นายกฯ ยันจะใช้งบประมาณให้คุ้มค่า สร้างคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น

รัฐสภา 2 ก.ค.- นายกรัฐมนตรี แจงตั้งงบกลางปี 64 ไว้สูง เพื่อใช้จ่ายเป็นงบประจำ ช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติ ยืนยันพร้อมรับฟังข้อคิดเห็นทุกฝ่าย ย้ำปัญหาของประเทศมีมากต้องใช้งบประมาณมากขึ้น แต่จะใช้งบอย่างคุ้มค่า สร้างคุณภาพชีวิตประชาชน เผยหากยังอยู่ในตำแหน่งจะปฏิรูประบบคมนาคม โลจิสติกส์ครั้งใหม่ เตือนนักการเมืองอย่าแทรกแซงงบฯท้องถิ่น ไม่อยากให้เกิดทุจริตเหมือนอดีต


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการใช้จ่ายงบประมาณปี 2564 ว่า การใช้จ่ายงบประมาณจะต้องเป็นไปอย่างทั่วถึง แต่ติดข้อจำกัด ที่จะมีเงินใช้พร้อมกัน ดังนั้นจึงต้องมีทั้งคนที่ได้ และไม่ได้ รวมไปถึงคนที่ได้ในอนาคต  จึงต้องมีการจัดระเบียบ การใช้งบประมาณ เช่น งบประมาณเร่งด่วน หลายหน่วยงาน และหลายจังหวัด ถูกตัดงบประมาณออกไป จากการตรวจสอบขั้นต้นพบว่าจะต้องกระจายโครงการ แต่ละโครงการจะมีคณะกรรมการกลั่นกรองดูแลเพื่อให้มีเพียงพอกับการใช้จ่าย ทั้งการดูแลประชาชน เงินเดือนข้าราชการ สวัสดิการ ประกันสินค้าราคาเกษตร เงินช่วยเหลือด้านต่าง ๆ รวมถึงงบประมาณด้านการส่งเสริม การให้ทุน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน ดังนั้นรัฐบาลจึงคิดว่าเป็นเสมือนการให้ปลา และจะต้องให้เบ็ดไปด้วย โดยเฉพาะเบ็ดที่เปรียบเหมือนการฝึกอบรม จะต้องเกิดผลสัมฤทธิ์ออกมา 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เช่นเดียวกับการวิจัยพัฒนา ที่รัฐบาลได้ปฏิรูปการวิจัย โดยจะเพิ่มงบประมาณ เปิดช่องทางให้ทุกคนได้เสนอผลการวิจัย ให้สอดคล้องต่อความต้องการของคนในประเทศ ต้องมีผลงาน เกิดผลผลิต  และต้องนำไปใช้ประโยชน์ให้ได้ และเป็นความต้องการของประเทศ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้าน โดยมีแผนแม่บท จนนำไปสู่แผนปฏิบัติ และงบประมาณก็จะถูกนำไปจัดสรรตามขั้นตอน 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงระบบปฏิรูปราชการว่า ตนให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกระจายอำนาจ แต่สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องพัฒนาตัวเอง ทุกคนต้องมีความพร้อมในการทำงาน และทุกท้องถิ่นต้องมีขีดความสามารถ ในการดำเนินโครงการต่าง ๆ และต้องไม่รั่วไหล หรือ เกิดการทุจริต  ส่วนข้าราชการที่มีจำนวนมาก ต้องมีการปรับโครงการสร้างเก่าที่มีมา หลายอย่างจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งขึ้นมาใหม่ เช่น การจัดตั้งหน่วยงานดิจิทัล ที่ต้องมารองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่นเดียวกับการปรับการรับราชการในกระทรวงกลาโหม ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงเป็นข้าราชการพลเรือน เพื่อลดจำนวนนายพล ซึ่งหลายอย่างต้องใช้เวลาในการปรับแก้ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์จากการอภิปรายครั้งนี้ แต่หลายคนยังมีความไม่เข้าใจกัน อยากให้มองปัญหาที่เกิดขึ้นในภาพรวมที่คณะรัฐมนตรีมองลงไป ซึ่งจะเป็นคนละแบบ เพราะปัญหาทุกอย่างจะต้องถูกรวบรวมมาเสนอยัง ครม. แล้วค่อย ๆ สังเคราะห์ ตัดสินใจในการดำเนินการต่าง ๆ ว่าสิ่งไหนมาก่อน และสิ่งไหนต้องทำทีหลัง หากการจัดสรรงบประมาณปีนี้ไม่ได้ ก็จะจัดสรรในปีต่อไป 

