“อนันต์ชัย”พาลูกความร้องเอาผิดผู้เช่าอาคารย่านเหม่งจ๋ายอ้างลักลอบค้าประเวณีมี ตร.เขตห้วยขวางอำนวยความสะดวก

กรุงเทพฯ 18 ก.ค.- ทนายอนันต์ชัย พาลูกความร้องกองปราบ เอาผิดเจ้าของสถานบริการย่านเหม่งจ๋ายไม่ยอมออกจากอาคารหลังหมดสัญญาเช่า ร้องเรียนทุกช่องทางไม่สามารถเอาผิดได้ อ้างเบื้องหลังลักลอบค้าประเวณี และยังมีตำรวจและเจ้าหน้าที่เขตห้วยขวางอำนวยความสะดวก 


นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมนายนรุตม์  วรอาคม อายุ33 ปี นำหลักฐานคลิปวีดีโอของสถานบริการที่มีการลักลอบค้าประเวณี ความยาวประมาณ 10 นาที เข้าร้องทุกข์ต่อผู้บังคับการกองปราบปราม เพื่อกล่าวโทษนายวิวัฒนา ปราโมช ณ อยุธยา กับพวก ในข้อหา  ต่อเติมอาคารและใช้อาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต  , เปิดสถานประกอบกิจการ(บริการนวด ซาวน์น่า)ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยใบอนุญาตสิ้นสุด เบื้องหลังให้พนักงานค้าประเวณี  

นายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า ผู้เสียหายเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โฉนดที่ดิน บริเวณ 4 แยกเหม่งจ๋าย จากนั้นให้นายวิวัฒนา ปราโมช ณ อยุธยา กับพวก มาขอเช่าที่ดินไปเมื่อปี 2559 เพื่อไปประกอบสถานบริการย่านเหม่งจ๋าย เขตห้วยขวาง ด้วยวิธีหลอกลวง โดยสัญญาระบุระยะเวลาเช่า 1 ปี เดือนละ 4 แสนบาท แต่เมื่อครบกำหนด ผู้เช่ารายนี้กลับไม่ยอมออกจากพื้นที่ และไม่จ่ายค่าเช่าบางส่วน และได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ร้องเรียนทุกช่องทาง แต่ไม่สามารถทำให้บุคคลดังกล่าวออกจากพื้นที่ได้ เพราะมักอ้างผู้มีอิทธิพล


นอกจากนี้ นายอนันต์ชัย ยังระบุว่า ค่าเช่าทั้งหมดรวมเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท และยังพบว่า ตลอดระยะเวลาเช่าที่ ผู้เช่านำไปต่อเติมและสร้างเป็นสถานบริการนวดสปา แต่แฝงธุรกิจค้าประเวณี โดยมีหลักฐานเป็นคลิปต่อรองราคาที่มีนักข่าวช่องหนึ่งเข้าไปทำการล่อซื้อหญิงบริการและหลักฐานการโอนเงิน 

ทั้งนี้นายอนันต์ชัย จึงต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีข้อหา ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี ฟอกเงิน กับผู้ที่เช่าที่คนปัจจุบันและพวก ซึ่งมีตำรวจ สน.ห้วยขวางบางคน เจ้าหน้าที่เขตห้วยขวางบางคน ที่คอยเก็บส่วย อำนวยความสะดวก ให้กับผู้มีอิทธิพลด้วย

นานอนันต์ชัย ยังเปิดเผยอีกว่า หลังจากที่มีการโพสต์ข้อมูลในเฟสบุ๊กของตนก็มีคนติดต่อมาขอนัดพบเจรจาเพื่อไม่ให้ไปแจ้งความ แต่ตนปฏิเสธไม่ขอคุย  ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมาซาวน์น่าดังกล่าวจึงปิดให้บริการทันที


และช่วงบ่ายวันนี้จะนำหลักฐานไปร้องเรียน ปปง.ด้วย เพื่อให้ตรวจสอบยึดทรัพย์เจ้าของซาวน์น่าดังกล่าว เพราะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ฟอกเงิน ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม