ปิดเกมล่า! รวบผู้ต้องหาคดียาเสพติด-แฟนสาว หลังหนีซุกป่าละเมาะ

หนองคาย 11 ก.ค. – ปิดเกมล่า 6 วัน! ตำรวจหนองคายรวบแฟนสาวและผู้ต้องหาคดียาเสพติดหลบหนีจากโรงพักบ้านเดื่อได้แล้ว หลังทั้งคู่หนีซ่อนตัวในป่าละเมาะ ประทังชีวิตด้วยการขอข้าวขอน้ำจากชาวนา


ความคืบหน้ากรณีนายธีรภัทร ร่างกาย อายุ 37 ปี ชาวตำบลเหล่าต่างคำ อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ก่อเหตุหลบหนีขณะถูกเบิกตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมภายใน สภ.บ้านเดื่อ อำเภอเมืองหนองคาย โดยมีแฟนสาว อายุ 19 ปี ขี่รถจักรยานยนต์พาหลบหนี เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.08 น. ของวันที่ 6 กรกฎาคม จากนั้นกำลังชุดสืบสวน สภ.บ้านเดื่อ สภ.เหล่าต่างคำ และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดฯ ได้ระดมกำลังปูพรมค้นหาต่อเนื่อง 6 วันติดต่อกัน

วันนี้ (11 ก.ค.) พล.ต.ต.สุรชัย สังขพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ออกค้นหาผู้ต้องหาทั้ง 2 คน หลังพบร่องรอยจากรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีจอดอยู่ในป่าละเมาะท้ายหมู่บ้านสันติสุข ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอเมืองหนองคาย ก่อนระดมกำลังตีวงล้อมกระจายเข้าหาเป้าหมาย และพบต้นไม้สูงโปร่งกลางป่าริมลำห้วย พื้นที่บ้านสังคมพัฒนา ตำบลสีกาย และพบผู้ต้องหาทั้ง 2 คนอยู่ใต้ต้นไม้ โดยนายธีรภัทรไหวตัวทันวิ่งหนีไป ส่วนนางสาวบุษกรหนีไม่พ้น ถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด


จากการสอบสวนเบื้องต้น แฟนสาวบอกว่า หลังจากหนีจากการควบคุมของ สภ.บ้านเดื่อ ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาทิ้งไว้และวิ่งหนีเข้าป่า ก่อนขอข้าวขอน้ำจากชาวนา พร้อมกับขโมยเสื้อผ้ามาเปลี่ยน พอผ่านมาหลายวันจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้นายธีรภัทรมอบตัว แต่นายธีรภัทรไม่ยอม หลังจากสอบปากคำเบื้องต้น ตำรวจได้ให้แฟนสาวพูดผ่านวิทยุสื่อสาร หวังให้นายธีรภัทรได้ยินเพื่อมอบตัว

หลังจากนั้นกำลังตำรวจได้ใช้สุนัขดมกลิ่นออกติดตามไล่ล่าผู้ต้องหาอย่างกระชั้นชิด โดยมีแฟนสาวของผู้ต้องหาออกเดินทางร่วมค้นหาตัวด้วย ซึ่งระหว่างนั้นแม่ของแฟนสาวได้เดินทางมาพบกับลูกสาว พร้อมกับร่ำไห้และบอกว่าเป็นห่วงลูกสาว ไม่คาดคิดว่าจะก่อเหตุเช่นนั้น

กระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. กำลังตำรวจได้ระดมกำลังค้นหาต่อเนื่อง และลงค้นหาในลำห้วย “สวย” บริเวณใกล้เคียง กระทั่งเจ้าหน้าที่พบบางอย่าง ลักษณะเหมือนจมูกคนโผล่อยู่ริมห้วยในน้ำ เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ จึงพบว่าเป็นนายธีรภัทรซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ โผล่เพียงจมูกขึ้นมาหายใจ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน นายธีรภัทรมีสภาพอิดโรยและเครียดหนัก ก่อนถูกพาไปชี้จุดซ่อนตัวในป่า


เบื้องต้นนายธีรภัทรจะถูกแจ้งข้อหานอกเหนือจากมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองแล้ว ยังจะถูกแจ้งข้อหาหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของพนักงานสอบสวน ส่วนแฟนสาวจะถูกแจ้งข้อหาช่วยด้วยประการใดๆ ให้ผู้ที่หลบหนีจากการคุมขังตามอำนาจของพนักงานสอบสวนไม่ให้ถูกจับกุม.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนองคายแกะรอยพบแล้ว จยย.จอดทิ้งป่า พาผู้ต้องหาหนีโรงพักบ้านเดื่อ

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย