกแล้วเป็นลูกค้าชั้นดี จึงสอบถามไปยังท่านผู้ใหญ่ท่านนี้ ท่านก็ตอบกลับมาว่าไถ่คืนชาวบ้านไปเถอะ ของทำมาหากิน จำนำไว้นานแล้ว ตนจึงโทรแจ้งไปยังลูกค้าให้มารับ พร้อมกันนี้ ลูกค้าที่มาตอบตกลงมารับ ดีใจมาก พร้อมกับนำผ้าขาวม้า มาฝากให้กับผู้ใหญ่ท่านนี้ด้วย
ผู้ใหญ่ใจดีคนนี้ไม่ใช่เพิ่งทำความดีครั้งแรก แต่ทำมาหลายครั้ง และช่วยเหลือชาวบ้านแบบนี้มานานแล้ว แถมไม่อยากให้รู้ด้วยว่าเป็นใคร ท่านบอกไว้ว่า “ไม่ต้องบอกพี่น้องประชาชนนะว่าใครเป็นคนไถ่ของให้ แต่ให้บอกว่าหากจะตอบแทนคนไถ่ของให้ ก็ให้ไปทำประโยชน์ให้กับสังคมแบบไหนก็ได้ที่ถนัด หรือถ้าวันหนึ่งลืมตาอ้าปากได้แล้ว ก็คืนค่าไถ่ของได้โดย โอนเงินเข้าบัญชีโรงพยาบาลเลย สมทบทุนสร้างตึก 10 ชั้นแทน”
มาถึงตอนนี้แล้วเชื่อว่าทุกคนอยากรู้ว่าเป็นใคร และหลายคนอาจจะเริ่มคุ้นๆแล้ว ท่านคือ นายชายชัยวัฒน์ ชื่อโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ภาพที่คุ้นตาของชาวจังหวัดเลยคือภาพการใช้ชีวิตเรียบง่ายด้วยการปั่นจักรยานไปทำงานเมื่รับตำแหน่งในปี 60 และมักช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง จนเป็นที่ชื่นชมของคนในสังคม ทั้งเปิดจวนเลี้ยงปีใหม่พนักงานที่ดูแลความสะอาดเทศบาลเมืองเลย เจ้าหน้าที่แขวงการทางเลยและเจ้าหน้าที่ อส. อาทิ คนเก็บขยะ คนขับรถดับเพลิง คนงานลอกท่อและคนกวาดถนนตอบแทนความเสียสละปี 62 ใส่ชุดนักเรียน ปั่นจักรยานออกมาจากจวนร่วมงานกับเด็กที่หน้าศาลากลาง จัดรถไปรับลูกของอส. ที่ทำงานเก็บขยะดูแลความสะอาดถนน ลูกกลุ่มแม่บ้านทำความสะอาดศาลากลางจังหวัด และกลุ่มเด็กป่วยร่างกายเริ่มแข็งแรง แต่ยังต้องพักอยู่โรงพยาบาลเลย
ส่วนการเข้าโรงรับจำนำแอบไปไถ่ถอนเครื่องมือทำมาหากินให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนให้ประชาชนที่เดือนร้อนโดยไม่แสดงตัวนั้น ท่านเริ่มทำมาตั้งแต่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา บอกถ้าคิดจะตอบแทนคุณขอให้ทำประโยชน์ให้สังคม ซึ่งตอนนั้น นายรัชนาท วานิชสมบัติ เลขาหน้าห้องผู้ว่าฯ เลย โพสต์เรื่องราวประทับใจว่า เมื่อท่านบอกจะไปโรงรับจำนำ จึงขอตามไปด้วย และเห็นว่าท่านได้เข้าพูดคุยผู้จัดการโรงรับจำนำเทศบาลเมืองเลย จะมาไถ่ของให้ประชาชนโดยเลือกไถ่อุปกรณ์ประกอบอาชีพ เช่น สว่านไฟฟ้า หินเจีย และอุปกรณ์ดำรงชีพ เช่น หม้อหุงข้าว ให้นำไปทำมาหากินได้เลี้ยงชีพต่อไป โดยให้ผู้จัดการโรงรับจำนำบอกคนมาไถ่ของให้เอาถุงใหญ่ๆมาด้วย เพราะผู้ว่าฯฝากข้าวสาร ไข่ไก่ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้ด้วย และก็กำชับไม่ไห้บอกว่าเป็นท่านที่มาไถ่ของให้
แต่ล่าสุด ครม.มีมติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย 36 คน เมื่อ14 กรกฎาคม หนึ่งในนั้นคือท่านจากผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป ส่วนที่ท่านผู้ว่าฯ เลย บอกว่าหากอยากตอบแทนที่ท่านไถ่ของให้ ให้โอนเงินเข้าบัญชีโรงพยาบาลเลย สมทบทุนสร้างตึก 10 ชั้นแทน วันนี้มีข่าวเรื่องนี้มาฝากด้วย
โรงพยาบาลเลยกำลังดำเนินการก่อสร้างอาคารที่พักผู้ป่วย 10 ชั้น เพื่อลดความแออัดโรงพยาบาล งบประมาณ 400 ล้านบาท ที่ใช้สร้างเป็นงบบริจาคทั้งหมด ขณะนี้โครงการอาคารเสร็จเกือบทั้งหมดแล้ว แต่ยังคงต้องดำเนินการต่อส่วนของภายใน ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบดับเพลิง ระบบสุขาภิบาล ระบบปรับอากาศ ระบบก๊าซทางการแพทย์ และระบบลิฟต์ ยังขาดงบประมาณ เนื่องจากการรับบริจาคของหลวงพ่อสายทองต้องติดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถรับกิจนิมนต์นอกพื้นที่ได้ สามารถบรจาคบัญชีเงินฝาก ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาเลย ชื่อบัญชี “วัดป่าห้วยกุ่ม” เลขที่ 648 264 7416 และหากต้องการใบอนุโมทนาบัตร ติดต่อคุณวิจักษ์ อัศวลาภ โทร. 081-587-5999 หรือคุณจาตุรนต์ ใกล้จันอัด 081-544-5035.-สำนักข่าวไทย