กรุงเทพฯ 8 ก.ค.-ผู้บัญชาการทหารบก แจง 2 ข้อยกเว้น รับ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และคณะ พรุ่งนี้ (9 ก.ค.) ไม่กักตัว เหตุเป็นแขกรัฐบาล แต่ยันปฏิบัติตามกฎของ สธ. ติงโซเชียลออกข่าวสร้างความขัดเเย้ง ยันนายกฯ ไม่เคยบอกให้ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ เลื่อนการเดินทาง
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในการเดินทางมาเยือนไทย ของผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ โดยไม่มีการกักตัวตามมาตรฐานป้องกันการเเพร่ระบาดโควิด-19 ว่า ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ และคณะ เป็นคณะแรกที่มาเยือนไทย ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.) เพียง 1 วัน และเดินทางกลับวันที่ 10 กรกฎาคม หลังเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยเป็นวาระผูกพันเพื่อลงนามในการแถลงวิสัยทัศน์ร่วมระหว่างกองทัพบกไทย-สหรัฐฯ ซึ่งมีข้อตกลงเรื่องการฝึก การศึกษาแลกเปลี่ยน
พล.อ.อภิรัชต์ ยืนยันว่า คณะผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ ไม่เคยปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบใด ๆ ของไทย หรือขอยกเว้นใด ๆ มีแต่ถามว่าจะให้ทางคณะสหรัฐฯ ทำอะไร ก็ขอให้บอกมา
ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวตำหนิการออกข่าวโซเชียลมีเดียที่ไม่สร้างสรรค์ ทำให้เกิดข้อขัดแย้ง ว่า ได้ยินเรื่องนี้มาเป็นสัปดาห์ รู้สึกไม่สบายใจ พร้อมยืนยันว่านายกรัฐมนตรีไม่เคยบอกให้คณะผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ เลื่อนการเดินทาง แต่ถ้ามา ก็ต้องปฏิบัติตามกฎของกระทรวงสาธารณสุข เพราะยังอยู่ในช่วงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บัญชาการทหารบก ยังนำเอกสารข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 12) โดยคณะของผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ จัดอยู่ในกลุ่ม 2 (จากทั้งหมด 11 กลุ่ม) คือ ผู้มีเหตุยกเว้น หรือเป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน กำหนด อนุญาต หรือเชิญให้เข้ามาในราชอาณาจักรได้ตามความจำเป็น โดยอาจกำหนดเงื่อนไขและเงื่อนเวลาก็ได้ และคำสั่ง ศบค.ที่ 7/2563 สำหรับกลุ่ม 2 จะมีเพียงเรื่องการคัดกรอง , ตรวจเอกสาร , ตรวจหาเชื้อโควิด , การมีผู้ติดตามด้านการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในราชอาณาจักร (ครั้งนี้จัดทีมติดตามไว้ 5 คน) และเดินทางโดยยานพาหนะที่จัดเตรียมไว้ และตามแผนการเดินทางที่มีเท่านั้น
นอกจากในเอกสาร ยังระบุว่า เมื่อคณะผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ มาถึงประเทศไทย ต้องมีการตรวจสว็อพเบื้องต้น 3-4 ครั้ง ตามมาตรฐาน มีแผนกำหนดเดินทางทางชัดเจน ไปไหน ทำอะไร โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข และจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ติดตามตลอด นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่จากการบินไทยด้วย เพื่อเรียนรู้ในการต้อนรับแขกรัฐบาล นักธุรกิจ ในคณะต่อไป.-สำนักข่าวไทย