ฝ่ายค้านขอนับองค์ประชุมไม่ครบ สภาล่มครั้งแรก

รัฐสภา 8 ก.ค.-สภาล่มครั้งแรก หลังฝ่ายค้านเสนอนับองค์ประชุม “สุทิน” แจง ปฏิรูปประเทศเป็นเรื่องสำคัญ ไม่อยากเป็นแค่ “ตรายาง” ขู่ยกระดับป่วน ถ้ารัฐบาลยังละเลยสภา 


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (8 ก.ค.) เริ่มเวลา 09.30 น. มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมประธานเปิดโอกาสให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปรึกษาหารือปัญหาของประชาชนหลายพื้นที่ ซึ่งปัญหาภัยแล้งยังคงเป็นปัญหาที่มีสมาชิกนำเข้าหารือจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร เช่นที่จังหวัดอุดรธานี และหนองคาย ปัญหาการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ การขุดลอกแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อใช้ในหน้าแล้งที่มีความล่าช้าเนื่องจากบางพื้นที่ขาดแคลนงบประมาณดำเนินการ จึงเรียกร้องผ่านไปยังกระทรวงมหาดไทยขอให้ช่วยจัดสรรงบประมาณไปยังพื้นที่ เพื่อเร่งดำเนินการให้ทันการกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ไว้ใช้ในหน้าแล้งต่อไป



ส่วนปัญหาเส้นทางโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค ยังเป็นปัญหาที่สมาชิกนำเข้าหารือจำนวนมากเช่นกัน ทั้งปัญหาเส้นทางคมนาคมชำรุดเสียหาย ขาดแคลนไฟฟ้าส่องสว่างในหมู่บ้าน ขาดแคลนจุดกลับรถและสะพานข้ามแยกส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง สำหรับปัญหาอื่น ๆ ที่สมาชิกนำเข้าหารืออาทิ ปัญหาขาดแคลนงบประมาณและเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด -19 บางพื้นที่ยังเป็นไปด้วยความล่าช้า เช่น สถานศึกษาที่ต้องนำงบประมาณไปดูแลเด็กนักเรียน และกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ไม่สามารถกลับไปประกอบอาชีพได้เช่นเดิม จึงขอให้กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงแรงงานดูแลโดยเร็ว


จากนั้นเวลาประมาณ 13.00 น.ได้เข้าสู่การพิจารณาวาระรับทราบรายงานผลการปฏิรูปประเทศของรัฐบาล ซึ่งระหว่างนั้นนายครูมานิตย์ สังข์พุ่มส.ส. สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นหารือและเสนอขอให้นับองค์ประชุม เนื่องจากเห็นว่ามีจำนวนสมาชิกที่อยู่ในห้องประชุมจำนวนน้อย ฝ่ายค้านรับไม่ได้ อยากเห็นคณะรัฐมนตรีและสมาชิกร่วมประชุมเพื่อร่วมแสดงความเห็นในการพิจารณาเรื่องสำคัญที่ประชาชนติดตาม 


“ยืนยันไม่ใช่คนเกเร ซึ่งนายชวนยืนยันว่าเป็นสิทธิที่จะขอนับองค์ประชุมได้ ไม่มีใครตำหนิอะไร เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องมาประชุม พร้อมกดออดเรียกสมาชิกให้เข้ามาแสดงตนเป็นองค์ประชุม ทำให้ส.ส. ฝั่งรัฐบาลรีบเดินเข้าห้องประชุมไม่เว้นแม้แต่รัฐมนตรีที่ลงมานั่งข้างล่างเพื่อแสดงตนเป็นองค์ประชุม” นายครูมานิตย์ กล่าว

ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรแจ้งสมาชิกที่จะไม่ร่วมแสดงตนว่าให้นั่งประจำที่ อย่ายืนเกะกะ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดให้แสดงตน มีส.ส.เข้าร่วมประชุมจำนวน 226 คนและแสดงตนเพิ่มอีก 231 คน ซึ่งจะต้องมีสมาชิกเป็นองค์ประชุมไม่น้อยกว่า 244 คน จึงไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ประธานสั่งปิดการประชุมทันที ซึ่งถือเป็นสภาล่มครั้งแรกในสมัยการประชุมนี้

นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านเสนอให้นับองค์ประชุมว่า วาระพิจารณาการรายงานการปฏิรูปประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลพูดตลอดว่าต้องการปฏิรูปประเทศ และที่ผ่านมาใช้การปฏิรูปประเทศเป็นข้ออ้างหลายอย่างจากสังคม เพื่อได้โอกาสทำงาน ซึ่งฝ่ายค้านให้ความร่วมมือมาโดยตลอด และมีรายงานมาแล้ว 3 รอบ แต่เป็นที่ประจักษ์ว่าสังคมทุกภาคส่วนสรุปชัดเจนว่าการปฏิรูปประเทศยังไม่เกิดขึ้น แม้กระทั่งพันธมิตรของรัฐบาลก็ผิดหวังว่ารัฐบาลไม่ได้ปฏิรูปประเทศตามที่เคยระบุ

“การรายงานปฏิรูปประเทศรอบนี้ ฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่าจะสะท้อนเสียงของประชาชนเพื่อเตือนรัฐบาลว่ายังไม่ได้ปฏิรูปอย่างจริงจัง ไม่อยากให้สภาเป็นเพียง “ตรายาง” จึงเสนอให้รัฐบาลถอนเรื่องนี้กลับไปพิจารณาใหม่ ขณะเดียวกันเห็นว่าส.ส.รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญด้วยการไม่เข้ามาประชุม ฝ่ายค้านจึงเสนอนับองค์ประชุม จะได้ ให้รัฐบาลตื่นตัวเรื่องการปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง วันนี้เเป็นมาตรการหนึ่งที่เราอยากให้การปฏิรูปเกิดขึ้น การพูดจาทำไปก็ไร้ผล การที่สมาชิกออกน้อกห้องประชุมวันนี้เป็นการยกระดับกระตุ้นเตือนรัฐบาล ถ้าไม่ทันวันนี้อาจจะมีมาตรการอื่นยิ่งกว่านี้” นายสุทิน กล่าว

ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาผลในทางปฏิบัติจากการปฏิรูปประเทศของรัฐบาลไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่เขียนกฎหมายมารองรับว่าผลสัมฤทธิ์เป้าหมายจะต้องนำมารายงานในรอบปี  ซึ่งการเขียนกฎหมายของรัฐบาลไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่ให้รายงานทุก 3 เดือน และมาตรการการนับองค์ประชุมถือว่าเบาที่สุด ถ้าองค์ประชุมครบฝ่ายค้านก็พร้อมตรวจสอบรายงานเรื่องนี้ต่อ แต่ถ้ารัฐบาลไม่ให่ความสำคัญจะมีมาตรการอื่นต่อไป

นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจจะเสนอนับองค์ประชุม แต่เห็นว่ารัฐบาลค่อนข้างละเลยต่อสภาฯ ทั้งที่เรื่องการปฏิรูปประเทศถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญ แต่ในวันนี้มีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาชี้แจงเพียงคนเดียว ทั้งที่ เรื่องการปฏิรูปประเทศเป็นเหตุผลหนึ่งของการรัฐประหาร จึงเห็นว่าการปล่อยให้พูดแล้วลงมติให้ผ่านเป็นเรื่องง่ายเกินไป จึงอยากให้รัฐบาลตั้งแต่ผู้นำรัฐบาลเข้าใจและตระหนักว่าสภาผู้แทนราษฎรเป็นองค์กรสำคัญ.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]