fbpx

สปส.เพิ่มค่าทำศพกองทุนประกันสังคม เป็น 5หมื่นบาทแล้ว

สปส. 3 ก.ค.-สำนักงานประกันสังคม เผยประกาศกฎกระทรวงกำหนดปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ทดแทนอัตราค่าทำศพกรณีตายเนื่องจากการทำงานจากเดิม 4หมื่นบาทเพิ่มเป็น 5หมื่นบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศพ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2ก.ค.63 เพื่อความเหมาะสม และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเป็นการสร้างหลักประกันให้กับผู้ประกันตน



นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงแรงงาน ได้ออกประกาศกฎกระทรวง กำหนดอัตราเงินค่าทำศพ ในกรณีที่ผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย โดยมิใช่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย เนื่องจากการทำงาน พ.ศ.2563 แห่ง              พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่2) พ.ศ.2537 ลงนามโดย ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้มีการปรับเพิ่มการจ่ายสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย โดยมิใช่ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน จากเดิม 40,000 บาท เพิ่มเป็น 50,000 บาท เพื่อจ่ายเป็นค่าทำศพให้กับผู้จัดการศพ ซึ่งได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.63 เป็นต้นไป


สำหรับเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ในการขอรับสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิตนั้น ผู้ประกันตนจะต้องส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 1เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือนก่อนถึงแก่ความตาย โดยสำนักงานประกันสังคมจะจ่ายให้กับผู้จัดการศพ สำหรับเงินสงเคราะห์กรณีตายจะจ่ายให้กับบุคคลที่ผู้ประกันตนระบุให้เป็นผู้รับ สิทธิประโยชน์ทดแทน โดยการทำหนังสือระบุไว้ ทั้งนี้ กรณีที่ผู้ประกันตนไม่ได้ทำหนังสือระบุไว้ สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายให้ผู้มีสิทธิตามกฎหมาย คือ บิดา มารดา สามีหรือภริยา และบุตร โดยจ่ายเฉลี่ยในอัตราคนละเท่าๆ กัน ดังนี้

-ถ้าก่อนถึงแก่ความตาย ผู้ประกันตนได้ส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 120 เดือน ให้จ่ายเงินสงเคราะห์เป็นจำนวนเท่ากับค่าจ้างเฉลี่ย 2 เดือน

-ถ้าก่อนถึงแก่ความตายผู้ประกันตนได้ส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 120 เดือนขึ้นไป ให้จ่ายเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ย 6 เดือน ให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิสามารถขอรับประโยชน์ทดแทน ได้ภายใน 2 ปี


เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า การปรับเพิ่มการจ่ายสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีผู้ประกันตนถึงแก่ความตายโดยมิใช่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน เป็น 50,000 บาท ในครั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเป็นการสร้างหลักประกันให้กับผู้ประกันตนได้ประโยชน์สูงสุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา/ที่สะดวก หรือโทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบจุดที่ ฮ.ปธน.อิหร่านตกแล้ว

เตหะราน 20 พ.ค.- สื่อทางการอิหร่านรายงานอ้างแหล่งข่าวภาคสนามว่า ผลการตรวจตราทางอากาศในพื้นที่ที่เฮลิคอปเตอร์ของประธานาธิบดีเอบราฮิม เรซี ประสบเหตุตก สามารถกำหนดพิกัดการตกที่แม่นยำได้แล้ว เว็บไซต์สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ (IRNA) ของทางการอิหร่านรายงานว่า ทีมค้นหาและกู้ภัยกำลังเดินทางไปยังจุดที่อาจเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้จากทางการ ขณะเดียวกันโดรนของทูร์เคียหรือตุรกีได้ตรวจพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตก ผู้บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านยืนยันว่า โดรนทูร์เคียพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นซากเฮลิคอปเตอร์ ไออาร์เอ็นเอรายงานว่า แม้ว่าสภาพอากาศเลวร้ายหมอกลงจัดและมีฝนตก ทีมกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาเฮลิคอปเตอร์ที่ประธานาธิบดีไรซีโดยสารมาพร้อมกับคณะและหายไปเมื่อวันอาทิตย์ขณะบินอยู่เหนือภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยได้ค้นหาอย่างละเอียดตามพื้นที่เทือกเขาและเนินเขาใกล้เมืองวาร์ซากานในจังหวัดอาร์เซอร์ไบจานตะวันออก.-814.-สำนักข่าวไทย

เร่งวิจัยยาฉีดพ่นรักษามะเร็งปอด คาดสำเร็จใน 3 ปี

การรักษามะเร็งมีความหวังมากขึ้น หลังนักวิจัยไทยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใช้เทคโนโลยีรักษามะเร็งสมองได้สำเร็จ และนำมาวิจัยต่อยอดรักษามะเร็งกระดูกอ่อนและมะเร็งตับแนวใหม่ได้ผล ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นการวิจัยยารักษามะเร็งปอดแบบฉีดพ่น

รวบแล้วหนุ่มปากี-เมียคนไทย ลวงชายอินเดียฆ่าทิ้งศพ

ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมชายปากีสถาน พร้อมภรรยาชาวไทย ลวงชายอินเดียมาฆ่าแล้วทิ้งศพริมถนน พุ่งเป้าปมขัดแย้งธุรกิจ โดยมีหลักฐานสำคัญจากวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ ขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหา

Made in Thailand แดนไทยเท่ : จากเมืองเก่าภูเก็ตสู่แพ็กเกจกล่องชิโนโปรตุกีส

ช่วง Made in Thailand แดนไทยเท่ วันนี้ จะพาไปดู มนต์เสน่ห์ของตึกรามบ้านช่องในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ถูกถ่ายทอด ไปสู่กล่องขนมรูปแบบชิโนโปรตุกีส กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ภูเก็ตและไทยที่โดนใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ข่าวแนะนำ

“พิชิต” ยื่นลาออก รมต.ประจำสำนักฯ ให้นายกฯ บริหารประเทศต่อไปได้

“พิชิต” ยื่นหนังสือลาออก รมต.ประจำสำนักฯ แล้ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้ ยืนยัน ไม่ยึดติดตำแหน่ง

ตรวจสอบเรือยอชต์ถูกเพลิงไหม้ ขณะจอดลอยลำหน้าเกาะโหลน อ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต

เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ประสานตำรวจตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้เรือยอชต์เสียหายทั้งลำ ขณะผูกทุ่นลอยลำอยู่หน้าเกาะโหลน อ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต คาดเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าฤดูฝนเป็นทางการแล้ว

กรุงเทพฯ 21 พ.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเริ่มฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้วตัั้งแต่ 20 พ.ค. โดยพบว่า ปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาครบทุกปัจจัย ฤดูฝนปีนี้อาจมีพายุหมุนเขตร้อน 1 – 2 ลูกเท่าค่าเฉลี่ยปกติ สภาวะเอลนีโญจะสิ้นสุด แล้วพลิกกลับเป็นลานีญา ทำให้ฝนตกชุก ดังนั้นช่วงปลายฤดูฝนจะตกชุกหนาแน่นทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในบางพื้นที่ นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ได้ออกประกาศรื่อง การเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทย พ.ศ. 2567 โดยประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูร้อนและเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (วันที่ 20 พฤษภาคม) เนื่องจากบริเวณประเทศไทยตอนบน สภาพอากาศมีฝนตกชุกหนาแน่นครอบคลุมพื้นที่มากกว่าร้อยละ 60 และต่อเนื่อง 3 วันขึ้นไป ประกอบกับลมชั้นบนที่พัดปกคลุมประเทศไทยที่ระดับความสูงประมาณ 1.5 กิโลเมตรได้เปลี่ยนทิศเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะพัดนำความชื่นจากะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนลมชั้นบนที่ระดับความสูงประมาณ 10 กิโลเมตรได้เปลี่ยนทิศเป็นลมฝ่ายตะวันออก เมื่อปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาครบทั้ง 3 ปัจจัยจึงถือว่า เป็นการเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยในปีนี้ ทั้งนี้ฤดูฝนของประเทศไทยตอนบนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกจะมีผนตกชุกหนาแน่นต่อไปอีกจนถึงกลางเดือนมกราคม สำหรับปรากฏการณ์เอนโซ (ENSO) ขณะนี้อยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังอ่อน โดยเป็นช่วงท้ายของสภาวะเอลนีโญ คาดการณ์ว่า จะเข้าสู่สภาวะเป็นกลางหรือ Neutral ในเดือนมิถุนายน […]