ส่วนงบกลางที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าตั้งไว้สูงนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายที่จะต้องใช้จ่ายประจำ รวมถึงรองรับกรณีภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น ถ้าหากไม่มีปัญหาภัยพิบัติ ก็นำงบส่วนนี้ไปเพิ่มเติมให้ในส่วนท้องถิ่น ที่มีความต้องการ เช่น การพัฒนาแหล่งน้ำเป็นต้น เห็นได้จากการประชุม ครม.ต่างจังหวัด ที่จะมีการเสนอโครงการต่าง ๆ ขึ้นมา งบกลางจึงมีความจำเป็นที่จะนำมาใช้ ตนจะตัดสินใจใช้งบประมาณคนเดียวไม่ได้ เพราะมีคณะกรรมการกลั่นกรองขึ้นมา หลายคนยังไม่เข้าใจ และบางครั้งข้อเสนอดี แต่การปฏิบัติยังทำไม่ได้ เนื่องจากติดกฏหมาย กฏระเบียบบางตัว ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้าน ให้ฉายารัฐบาลเป็นผู้นำแห่งการก่อหนี้ ว่า เป็นแบบนี้ทุกรัฐบาล เพียงแต่ว่าขณะนี้ปัญหาในประเทศมากขึ้น  ก็จำเป็นต้องใช้งบประมาณมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งงบประมาณก็มาจากภาษีประชาชน ซึ่งเป็นหลักการอยู่แล้ว แต่วันนี้อยากจะบอกว่า รัฐบาลจะต้องใช้เงินอย่างเป็นขั้นตอน ใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า ให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนในประเทศ ที่มีความหวังจากรัฐบาล สร้างคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้ประชาชนมาร่วมมือกับรัฐบาล และตระหนักว่า ได้สิ่งไหนไปแล้วบ้าง โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณ ในการช่วยเหลือด้านการเกษตร ประกันราคาข้าว ช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นงบที่ต้องใช้จ่ายมหาศาล ดังนั้นรัฐบาลต้องแก้ไข บูรณาการสินค้าเกษตรให้มีราคาเพิ่มขึ้น ด้วยการแก้ปัญหาลดต้นทุน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การชี้แจงในวันนี้ไม่ต้องการสร้างความข้ดแย้งกับใคร แต่อยากให้ปรับวิธีคิด ด้วยความเข้าใจและร่วมมือกัน เช่น แผนการปฏิรูปแบบคมนาคมของประเทศ  ที่จะต้องมีการคิดใหม่ เปรียบเทียบกับต่างประเทศ ไทยจะต้องสร้างเส้นทางสายไหมขึ้นมา ทำระเบียงเศรษฐกิจครอบคลุม โดยไม่ทับเส้นทางเดิม แต่ต้องใช้งบประมาณและเวลา ซึ่งหากเกิดขึ้นได้ จะสามารถแก้ไขปัญหาจราจรที่ติดขัด เป็นต้น หากทำสิ่งเหล่านี้ได้จะเกิดการปฏิรูปคมนาคม โลจิส ติกส์ครั้งใหม่ในประเทศไทย ตนตั้งเป้าหมายไว้ว่า หากยังอยู่ในตำแหน่งจะทำให้ได้ เพราะจะทำให้เกิดเมืองใหม่ ชุมชนใหม่ขึ้นมาตลอดเส้นทางนี้ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ได้กำชับในที่ประชุมห้ามเข้าไปแทรกแซงการใช้จ่ายงบประมาณในท้องถิ่น ไม่ได้หมายความว่าเป็นการปรามนักการเมืองแต่โดยทั่วไป ทุกคนจะต้องช่วยกันดูแล เพราะแต่ละโครงการ แต่ละพื้นที่ ประชาชนจะต้องเสนอขึ้นมาตามกลไกลท้องถิ่น และนำขึ้นมาพิจารณากลั่นกรอง ที่ ครม.ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานว่าเกิดการทุจริตแต่อย่างใด แต่ในอดีตเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาแล้ว ซึ่งวันนี้อยากจะเตือนไว้ ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะขณะนี้โครงการต่าง ๆ ที่เสนอขึ้นมา ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในการใช้งบประมาณ ตนไม่ได้ว่าใคร แล้วบอกว่าตัวเองดีคนเดียว ซึ่งตนไม่ใช่คนแบบนั้น.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดเส้นทางงดให้ชาวบ้านขึ้น “ช่องบก” หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – บรรยากาศภายในจุดเฝ้าระวัง ภจ12 (ฐานมรกต) อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ในหมู่บ้านโนนสูง หมู่ 3 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นทางขึ้นสู่ช่องบก ยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.68) เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางไม่ให้ชาวบ้านขึ้นไปยังพื้นที่ด้านบน พร้อมมีการตรึงกำลังทหารเพื่อดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกัน มีรถพยาบาลทยอยขึ้นไปยังพื้นที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพบริเวณที่ตั้งกำลังของทหารไทย นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งจุดอำนวยการฉุกเฉิน โดยขนย้ายเต็นท์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นไปเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ชาวบ้านในพื้นที่แสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสิทธิ์ อายุ 73 ปี กล่าวว่า ปกติจะขึ้นป่าเป็นประจำ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่ห้ามเข้าพื้นที่ ทำให้ขาดรายได้ ขณะที่นางพวย อายุ 61 ปี เล่าว่า นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่พบเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีกระสุนตกลงมาในหมู่บ้าน แม้รู้สึกกลัว แต่ก็พอทำใจได้ เพราะเคยผ่านเหตุการณ์คล้ายกันมาแล้ว ในช่วงบ่ายวันนี้ นายอำเภอน้ำยืนเตรียมเรียกประชุมหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อวางแนวทางรับมือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่เวลา […]

