ฝ่ายค้านขอนับองค์ประชุมไม่ครบ สภาล่มครั้งแรก

รัฐสภา 8 ก.ค.-สภาล่มครั้งแรก หลังฝ่ายค้านเสนอนับองค์ประชุม “สุทิน” แจง ปฏิรูปประเทศเป็นเรื่องสำคัญ ไม่อยากเป็นแค่ “ตรายาง” ขู่ยกระดับป่วน ถ้ารัฐบาลยังละเลยสภา 


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (8 ก.ค.) เริ่มเวลา 09.30 น. มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมประธานเปิดโอกาสให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปรึกษาหารือปัญหาของประชาชนหลายพื้นที่ ซึ่งปัญหาภัยแล้งยังคงเป็นปัญหาที่มีสมาชิกนำเข้าหารือจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร เช่นที่จังหวัดอุดรธานี และหนองคาย ปัญหาการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ การขุดลอกแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อใช้ในหน้าแล้งที่มีความล่าช้าเนื่องจากบางพื้นที่ขาดแคลนงบประมาณดำเนินการ จึงเรียกร้องผ่านไปยังกระทรวงมหาดไทยขอให้ช่วยจัดสรรงบประมาณไปยังพื้นที่ เพื่อเร่งดำเนินการให้ทันการกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ไว้ใช้ในหน้าแล้งต่อไป



ส่วนปัญหาเส้นทางโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค ยังเป็นปัญหาที่สมาชิกนำเข้าหารือจำนวนมากเช่นกัน ทั้งปัญหาเส้นทางคมนาคมชำรุดเสียหาย ขาดแคลนไฟฟ้าส่องสว่างในหมู่บ้าน ขาดแคลนจุดกลับรถและสะพานข้ามแยกส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง สำหรับปัญหาอื่น ๆ ที่สมาชิกนำเข้าหารืออาทิ ปัญหาขาดแคลนงบประมาณและเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด -19 บางพื้นที่ยังเป็นไปด้วยความล่าช้า เช่น สถานศึกษาที่ต้องนำงบประมาณไปดูแลเด็กนักเรียน และกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ไม่สามารถกลับไปประกอบอาชีพได้เช่นเดิม จึงขอให้กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงแรงงานดูแลโดยเร็ว


จากนั้นเวลาประมาณ 13.00 น.ได้เข้าสู่การพิจารณาวาระรับทราบรายงานผลการปฏิรูปประเทศของรัฐบาล ซึ่งระหว่างนั้นนายครูมานิตย์ สังข์พุ่มส.ส. สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นหารือและเสนอขอให้นับองค์ประชุม เนื่องจากเห็นว่ามีจำนวนสมาชิกที่อยู่ในห้องประชุมจำนวนน้อย ฝ่ายค้านรับไม่ได้ อยากเห็นคณะรัฐมนตรีและสมาชิกร่วมประชุมเพื่อร่วมแสดงความเห็นในการพิจารณาเรื่องสำคัญที่ประชาชนติดตาม 


“ยืนยันไม่ใช่คนเกเร ซึ่งนายชวนยืนยันว่าเป็นสิทธิที่จะขอนับองค์ประชุมได้ ไม่มีใครตำหนิอะไร เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องมาประชุม พร้อมกดออดเรียกสมาชิกให้เข้ามาแสดงตนเป็นองค์ประชุม ทำให้ส.ส. ฝั่งรัฐบาลรีบเดินเข้าห้องประชุมไม่เว้นแม้แต่รัฐมนตรีที่ลงมานั่งข้างล่างเพื่อแสดงตนเป็นองค์ประชุม” นายครูมานิตย์ กล่าว

ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรแจ้งสมาชิกที่จะไม่ร่วมแสดงตนว่าให้นั่งประจำที่ อย่ายืนเกะกะ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดให้แสดงตน มีส.ส.เข้าร่วมประชุมจำนวน 226 คนและแสดงตนเพิ่มอีก 231 คน ซึ่งจะต้องมีสมาชิกเป็นองค์ประชุมไม่น้อยกว่า 244 คน จึงไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ประธานสั่งปิดการประชุมทันที ซึ่งถือเป็นสภาล่มครั้งแรกในสมัยการประชุมนี้

นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านเสนอให้นับองค์ประชุมว่า วาระพิจารณาการรายงานการปฏิรูปประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลพูดตลอดว่าต้องการปฏิรูปประเทศ และที่ผ่านมาใช้การปฏิรูปประเทศเป็นข้ออ้างหลายอย่างจากสังคม เพื่อได้โอกาสทำงาน ซึ่งฝ่ายค้านให้ความร่วมมือมาโดยตลอด และมีรายงานมาแล้ว 3 รอบ แต่เป็นที่ประจักษ์ว่าสังคมทุกภาคส่วนสรุปชัดเจนว่าการปฏิรูปประเทศยังไม่เกิดขึ้น แม้กระทั่งพันธมิตรของรัฐบาลก็ผิดหวังว่ารัฐบาลไม่ได้ปฏิรูปประเทศตามที่เคยระบุ

“การรายงานปฏิรูปประเทศรอบนี้ ฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่าจะสะท้อนเสียงของประชาชนเพื่อเตือนรัฐบาลว่ายังไม่ได้ปฏิรูปอย่างจริงจัง ไม่อยากให้สภาเป็นเพียง “ตรายาง” จึงเสนอให้รัฐบาลถอนเรื่องนี้กลับไปพิจารณาใหม่ ขณะเดียวกันเห็นว่าส.ส.รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญด้วยการไม่เข้ามาประชุม ฝ่ายค้านจึงเสนอนับองค์ประชุม จะได้ ให้รัฐบาลตื่นตัวเรื่องการปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง วันนี้เเป็นมาตรการหนึ่งที่เราอยากให้การปฏิรูปเกิดขึ้น การพูดจาทำไปก็ไร้ผล การที่สมาชิกออกน้อกห้องประชุมวันนี้เป็นการยกระดับกระตุ้นเตือนรัฐบาล ถ้าไม่ทันวันนี้อาจจะมีมาตรการอื่นยิ่งกว่านี้” นายสุทิน กล่าว

ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาผลในทางปฏิบัติจากการปฏิรูปประเทศของรัฐบาลไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่เขียนกฎหมายมารองรับว่าผลสัมฤทธิ์เป้าหมายจะต้องนำมารายงานในรอบปี  ซึ่งการเขียนกฎหมายของรัฐบาลไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่ให้รายงานทุก 3 เดือน และมาตรการการนับองค์ประชุมถือว่าเบาที่สุด ถ้าองค์ประชุมครบฝ่ายค้านก็พร้อมตรวจสอบรายงานเรื่องนี้ต่อ แต่ถ้ารัฐบาลไม่ให่ความสำคัญจะมีมาตรการอื่นต่อไป

นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจจะเสนอนับองค์ประชุม แต่เห็นว่ารัฐบาลค่อนข้างละเลยต่อสภาฯ ทั้งที่เรื่องการปฏิรูปประเทศถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญ แต่ในวันนี้มีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาชี้แจงเพียงคนเดียว ทั้งที่ เรื่องการปฏิรูปประเทศเป็นเหตุผลหนึ่งของการรัฐประหาร จึงเห็นว่าการปล่อยให้พูดแล้วลงมติให้ผ่านเป็นเรื่องง่ายเกินไป จึงอยากให้รัฐบาลตั้งแต่ผู้นำรัฐบาลเข้าใจและตระหนักว่าสภาผู้แทนราษฎรเป็นองค์กรสำคัญ.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เปิดข้อเสนอสุดท้าย ทีมไทยแลนด์ ต่อรอง “ทรัมป์”

1 ส.ค. – เปิด 10 ข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลภาษีนำเข้าในอัตรา 19% จากที่ก่อนหน้านี้ถูกขู่ว่าจะเก็บสูงถึง 36% นอกจากตัวเลขภาษีนำเข้า สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนต้องการรู้ นั่นก็คือข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลที่ 19% โดยสิ่งที่ไทยยอมแลก 10 ข้อหลักมีดังนี้ เรียกว่า ไทยยอมแลกหลายมิติ ทั้งเปิดตลาดให้สหรัฐ มากขึ้น ยกเว้นภาษีเกือบหมด, เพิ่มการนำเข้า, และร่วมมือด้านความมั่นคง แลกกับการที่ “ภาษีตอบแทน” ที่สหรัฐจะเก็บจากไทย ลดลงจาก 36% เหลือ 19%.-สำนักข่าวไทย

