อังกฤษ 14 ก.ค.- แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดีใจหลังทีมพ้นโทษแบน 2 ปีถ้วยฟุตบอลยุโรป ส่วนการลุ้นพื้นที่ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ยังเข้มข้น
หลังจากที่ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก มีคำตัดสินยกเลิกโทษแบนเกมยุโรปของทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวานนี้ ถือว่าเป็นข่าวดีของแฟนบอล “เรือใบสีฟ้า” แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับแฟนบอลเชลซี, เลสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, วูลฟ์แฮมป์ตัน และเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่กำลังขับเคี่ยวลุ้นพื้นที่ไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เนื่องจากหากทีมแมนฯ ซิตี้ โดนแบน ก็จะทำให้ทีมที่จบอันดับที่ 5 ได้สิทธิ์ไปลุยฟุตบอลถ้วยยุโรปถ้วยใหญ่ในฤดูกาลหน้า
โดยก่อนหน้านี้ “เรือใบสีฟ้า” มีโอกาสโดนตัดสิทธิ์ จากการลงเล่นเกมในทวีปยุโรปถึง 2 ฤดูกาล รวมถึงสั่งปรับเงินอีก 30 ล้านยูโร ประมาณ 1,050 ล้านบาท ในกรณีที่ทำผิดอย่างรุนแรงต่อกฎควบคุมการเงิน หรือ “ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์” จากการปลอมแปลงรายได้ในบัญชีระหว่างปี 2012-2016 และสโมสรแมนฯ ซิตี้ ได้ทำเรื่องยื่นอุทธรณ์ และศาลกีฬาโลก มีคำตัดสินยกเลิกโทษแบนเกมยุโรปของแมนฯ ซิตี้ พร้อมทั้งลดโทษปรับเงินเหลือเพียง 10 ล้านยูโร หรือประมาณ 350 ล้านบาทเท่านั้น
จากคำตัดสินดังกล่าวทำให้แฟนบอลแมนฯ ซิตี้ ต่างออกมาแสดงความยินดี กับผลตัดสิน กล่าวว่า พวกเราได้พิสูจน์ความจริงให้เห็นแล้วว่าสโมสรได้ทำถูกต้องแม้หลายสโมสรจะต่อต้านการไปเล่นถ้วยยุโรปของพวกเราก็ตาม สโมสรถูกเชื่อมโยงไปด้านต่างๆ ตรวจสอบการเงินที่ได้มาจากไหนสารพัดวันนี้สโมสรได้ทำให้ทีมของพวกเราที่ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริสุทธิ์ไร้กังวล และทุกอย่างมันจบลงแล้ว
อย่างไรก็ตาม คีเรน แม็กไกวร์ อาจารย์มหาวิทยาลัยในเมืองลิเวอร์พูล ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของศาลกีฬาโลก ซึ่งเขามองว่า แมนฯ ซิตี้ เป็นภัยคุกคามของวงการฟุตบอลในอังกฤษ เนื่องจากมีเงินมหาศาลในการซื้อนักเตะเก่งๆ มาร่วมทีม แม้ว่า เป๊ป กวาดิโอลา จะเป็นกุนซือที่เก่งก็ตาม แต่ด้วยสถานะการเงินของแมนฯ ซิตี้ ที่มีมากจะทำให้แฟนบอลในพรีเมียร์ลีกหลายทีมไม่เห็นด้วย เพราะเขาสามารถซื้อนักเตะระดับโลกเข้ามาร่วมทีมได้มากมาย
ส่วนเมื่อคืนทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมร่วมเมืองเชสเตอร์ที่ก่อนเกมอยู่อันดับ 5 และมีโอกาสทำผลงานแซงเชลซี ทีมอันดับ 3 และเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 4 ขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 3 แต่เปิดบ้านทำได้เพียงแค่เสมอกับ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ไป 2-2 โดย เซาแธมป์ตัน ขึ้นนำก่อน 1-0 จาก สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง นาที 12 ก่อนที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด จะมาตีเสมอ นาที 20 และนาที 23 อ็องโตนี มาร์กซิยาล มายิงแซงให้แมนฯ ยู ขึ้นนำ 2-1 แต่ ไมเคิล โอบาเฟมี มายิงตีเสมอให้เซาแธมตันป์ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+6
ส่งผลให้ แมนฯ ยู ยังรั้งอันดับ 5 เช่นเดิมของตารางคะแนน แข่ง 35 นัด มี 59 คะแนนเท่ากับเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 4 แต่ประตูได้เป็นรอง ส่วนเซาแธมป์ตัน อยู่อันดับ 12 เช่นเดิม จากผลการแข่งขันเมื่อคืนการลุ้นพื้นที่อันดับ 3 และ 4 ยังสนุกต่อไปสำหรับศึกพรีเมียร์ลีก ส่วนวูลฟ์แฮมป์ตัน ทีมอันดับ 6 โอกาสลุ้นไปเล่นถ้วยแชมเปียนส์ลีกก็ยากขึ้น ส่วนเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 ก็แทบหมดลุ้น ขณะที่เหลือโปรแกรมการแข่งขันเหลืออีก 3 นัด.-สำนักข่าวไทย