fbpx

พล.อ.อนุพงษ์ แจงต้องซื้ออุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

รัฐสภา 3 ก.ค.- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันความจำเป็นการจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพราะยังไม่เพียงพอและเพื่อช่วยเหลือเหตุภัยพิบัติ


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่เห็นด้วยกับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายปี 64 โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ที่มีการจัดสรรงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย เช่น เฮลิคอปเตอร์กู้ภัย มูลค่าหลายพันล้านบาท ที่จะนำมาใช้ในการดับเพลิง และสะพานเหล็กชั่วคราว ซึ่งเห็นว่าบางอย่างไม่มีความจำเป็นและไม่เป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศ จึงขอให้ยกเลิกงบฯในการจัดซื้อดังกล่าวและนำงบประมาณในส่วนนั้นไปช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงถึงการจัดสรรงบประมาณในการซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ว่า ทุกอย่างถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีไว้เพื่อช่วยเหลือประชาชนและประเทศ เมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติทั้งจากธรรมชาติและจากฝีมือมนุษย์ ซึ่งที่ผ่านมาไม่สามารถจัดซื้ออุปกรณ์ไว้ได้ในทุกจังหวัด แต่ได้จัดไว้โดยแบ่งเป็นศูนย์เขต จำนวน 18 ศูนย์ เมื่อเกิดเหตุไฟป่าหรือเหตุอื่นจะต้องใช้อุปกรณ์แล้วรถดับเพลิงจำนวนมาก


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความจำเป็นในการมีเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิง เพื่อไว้ใช้ในการดับเพลิงทั้งไฟป่า และตึกสูง ว่าที่ผ่านมาจะต้องมีการขอยืมจากกองทัพ ซึ่งไม่มีเครื่องฉีดน้ำจากเฮลิคอปเตอร์ ทำให้ไม่เกิดความแม่นยำในการดับไฟและมีจำนวนเฮลิคอปเตอร์ไม่เพียงพอ หากเกิดเหตุการณ์พร้อมกันหลายเหตุการณ์ก็อาจทำให้เกิดความสูญเสีย การใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อปฏิบัติการกู้ภัย ไม่ใช้เพื่อรองรับบุคคลวีไอพีหรือผู้ใหญ่ของบ้านเมืองอย่างที่ฝ่ายค้านกังวล

“รถผลิตอากาศ ยืนยันว่ามีความจำเป็น เช่นหากเกิดกรณีเดียวกันกับ 13 หมูป่าและอากาศภายในถ้ำลดลงก็ต้องมีการนำรถผลิตอากาศเข้าไปช่วยเหลือ ส่วนสะพานเหล็กชั่วคราว ต้องมีไว้เพื่อให้ประชาชนได้เดินทางสัญจรข้ามไปมาเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว และว่า การจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ไม่มีการล็อคบริษัทที่เคยเป็นคู่สัญญากับกองทัพ อย่างที่มีการกล่าวอ้าง และหากพบมีการทำผิด ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย       


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด