นนทบุรี 10 ก.ค. – กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศโชว์ผลจัดงาน Top Thai Brand ตลาดอาเซียนช่วงครึ่งปี 63 สินค้าไทยสุดฮอตมียอดซื้อทันที 196 ล้านบาท และจะซื้อภายใน 1 ปี อีก 337 ล้านบาท
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการจัดงาน Top Thai Brand 2020 ในช่วงปี 2563 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายน 2563 ว่า ปีนี้กรมฯ จัดงานไปแล้ว 3 ครั้ง ที่กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา โดยกัมพูชาและเมียนมาสามารถจัดได้ปกติ เพราะเป็นการจัดก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ สปป.ลาว ยกเลิกการจัดงานและปรับการเจรจาธุรกิจแทน แต่ทั้ง 3 งานถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยมียอดซื้อทันที 196.88 ล้านบาท และจะซื้อภายใน 1 ปี อีก 337.76 ล้านบาท
ทั้งนี้ งานที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา จัดวันที่ 6-9 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ประกอบการเข้าร่วม 173 บริษัท จำนวน 264 คูหา มีผู้เข้าชมงาน 45,000 คน โดยสินค้าที่มีศักยภาพ เช่น อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง เครื่องประดับ เครื่องใช้ในครัวเรือน และอิเล็กทรอนิกส์ มียอดสั่งซื้อทันที 25.48 ล้านบาท ภายใน 1 ปี 165.36 ล้านบาท และย่างกุ้ง เมียนมา จัดวันที่ 12-15 มีนาคม 2563 มีผู้ประกอบการเข้าร่วม 108 บริษัท 132 คูหา มีผู้เข้าชมงาน 22,000 คน สินค้าที่ได้รับความนิยม เช่น อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง แฟชั่น และมียอดสั่งซื้อทันที 6 ล้านบาท ภายใน 1 ปี 113.2 ล้านบาท
ส่วนที่เวียงจันทน์ สปป.ลาว จัดวันที่ 4-8 มีนาคม 2563 ยกเลิกการจัดงานและปรับเป็นการเจรจาธุรกิจแทน มีสินค้าที่ได้รับความนิยม เช่น เกษตรออร์แกนิก (ปุ๋ย) มียอดการสั่งซื้อทันที 165.4 ล้านบาท ภายใน 1 ปี 59.2 ล้านบาท โดยกรมฯ ยังมีกำหนดจัดงานอีก 2 ครั้ง ฮานอย เวียดนาม วันที่ 9-12 กรกฎาคม 2563 จำนวน 100 คูหา และโฮจิมินห์ เวียดนาม วันที่ 6-9 สิงหาคม 2563 จำนวน 100 คูหา โดยการจัดงานจะให้ผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายสินค้าไทยในท้องถิ่นจัดแสดงสินค้าเป็นหลัก โดยไม่มีผู้ประกอบการจากไทยเดินทางไป เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
อย่างไรก็ตาม ปีงบประมาณ 2564 กรมฯ มีแผนการจัดโครงการ Top Thai Brand , Thailand Week และ Mini Thailand Week ในภูมิภาคอาเซียน 12 งาน เพื่อนำผู้ประกอบการ SMEs ออกไปขยายตลาดในอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสสำหรับ SMEs ของไทย เพราะสินค้าไทยเป็นที่ยอมรับในคุณภาพ มาตรฐาน และคาดว่าสินค้าไทยจะได้รับความนิยมและขยายตลาดเข้าสู่ตลาดอาเซียนเพิ่มขึ้น ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169 ได้.-สำนักข่าวไทย