กรุงเทพฯ 16 ก.ค.- ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรวบแม่เล้าเปิดคาราโอเกะนำสาวลาวแอบค้าประเวณี ในขณะเดียวกันจับแรงงานต่างด้าวลักลอบทำงานฟาร์มหมู เจ้าหน้าที่รัฐตรวจสอบไม่พบโควิด-19
พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับกุมขบวนการค้าประเวณีหญิงสาวชาวลาว ที่มีการเปิดร้านคาราโอเกะบังหน้า ที่ตำบลควนหนองหงส์ อำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยตำรวจจับกุมนางจารุวรรณ อายุ 54 ปี ที่ทำหน้าที่เป็นธุระจัดหาหญิงสาวไปค้าประเวณี และ หญิงสาวชาวลาว 2 คน อายุ 30 และ 33 ปี ขณะให้บริการลูกค้าอยู่ภายในร้านคาราโอเกะ /
โดยการจับกุมดังกล่าวตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มีข้อมูลว่าร้านคาราโอเกะดังกล่าวมีการลักลอบค้าประเวณี จึงแฝงตัวเข้าไปสืบสวนล่อซื้อพบว่ามีการค้าบริการทางเพศจริง โดยมีการคิดค่าบริการ 2,000 บาท แบ่งให้เจ้าของร้าน 300 บาท โดยตำรวจจับกุมได้พร้อมของกลางธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อ //ข้อมูลพบว่าหญิงสาวชาวลาวที่พบนั้นเดินทางเข้าประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวเมื่ออยู่ครบตามกำหนดก็ได้เดินทางออกไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อประทับลงตราวีซ่าก่อนเดินทางกลับเข้ามาไทยอีกครั้งเพื่อค้าประเวณี
นอกจากนี้ยังมีการแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นที่พักแรงงานต่างด้าวซึ่งเป็นสถานประกอบการปศุสัตว์ ฟาร์มเลี้ยงสุกร ที่ตำบลปริก อำเภอสะเดา จ.สงขลา ชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนว่า พบเห็นแรงงานต่างด้าวมั่วสุมเสพยาเสพติด และ เล่นการพนันหวยใต้ดิน เบื้องต้นพบแรงงานเมียนมา 37 คน แรงงานสัญชาติลาว 2 คน จากการตรวจสอบมีแรงงานชาวเมียนมา 2 คน ที่มีปัสสาวะเป็นสีม่วง จากการเสพยาเสพติด และ อีก 1 คน ที่ผลิตและครอบครองน้ำต้มใบกระท่อม
นอกจากนี้ตำรวจยังจับกุมนางสาวสุกัญญา ซึ่งเป็นคนเดินโพยหวยใต้ดินส่งให้ตำรวจ สภ.สะเดา รับไปดำเนินคดีตามกฎหมาย และ ผลักดันกลับสู่ประเทศ จากการตรวจสอบคัดกรองโรคของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขต่างด้าวทั้งหมดไม่พบติดเชื้อโควิด-19
และ คดีสุดท้ายเป็นการจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติแคมเมอรูนที่ไปเป็นครูฝึกสอนฟุตบอลในสโมสรแห่งหนึ่ง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าอยู่ในประเทศไทยเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2 ปี โดยไม่มีการขยายเวลาขออนุญาตอยู่ต่อในประเทศไทย.-