นายกฯ ยันศาลฯ เบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่กระทบแผนเจรจาไทย

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – นายกฯ ยันศาลการค้ารัฐบาลกลางเบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่ส่งผลกระทบแผนเจรจาไทย ทีมงานยังเดินหน้าต่อ จนถึงวันนี้ยังไม่ได้วันนัดชัดเจน รู้สึกสบายใจหลายประเทศอาเซียนก็อยู่ระดับเดียวกับไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยว่า ทรัมป์ ไม่สามารถใช้อำนาจฉุกเฉินในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกได้ เรื่องนี้จะส่งผลกับประเทศไทยที่กำลังรอเจรจาเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกาอยู่หรือไม่ ว่า ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการไปตกลงจะมีผลอย่างไร ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจแต่เราก็ต้องทำต่อ เตรียมความพร้อมต่อไป จะหยุดชะงักเลยก็คงไม่ได้และไม่แน่ใจว่ารับฟังหรือยัง เพราะระหว่างที่ไปประชุมที่มาเลเซียได้มีโอกาสได้คุยกับทุกประเทศ ได้คุยกันเรื่องของภาษีสหรัฐอเมริกา ทุกคนพูดเหมือนกันว่าหลายประเทศอยู่ในระดับเดียวกับประเทศไทย คือส่งรายงานเข้าไปและรอวันที่จะตอบกลับมาว่าจะได้ไปคุยวันไหน ยืนยันว่าเราไม่ได้ช้าและอยู่ในขั้นตอนของการรอวันที่จะไปคุยเช่นกันตามกรอบ 90 วัน จึงขอให้สบายใจได้ และจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้วันชัดเจนว่าจะได้คุยวันไหนต้องรอให้ทางสหรัฐอเมริกานัดมา แต่ในทีมทำงานไม่เป็นทางการยังติดต่อกันได้ ยังได้คุยและอัพเดทสถานการณ์กันอยู่ และก็เป็นสัญญาณบวก และย้ำอีกครั้งว่า ตนเองไม่ได้ถูกแบนวีซ่าสหรัฐอเมริกาขอให้สบายใจได้. -420-สำนักข่าวไทย

