กรุงเทพฯ 3 ก.ค.- ผบช.สตม.แถลงผลจับกุมนายหน้าคนไทยพัวพันแก๊งโรแมนซ์สแกมชาวแอฟริกัน จ้างชาวบ้านเปิดบัญชีธนาคารแลกกับเงิน 1,500 บาท และคดีอื่นๆอีกหลายคดี
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการจับกุมนายหน้าจ้างคนเปิดบัญชีธนาคาร พัวพันแก๊งแชทรัก…คาร์โก้ลวง ซึ่งเป็นแก๊งโรแมนซ์แสกมชาวแอฟริกัน โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา คือนายธงชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ได้ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ย่านแจ้งวัฒนะ ขณะพยายามเข้าไปทำธุรกรรมการเงิน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุม ชายชาวไนจีเรีย 2 ราย และหญิงไทยอีก 1 ราย ซึ่งเป็นทีมกดเงิน และรับฟอกเงินของแก๊งโรแมนซ์สแกม ชาวแอฟริกันที่ถนนเพชรบุรี 17 แขวงพญาไท เขตราชเทวี จากนั้นตำรวจได้ ขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินจนพบความเชื่อมโยงไปยัง บัญชีธนาคาร 14 บัญชี และได้เรียกเจ้าของบัญชีมาสอบปากคำ จนทราบว่า ทั้ง 14 คน ถูกนายธงชัยว่าจ้างให้เปิดบัญชีธนาคารให้ แลกกับค่าจ้าง เป็นจำนวนเงิน 1,500 บาทต่อบัญชี โดยนายธงชัย จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แต่ต้องให้สมุดบัญชีพร้อมบัตรเอทีเอ็ม ซิมการ์ดโทรศัพท์และสำเนาบัตรประชาชนกับนายธงชัย
อีกทั้ง เมื่อตำรวจไปสอบปากคำคนในหมู่บ้านของนายธงชัยที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังทราบว่านายธงชัยมีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติที่รู้จักกันในเรือนจำ ทุกเดือน นายธงชัย จะได้รับการติดต่อ จากเพื่อนคนดังกล่าวให้เดินทางไป กทม. และ จังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งตั้งแต่ออกจากเรือนจำมา นายธงชัยก็มาชักชวนคนในหมู่บ้านหลายคนให้ช่วยเปิดบัญชีธนาคาร แลกกับค่าจ้างโดยไม่บอกวัตถุประสงค์ ว่าจะนำไปทำอะไร ส่วนตัวนายธงชัยเอง ก็มักจะไปเปิดบัญชีธนาคารอยู่บ่อย ๆ บางบัญชีถูกอายัดไว้แล้ว เนื่องจากมีผู้เสียหายร้องขอให้อายัดบัญชีไว้ได้ทัน ก่อนที่คนร้ายจะกดเงินออกไป ทำให้ยังมีเงินผู้เสียหายหลงเหลือ อยู่ในบัญชีบางส่วน
ขณะเดียวกัน นายธงชัย ยังมีประวัติถูกออกหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและร่วมกัน นำเข้าข้อมูลที่เป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยหลอกลวง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ซึ่งตำรวจ จะส่งตัวนายธงชัย ให้พนักงานสอบสวนสภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ยังจับกุมคดีสำคัญได้อีก 31 รายอาทิ จับแก๊งชายชาวปากีสถาน หลอกเอาเงินจากพนักงานขายร้านสะดวกซื้อ, ผู้ต้องหาฟอกเงินเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งมีเงินหมุนเวียนบัญชีของผู้ต้องหากว่า 50 ล้านบาท ในห้วงระยะเวลาเพียง 3 เดือน .-สำนักข่าวไทย