เรียกร้องพิธีกร “ช่องส่องผี” กราบขอขมาย่าบุญเหลือ

นครราชสีมา 9 ก.ค.-เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลวัดศาลาลอย เผยรายการ “ช่องส่องผี” ขออนุญาตมาถ่ายทำรายการที่วัด แต่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดเนื้อหาที่จะถ่ายทอดออกไปสู่สาธารณะ ด้านผู้ดูแลศาลย่าโมและย่าบุญเหลือที่ทุ่งสัมฤทธิ์ ยันเนื้อหาที่กล่าวอ้างในรายการไม่เป็นความจริง รู้สึกเสียใจ เรียกร้องผู้ดำเนินรายการทุกคนเข้ามากราบขอขมาย่าบุญเหลือ


จากกรณีรายการ “ช่องส่องผี” โดยนายเชษฐวุฒิ วัชรคุณ หรือบ๊วย, เรนนี่ สุระประภา คำขจร และเจมส์ ศราวุฒิ วรพัทธ์ทีวีโชติ บันทึกเทปรายการที่วัดศาลาลอย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นวัดที่บรรจุอัฐิของท้าวสุรนารี หรือย่าโม ที่ชาวนครราชสีมา และคนไทยทั้งประเทศให้ความเคารพนับถือ เป็นวีรสตรีร่วมกับนางสาวบุญเหลือ ลูกบุญธรรม และหญิงกล้าชาวโคราช กอบกู้เมืองนครราชสีมาจากข้าศึกรุกราน โดยเนื้อหารายการมีคำกล่าวของเรนนี่ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เป็นการลบหลู่ดูหมิ่น สร้างความไม่พอใจแก่ชาวโคราช ออกมารุมสาปแช่ง พร้อมทั้งเรียกร้องให้เอาผิดทางกฎหมาย


เช้าวันนี้ บรรยากาศที่วัดศาลาลอย อ.เมือง จ.นครราชสีมา สถานที่ถ่ายทำรายการผีที่กล่าวอ้างเนื้อหาลบหลู่ดูหมิ่นคุณย่าโมและบิดเบือนประวัติศาสตร์เมืองโคราช มีชาวบ้านแวะเวียนมาสักการะบูชาอัฐิคุณย่าโม คุณย่าบุญเหลือ และพระยาปลัดทองคำ ไม่ขาดสาย หลายคนแสดงความไม่พอใจที่ทางรายการกล่าวอ้างเนื้อหาที่ไม่เป็นความจริง เรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษชาวโคราช และให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการเอาผิดทางกฎหมาย


นายสุรินทร์ พลอยงาม อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในวัดศาลาลอย บอกว่า ทางรายการขออนุญาตมาถ่ายทำรายการที่วัดในเวลากลางคืน ประมาณ 2 ทุ่มเศษ แต่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดเนื้อหาที่จะถ่ายทอดออกไปสู่สาธารณะ ขณะถ่ายทำก็มีแฟนรายการมาร่วมรับชมจำนวนมาก กระทั่งเนื้อหาที่นำเสนอออกไปผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง บิดเบือนประวัติศาสตร์ สร้างผลกระทบต่อจิตใจชาวโคราช ส่วนตัวเชื่อว่าที่วัดศาลาลอยมีดวงวิญญาณของคุณย่าโม ย่าบุญเหลือ และพระยาปลัดทองคำ สถิตอยู่ ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ผู้ที่เข้ามาในที่นี้ไม่ควรลบหลู่ดูหมิ่น และอยากให้ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองช่วยแก้ปัญหาตามวิธีที่สมควรเหมาะสมโดยเร็วที่สุด

ส่วนบรรยากาศที่อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ ต.สัมฤทธิ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ดินแดนสู้รบของชาวโคราชและผู้รุกรานในอดีต มีการสร้างอนุสาวรีย์วีรกรรม และสร้างศาลสถิตดวงวิญญาณคุณย่าโมและย่าบุญเหลือ มีประชาชนแวะเวียนมากราบไหว้สักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลชีวิตอย่างต่อเนื่อง

นางแม้น ด้วงกลาง อายุ 72 ปี ผู้ดูแลศาลย่าโมและย่าบุญเหลือที่ทุ่งสัมฤทธิ์ บอกว่า เนื้อหาที่กล่าวอ้างในรายการไม่เป็นความจริง ผิดเพี้ยน ไร้เหตุผล รู้สึกเสียใจที่ได้ยินเรื่องราวแบบนี้ จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ดำเนินรายการทุกคนเข้ามากราบขอขมาคุณย่าเหลือ ที่อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เคยเป็นสนามรบระหว่างชาวเมืองโคราชและทหารลาวของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อครั้งสงครามสมัยรัชกาลที่ 3 และย่าบุญเหลือเสียชีวิตที่นี่ ชาวโคราชร่วมกันสร้างศาลสถิตดวงวิญญาณขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานอุทิศแด่ดวงวิญญาณของนาวสาวบุญเหลือ และวีรชนชาวโคราช ที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญ และชาวโคราชจัดงานฉลองและรำลึกถึงวีรกรรมทุกปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด