นครพนม 5 ก.ค.- ญาติเหยื่อ 3 ศพที่ถูกยิงเสียชีวิตกลางเมืองนครพนมเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เดินทางไปรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา พ่อผู้เสียชีวิตเล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เกือบกลายเป็นศพที่ 4 เพราะมือยิงคุมอารมณ์ไม่อยู่ในช่วงนั้น
กรณีนายนพดล น่วมสำลี หรือบี อายุ 41 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. กระหน่ำยิง น.ส.สุจิตรา เชียงใบ อายุ 23 ปี ภรรยา น.ส.จิตรา เชียงใบ พี่สาว น.ส.สุจิตรา และนางโอลา เชียงใบ มารดา น.ส.สุจิตรา เสียชีวิตรวม 3 ศพ เหตุเกิดหน้าตลาดนัดมหาสิทธิโชค เขตเทศบาลเมืองนครพนม บ่ายวันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ นายไพจิตร เชียงใบ อายุ 60 ปี ซึ่งสูญเสียทั้งภรรยาและลูกสาว 2 คน ไปในคราวเดียวกัน พร้อมกับญาติ เดินทางไปรับศพทั้งสามคนจากโรงพยาบาล นำไปบำเพ็ญกุศลที่สำนักสงฆ์ภาวนาจิตดอนจิกวนาราม ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นวัดในบ้านเกิด โดยศพทั้งสามคนถูกตั้งวางเรียงกันอยู่บริเวณหน้าศาลาการเปรียญ ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติพี่น้อง
พ่อเล่าเหตุการณ์เกือบกลายเป็นศพที่ 4
นายไพจิตร เล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุว่า ขณะที่ น.ส.สุจิตรา ลูกสาวกำลังนั่งทอดขนมข้าวแต๋นอยู่หน้าบ้าน นายนพดล ก็ขับรถกระบะมาจอดแล้วกวักมือเรียกขึ้นรถเพื่อไปรับหลานที่โรงเรียน แต่เมื่อออกไปยังไม่ทันถึง 10 นาที ลูกสาวโทรมาบอกว่า มาช่วยด้วยมันตีหนูอีกแล้ว นางโอลา กับ โอลีฟ ซึ่งเป็นแม่และพี่สาว จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์ไปช่วย ตนก็ขับรถสามล้อเครื่องตามไป แต่พบร่างลูกเมียถูกยิงตายแล้ว โดยมีนายนพดล เดินวนรอบรถ จึงถามว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ นายนพดล ลูกเขยปืนโหดตอบกลับ “มึงจะเป็นศพที่ 4 ไหม” จึงอยากให้ตัดสินประหารชีวิตอย่างเดียว และก็อย่าให้ประกันตัวออก เพราะนายนพดล เคยข่มขู่ไว้ว่าจะฆ่าทั้งครอบครัว
นายไพจิตรเล่าอีกว่า ลูกชายของน้องขิมยังไม่รู้ว่าแม่ ยาย ป้า ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม จะรบเร้าถามตลอดว่า ทั้งสามคนไปไหน ทำไมไม่มาสักที จึงบอกทั้งหมดไปสวรรค์หมดแล้ว สำหรับศพคนทั้งสามคนจะฌาปนกิจในช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 7 กรกฎาคม และจะนำไปลอยอังคารในแม่น้ำโขง
นางหยาดฝน เชียงใบ อายุ 48 ปี มีศักดิ์เป็นอา น.ส.สุจิตรา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า น.ส.สุจิตรา ไปช่วย น.ส.จิตรา พี่สาว ขายนาฬิกาที่พัทยา กระทั่งพบกับนายนพดล และตกลงปลงใจอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยา แต่เวลานายนพดลเมา ก็จะลงไม้ลงมือกับหลานเป็นประจำ ส่วนที่นายนพดล อ้างว่าเคยไปเจอ น.ส.สุจิตรา อยู่กับอดีตสามีที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ขอปฏิเสธว่า ไม่จริง เพราะทั้งสองคนไปตรวจดีเอ็นเอ และไม่ได้ไปเพียงลำพังสองต่อสอง มีญาติพี่น้องไปด้วยถึง 4 คน และต่างคนต่างนอนคนละห้อง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ช่วงบ่ายวันศุกร์ ซึ่งหลังก่อเหตุ นายนพดล มือปืน อ้างว่ายืนรอมอบตัวกับตำรวจในจุดที่เกิดเหตุประมาณ 15 นาที แต่นึกได้ว่าลูกสาววัย 8 ขวบ โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ไม่มีใครไปรับ จึงบอกพ่อค้าที่ขายของบริเวณนั้นว่า หากตำรวจมาให้รอก่อน จะไปรับลูกแล้วจะกลับมามอบตัว พร้อมรับสารภาพเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ หลังจับได้ว่าเมียจะกลับไปคืนดีกับอดีตสามีเก่า ที่เคยถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ทำให้เกิดอาการหึงหวง จนมีปากเสียงกันบนรถกระบะ ขณะเตรียมไปรับลูกสาวที่โรงเรียนดังกล่าว และอ้างว่าถูกญาติฝ่ายเมียรุมด่าและทำร้าย จึงชักอาวุธปืนยิงตายรวม 3 ศพ.-สำนักข่าวไทย