หุ้นบวก-บาทอ่อน-ทองลง รับข่าวที่ศาลฯ ระงับมาตรการภาษีตอบโต้ของ “ทรัมป์”

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – หุ้นไทยบวก-บาทอ่อนค่า-ทองลง รับข่าวที่ศาลฯ ระงับมาตรการภาษีตอบโต้ของ “ทรัมป์” ขณะ บล.กรุงศรี คาด SET จะกลับเหนือ 1,200-1,210 จุด ใน 1-3 วัน เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 32.84-32.86 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (เวลา 09.56 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุเงินบาทอ่อนค่าลงสอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ เงินเยน และเงินฟรังก์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น รับข่าวที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ในนิวยอร์กระงับการใช้มาตรการภาษีศุลกากรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต ในการเก็บภาษีแบบครอบคลุมจากประเทศที่ส่งออกสินค้ามายังสหรัฐฯ มากกว่าที่นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ด้านทำเนียบขาวได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว และอาจยื่นเรื่องต่อไปจนถึงศาลสูงหากจำเป็น แต่ในระหว่างนี้ ตลาดมองว่าเป็นสัญญาณบวกว่าทรัมป์อาจยอมถอยจากการกำหนดภาษีในระดับสูงสุดที่เคยขู่ไว้ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณสะท้อนสถานะ outflows ของนักลงทุนต่างชาติออกจากตลาดพันธบัตรไทยในวันนี้ด้วยเช่นกัน สมาคมค้าทองคำ […]

“วันนอร์” ชมการอภิปรายงบฯ 69 วันแรก ไม่น่าเบื่อ ประเด็นไม่ซ้ำ

รัฐสภา 29 พ.ค.-“วันนอร์” ชมการอภิปรายงบฯ 69 วันแรก ทุกคนเตรียมตัวมาดี ข้อมูลเป็นประโยชน์ ไม่น่าเบื่อ ประเด็นไม่ซ้ำ ระบุแม้ สส. – รมต. – นายกฯ ไม่อยู่ห้องประชุม แต่รับฟังจากทีวี – วิทยุ ด้านนอกได้ บอก “กุสุมาลวตี” ยื่นสอบจริยธรรม “อนุทิน” ทำได้ โยนฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงภาพรวมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วันแรก ว่า ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีได้เสนอรายละเอียดในทุกแง่มุม ซึ่งสภา และประชาชนที่ได้รับฟัง น่าจะเข้าใจว่ารัฐบาลมีความตั้งใจในการใช้งบประมาณในปีนี้ ส่วนผู้นำฝ่ายค้าน ก็อยากให้รัฐบาล และผู้ใช้งบประมาณปรับปรุงแนวทางในการทำงาน เพื่อให้งบประมาณเกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ซึ่งทุกคนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน อภิปรายอย่างมีคุณค่าสำหรับประชาชน และผู้ที่จะใช้งบประมาณทุกภาคส่วน ก็จะนำข้อคิดเห็นนี้ไปดูแลงบประมาณ โดยหลังจากวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 จะมีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ 72 คน […]