บขส.ประเมินประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาวันนี้กว่า 1 แสนคนจัดรถรองรับกว่า 5,000 เที่ยว

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – บขส. คุมเข้มความปลอดภัยในช่วงวันหยุดยาว 4 – 7 ก.ค.นี้  โดยประเมินว่าในวันนี้ จะมีประชาชนเดินทาง 100,230 คน และเตรียมรถไว้บริการรวม 5,183 เที่ยว 


นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ในฐานะกรรมการบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ลงพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เพื่อตรวจความพร้อมในการอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงวันหยุดยาว ตั้งแต่วันที่ 4 – 7 กรกฎาคม 2563 โดย ได้กำชับให้ บขส. ดำเนินการตามนโยบายกระทรวงคมนาคม ในเรื่องการตรวจสภาพความพร้อมของคนขับรถ และรถโดยสาร ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) อย่างเคร่งครัด พนักงานขับรถ ต้องควบคุมความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด มีการกำหนดบทลงโทษผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนในทุกกรณีอย่างเคร่งครัด และขอให้ บขส. เข้มงวดในการตรวจสภาพความพร้อมของพนักงานขับรถและรถโดยสาร มีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ขณะเดียวกันกำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้เป็นไปตามมาตรการของทางรัฐบาล พร้อมกันนี้ได้กำชับให้ดูแลรักษาความสะอาดห้องสุขา ที่นั่งพักคอยให้มีความสะอาดปลอดภัย และทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งให้ควบคุมการจำหน่ายตั๋วโดยสารไม่ให้เกินกว่าราคาที่กำหนดด้วย

ทั้งนี้ย้ำว่า ขอความร่วมมือผู้โดยสาร โปรดปฏิบัติตนในการใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ (New Normal) ในการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ โดยการสวมใส่หน้ากากผ้า หรือ หน้ากากอนามัย ตลอดเวลาใช้บริการภายในสถานีขนส่งและบนรถโดยสาร รวมทั้งการสร้างระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ให้มีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร 


นายมาโนช สายชูโต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายธุรกิจเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า บขส. ได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 4 – 7 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา โดยจัดรถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม , รถตู้) รองรับประชาชนวันละ 5,183 เที่ยว เที่ยววิ่งเสริม 1,700 เที่ยว และเตรียมรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถโดยสารเช่าเหมา) จำนวน 200 คัน ซึ่งสามารถรองรับประชาชนที่ต้องการเดินทางได้ประมาณ 100,000 คน ประเมินว่าในวันนี้ (3 ก.ค.) มีประชาชนเดินทาง 100,230คน เตรียมรถไว้บริการรวม 5,183 เที่ยว 

ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลให้ผู้โดยสารเดินทางโดยรถสาธารณะลดลงเหลือประมาณวันละ 30,000 คน จากปกติมีผู้ใช้บริการประมาณวันละ 80,000 – 100,000 คน และจากการผ่อนปรนระยะที่ 4 ทำให้ปัจจุบันมีผู้โดยสารมาใช้บริการวันละ 56,000 คน 

ขณะที่ยอดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้า ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ซึ่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางสูงสุด มีผู้โดยสารจองตั๋วล่วงหน้าประมาณ 40,000 คน เป็นเส้นทางภาคเหนือ ร้อยละ 65 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 61 และเส้นทางภาคใต้ ร้อยละ 91 


รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายธุรกิจเดินรถ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวด้วยว่า บขส. ได้ดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้โดยสาร พนักงานสถานีขนส่งผู้โดยสารมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หากพบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด 

จัดทำมาตรการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ภายในสถานีขนส่งฯ และบนรถโดยสาร โดยจัดที่นั่งบนรถไม่เกินร้อยละ 70 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด และหากที่นั่งครบตามจำนวนที่กำหนดจะไม่ขายตั๋วเพิ่มโดยเด็ดขาด งดให้บริการอาหารเครื่องดื่มบนรถโดยสาร และไม่อนุญาตให้นำอาหารมารับประทานบนรถ เพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัส โดยจะให้รับประทานอาหารเฉพาะที่จุดพักรถเท่านั้น นอกจากนี้พนักงานประจำรถ พนักงานประจำสถานี และผู้ใช้บริการ ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อเข้าใช้บริการภายในสถานีขนส่ง และอยู่บนรถโดยสาร รวมทั้ง บขส. ได้ติดตั้งจุดบริการเจลล้างมือ และเพิ่มความถี่ทำความสะอาดภายในบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสาร เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้กับผู้โดยสารและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19

อย่างไรก็ดีปัจจุบัน บขส. เปิดเดินรถเส้นทางภาคเหนือ จำนวน 22 เส้นทาง ภาคอีสาน เปิดให้บริการ จำนวน 23 เส้นทาง และภาคใต้ เปิดให้บริการทุกเส้นทางแล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า