สำนักข่าวไทย16ก.ค.-รมช.ศึกษาฯ เผยครูทั่วประเทศ กว่า 2แสนคน สนใจอบรมโค้ดดิ้งถ่ายทอดสู่นักเรียนทั่วประเทศ ตั้งแต่ระดับอนุบาล เพื่อเตรียมกำลังคนของประเทศ สู่โลกในศตวรรษที่21
คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย ที่ปรึกษาและโฆษกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมพูดคุยกับสื่อมวลชน จากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในประเด็นก้าวสู่ปีที่ 2 #ครูกัลยา เพื่อชี้แจง 3 แนวทางหลักในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อปฏิรูปการศึกษา “ทันสมัย เท่าเทียม ยั่งยืน” โดยมีนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ร่วมให้การต้อนรับ
คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบรรจุหลักสูตรการเรียนการสอนโค้ดดิ้ง เป็นนโยบายเร่งด่วน ให้เรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล โดยเริ่มอบรมครูและผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวนกว่า 1,000คน ตั้งแต่ปี2562 ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการ ได้เปิดอบรมหลักสูตรหลักการเรียนการสอนโค้ดดิ้งในด้านต่างๆ ทั้งด้านภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ ภาษาคอมพิวเตอร์ ผ่านออนไลน์ให้ครูทั้งประเทศ กว่า 20,000 คน เพื่อถ่ายทอดให้เด็กไทยทั้งประเทศ ตั้งแต่ระดับอนุบาล และสามารถประยุกต์ใช้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนากำลังคนของประเทศให้มีทักษะทันโลกยุคดิจิทัล หรือ “โค้ดดิ้ง ง่ายกว่าที่คิด พิชิต ยุคดิจิตอล” เพื่อก้าวสู่โลกในศตวรรษที่21 ได้อย่างมั่นใจ และสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ หากทั้งประเทศมีโค้ดดิ้งจะสามารถผลิตแฟลตฟอร์มขายให้ต่างประเทศได้ หวังว่าการปูพื้นเรื่องโค้ดดิ้งให้คนไทยทั้งประเทศ จะสามารถผลิต แพลตฟอร์มเป็นของตัวเองได้ในที่สุด ไม่ต้องพึ่งพาต่างประเทศ เช่น การไลน์ที่เป็นของญี่ปุ่น
ซึ่งโค้ดดิ้งเป็นวาระแห่งชาติ โดยทุกกระทรวงจะต้องมีโค้ดดิ้งในแต่ละด้านเพื่อนำมาถ่ายทอดต่อ โดยผู้ที่เรียนโค้ดดิ้งจะสามารถเผชิญทักษะโลกที่มีความเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ทั้งทักษะคิด เขียน วิเคราะห์ แก้ปัญหา ทั้งนี้กำลังเตรียมเปิดการเรียนการสอน โค้ดดิ้ง ให้กับประชาชนทั่วไปด้วย โค้ดดิ้งชาวนา โค้ดดิ้งฟาร์ม ให้สามารถคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาได้อย่างมีตรรกะ
คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ล่าสุดมีการเปิดตัว โครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย ในการขับเคลื่อนและร่วมกับอาชีวะเกษตร เพื่อสืบสานพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการช่วยเหลือเกษตรกร ให้มีน้ำใช้ แก้ปัญหาความยากจน โดยมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย ที่มีนายโชติ โสภณพนิช เป็นประธาน ได้บริจาคเงินให้โครงการเพื่อเป็นทุนแรกเริ่มในการตั้งกองทุน จำนวน 100 ล้านบาท ในการนำไปบริหารโครงการโดยรวมและสร้างโมเดลต้นเเบบการกักเก็บน้ำรองรับน้ำฝน บนพื้นที่อาชีวะเกษตรก่อนขยายผลไปยังชุมชนโดยรอบ เพื่อใช้ประโยชน์ในการทำกิน ช่วยสร้างงานสร้างเงินสร้างคุณภาพชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเเละนวัตกรรม ให้กับนักศึกษาอาชีวะเกษตรรวมทั้งคนในชุมชน
สำหรับหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการนี้ให้ประสบความสำเร็จนั่นก็คือชุมชนต้องมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ โดยมูลนิธินโยบายสาธารณะไทยจะสนับสนุนด้านเงินทุน ส่วนรัฐทำหน้าที่สนับสนุนให้องค์ความรู้ และกระทรวงศึกษาจะใช้กลไกของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั้ง 47 แห่ง และโรงเรียนการศึกษาพิเศษอีก 176 แห่งทั่วประเทศเป็นศูนย์เรียนรู้ที่สำคัญ และจะมีหลักสูตรสร้างชลกร คือผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ เพื่อช่วยสอนชาวบ้านให้มีความรู้เรื่องการจัดการน้ำในชุมชน ให้สามารถดำเนินการต่อเองได้ นอกจากนี้ ในโครงการฯ จะมีการจัดกิจกรรม Workshop โดยคัดเลือกนักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรฯ นำเสนอแนวความคิดเรื่อง “น้ำของเรา” โดยมีรุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำไปจนถึงผลิตชิ้นงานโฆษณาออกมา เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนรู้ถึงความสำคัญ และคุณค่าของน้ำ .-สำนักข่าวไทย