โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ 11 ก.ค.-“พล.อ.ชวลิต” ให้กำลังใจ “พล.อ.ประยุทธ์” แก้วิกฤติชาติหลังโควิด-19 แนะต้องปรับตัว รู้วิธีหารายได้และความต้องการของประชาชน เชื่ออยู่ครบเทอม บอก “พล.อ.ประวิตร” ประสบการณ์สูงนั่งหัวหน้าพรรค พปชร. ย้ำต้องเสียสละ ชี้ปรับ ครม.กี่ครั้งก็ทะเลาะกัน ย่ำอยู่กับที่ 88 ปีก็เหมือนเดิม ระบุใครจะเป็นนายกฯ ก็ได้ ถ้ามีความรู้ความสามารถ
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะมีผลกระทบกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหรือไม่ ว่า จะเป็นห่วงทำไมเรื่องการปรับ ครม. เพราะการเมืองมาจากการเมือง การปรับ ครม.ก็มีมาตลอด เป็นเช่นนี้มานานแล้ว ไม่ว่าปรับกี่ครั้งก็ทะเลาะกัน เมื่อทะเลาะกัน ทหารก็เข้ามา ทีแรกทหารก็ได้เครดิต พออยู่ไปเครดิตตก นักการเมืองก็นำประชาชนมาเดินขบวน ก็วนอยู่แบบนี้ หากถามว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้เป็นอย่างไร ตนตอบได้ว่าเป็นเหมือนเดิม เหมือน 88 ปีที่แล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่มีพรรคการเมืองเป็นร้อยพรรค นักการเมืองก็ทะเลาะกัน และกล่าวหาทหาร ในขณะที่ประเทศอื่นที่เป็นประชาธิปไตย มีพรรคการเมืองเพียง 2 พรรค” พล.อ.ชวลิต กล่าว
ส่วนจะให้กำลังใจรัฐบาลอย่างไร เพราะปัญหารุมเร้า ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนให้กำลังมาตลอด 88 ปีแล้วเท่ากับอายุของตน สำคัญกว่านั้น คือ รัฐบาลให้กำลังใจตนบ้างไหม
“รัฐบาลวันนี้พูดกันแต่เรื่องของพรรคการเมือง ใครจะเป็นหัวหน้าพรรค เป็นห่วงเรื่องการเลือกตั้ง เรื่องรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปห่วงเรื่องพวกนั้น การปกครองทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการ ประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นการปกครองแบบใด ก็ไม่เห็นจะมีใครพูดกันเรื่องแบบนี้ สิ่งเดียวที่เขาพูด คือ จะทำอะไรเพื่อประชาชนได้บ้าง นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด” พล.อ.ชวลิต กล่าว
พล.อ.ชวลิต ยังมองถึงการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ทุกรัฐบาล นายกรัฐมนตรีก็ดีทุกคน มีความตั้งใจดี ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นนายกรัฐมนตรีต้องรู้จักปรับตัว ต้องรู้ว่าประชาชนต้องการอะไร แต่สำคัญคือจะเอาเงินจากไหน ขณะนี้ประเทศมีหนี้สิน GDP ก็ติดลบ จะเห็นว่าเป็นปัญหาทั้งสิ้น จะแก้ไขอย่างไรต้องช่วยกันคิด ซึ่งปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมาจากโควิด-19 และไม่ใช่เรื่องยากที่จะแก้ปัญหา เพราะประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากร ส่วนรัฐบาลชุดนี้จะไปรอดหรือไม่นั้น ขอให้ปรับตัว และรู้ว่าจะหาเงินจากที่ไหนเพื่อทำประโยชน์ให้ประชาชน อีกทั้งต้องถามตัวเองว่าทำไมกองทุนต่างชาติถึงให้เงินประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่ให้ไทย
“ตอนนี้จำเป็นต้องให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนจะอยู่ครบวาระ 4 ปีหรือไม่ คงไม่มีใครรู้ อาจจะอยู่ถึง 10 ปีก็ได้” พล.อ.ชวลิต กล่าว
ทั้งนี้จะให้คำแนะนำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อย่างไร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า คงไม่มีอะไร เพราะ พล.อ.ประวิตร มีประสบการณ์สูง ประสงค์ดีอยู่แล้ว แต่การเป็นหัวหน้าพรรค ต้องมีความเสียสละ ต้องรู้ว่าจะบริหารประเทศอย่างไร และรู้ปัญหาของชาติว่าอยู่จุดไหน
ส่วนผู้ที่จะเข้ามาหาผลประโยชน์ทางการเมือง จะแก้ไปัญอย่างไร พล.อ.ชวลิต ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ซึ่งประเทศไทยมีเสาหลักที่สำคัญ 5 เสา คือ การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง การต่างประเทศ ที่จะปกป้องประเทศ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้อยู่ได้ แต่ที่สำคัญ คือ การเมืองการปกครอง หากไปไม่รอด เสาอื่นก็ไม่สำเร็จ ทุกวันนี้การเมืองการปกครองทำไม่ถูกต้อง ประเทศไทยมีพรรคการเมืองจำนวนมาก นักการเมืองก็ทะเลาะกัน ต่างจากประเทศที่เป็นประชาธิปไตย และมีขนาดใหญ่กว่าไทยยังมีเพียง 2 พรรค ไม่มีการพูดถึงเรื่องตำแหน่ง
ส่วน พล.อ.ประวิตร จะมีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ก็อยู่ที่ พล.อ.ประวิตร แต่ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีความเกรงใจ พล.อ.ประวิตร ในฐานะรุ่นพี่ แต่อย่าเอาความเกรงใจมาอยู่เหนือความเจริญของประเทศชาติและส่วนรวม คงไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า แบบนี้เหมือนปิดประตู พล.อ.ประวิตร ไม่ให้เป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนไม่ตอบคำถามนี้ เพราะไม่ใช่คำตอบที่แก้ปัญหา แต่จะทำอย่างไรถึงจะเกิดการปกครองโดยประชาชนเพื่อประชาชน หรือการปกครองในระบบประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะสามารถเป็นนายกรัฐมนตรี ได้หรือไม่นั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ใครก็เป็นได้ ถ้ามีความรู้ความสามารถ
เมื่อถามย้ำว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่มีใครเหมาะสมเท่า พล.อ.ประยุทธ์ แล้วใช่ หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่รู้ ไปพูดเช่นนั้นไม่ได้ เพราะคนดีก็มีอยู่ เพียงแต่ไม่ได้แสดงฝีมือ.-สำนักข่าวไทย