เคลียร์ BM21 หมู่บ้านกระสุนตก 5 ลูก อ.น้ำยืน อุบลฯ

อุบลราชานี 1 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และทำงานไม่สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดทำลายหัวกระสุน BM21 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้านชายแดน ในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ใน 8 หมู่บ้าน 24 จุด พบกระสุน BM21 ทั้งหมด 5 ลูก มีทั้งที่ยังไม่ระเบิด และพร้อมทำงาน โดยในช่วงเช้าทำลาย 3 จุด จุดแรกอยู่บริเวณริมถนนสายน้ำยืน นาจะหลวย เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนขุดดินด้านบนแล้วหย่อนระเบิด C4 ลงไปในหลุมที่หัวกระสุน BM21 ตกแต่ไม่ระเบิด จากนั้นจึงจุดชนวนทำลายระเบิด ใช้เวลาเพียง 20 นาที หัวกระสุนถูกทำลายโดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จุดที่ […]

ทูตทหาร 23 ประเทศ ลงพื้นที่จุดกัมพูชายิงถล่ม

ศรีสะเกษ 1 ส.ค. – วันนี้คณะทูตานุทูตและทูตทหาร รวม 23 ประเทศ ลงพื้นที่สังเกตการณ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ในพื้นที่ถูกกัมพูชาโจมตี และศูนย์พักพิง การลงพื้นที่ในวันนี้ทางประเทศไทยต้องการให้คณะทูตทั้ง 23 ประเทศได้เห็นข้อเท็จจริงและนำไปเผยแพร่ให้ประชาคมโลกได้รับรู้ จุดแรกคือปั๊ม ปตท.บ้านผือ ที่ถูกกัมพูชายิงจรวด BM21 โดยนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ บรรยายสรุปให้คณะได้รับฟังถึงเหตุการณ์วันแรกที่เกิดขึ้นและเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีญาติผู้สูญเสียนำรูปผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว บอกเล่าเหตุการณ์ความสูญเสียจากที่เกิดขึ้นต่อคณะทูตานุทูตผ่านล่าม พร้อมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตที่ผู้บริสุทธิ์ ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จากนั้นคณะทูตทหาร เดินทางลงพื้นที่ ต่อไปยังจุดกระสุนตกใส่พลเรือน ที่อาคารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลชำเม็ง อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ส่งผลทำให้อาคาร รพ.สต. เสียหาย ที่นี่ ยังมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีเด็กเล็กอยู่ประจำกว่า 30 คน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากทางจังหวัดได้ประกาศให้ชาวบ้านอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยหรือศูนย์พักพิงชั่วคราว ตั้งแต่ 24 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่ทางทหารกัมพูชาเปิดฉากยิง โดยนางเข็มจิรา จันทร์ทอง ผอ.รพ.สต.บ้านชำเม็ง บอกว่าถ้าวันนั้น หากยังไม่มีการอพยพ […]

ชาวบ้านผวาโดรนปริศนา บินว่อนพื้นที่บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ 1 ส.ค. – ชาวบ้านหลายอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ ผวาพบโดรนปริศนาบินว่อนหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ หวั่นเป็นของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาบินสอดแนม ชาวบ้านหลายพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ต่างหวาดผวา หลังยังพบโดรนปริศนาจำนวนหลายลำบินว่อนในหลายอำเภอ เช่น อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ละหานทราย อ.ประโคนชัย และ อ.บ้านกรวด แต่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ถึงที่มาที่ไปของโดรนว่ามาจากไหน เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอน หากเป็นของคนไทยก็จะนำตัวมาสอบถาม จุดประสงค์ในการบิน และอาจถูกดำเนินคดี เนื่องจาก ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ได้ออกประกาศห้ามอากาศไร้คนขับหรือโดรนบิน ในช่วงนี้เด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย แต่หากเป็นโดรนฝ่ายกัมพูชาที่ลักลอบบินเข้ามาสอดแนมหรือจับพิกัดเป้าหมายสำคัญในไทย เจ้าหน้าที่จะเร่งหามาตรการป้องกันสกัดกั้น เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของชาติ สำหรับภาพรวมสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย หลังเจรจาหยุดยิง ขณะนี้ยังไม่พบการปะทะกันขึ้น แต่โรงเรียนในพื้นที่แนวชายแดนทั้ง อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย รวม 85 แห่ง ยังคงปิดทำการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่จังหวัดยังไม่มีประกาศให้ชาวบ้านกลับเข้าบ้านพักได้ เพราะสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ประกอบกับต้องเคลียร์พื้นที่ก่อนเพราะมีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่มากกว่า 240 ลูก.-สำนักข่าวไทย