“สมคิด” สั่งกระตุ้นกำลังซื้อระดับบน-ยืดหนี้ระยะยาว

กระทรวงการคลัง 2 ก.ค.-“สมคิด” สั่งคลังศึกษามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวระดับชุมชนและกระตุ้นกำลังซื้อระดับบน มอบหมาย ธปท.พิจารณาหาแนวทางช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงเงินทุนและยืดหนี้ระยะยาว


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือมาตรการเศรษฐกิจ โดยมีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้บริหารกระทรวงการคลัง ร่วมการประชุมที่กระทรวงการคลัง ว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จัดทำโครงการภายใต้งบประมาณฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 400,000 ล้านบาทภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท โดยจะต้องเน้นการสร้างงานและพัฒนาท้องถิ่นให้เกิดความเข้มแข็ง เพื่อรองรับแรงงานย้ายถิ่นฐานกลับภูมิลำเนา หลังจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19

พร้อมมอบหมายให้กระทรวงการคลังและกรมสรรพากรหามาตรการกระตุ้นการบริโภค เพื่อรองรับส่งเสริมการท่องเที่ยว และหามาตรการเสริมการท่องเที่ยวระดับชุมชมมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและดึงเม็ดเงินในกระเป๋าของคนระดับบนออกมาใช้จ่ายมากขึ้น โดยขอให้เร่งจัดหามาตรการออกมาภายในกลางเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อที่จะไปเสริมกับมาตราการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่รัฐบาลประกาศออกมาก่อนหน้านี้ ขณะเดียวได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) นำเรื่องกองทุน สสว.เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนมาพิจารณา เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 กรกฎาคมนี้


นอกจากนี้ มอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย หาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ขอสินเชื่อเกิน 500 ล้านบาท กำลังขาดสภาพคล่องและไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) ของ ธปท. พร้อมทั้งให้กระทรวงการคลังพิจารณาแนวทางให้สถาบันการเงินขยายเวลาการพักชำระหนี้เป็น 2 ปี จากเดิมที่มาตรการช่วยเหลือด้วยการพักชำระหนี้ 6 เดือนจะสิ้นสุดเดือนตุลาคมนี้ตามที่ภาคเอกชนเสนอ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยให้สถานการณ์เศรษฐกิจดีขึ้น และการส่งออกฟื้นตัวช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าได้

นายอุตตม กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) หารือร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อเตรียมออกโครงการค้ำประกันสินเชื่อระยะที่ 9 ( PGS 9 ) ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือว่าจะเป็นวงเงินเท่าใด คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์นี้มาตรการดังกล่าวจะออกมา

ส่วนมาตรการกระตุ้นการบริโภคและท่องเที่ยวนั้น จะต่อยอดจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาออกไปก่อนหน้านี้ ส่วนจะให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ โดยมอบหมายให้กรมสรรพากรพิจารณา ส่วนการยืดหนี้นั้น ให้ ธปท.พิจารณายังบอกไม่ได้ว่าจะยืดออกไปยาวเท่าใด แต่อยากให้เป็นระยาว และช่วยได้ทุกกลุ่ม


ขณะที่มาตรการเหล่านี้จะสามารถกระตุ้นจีดีพีได้เท่าใดนั้น นายอุตตม กล่าวว่า ขอให้เลิกพูดเรื่องนี้ อยากให้โฟกัสว่า จะทำอย่างไร และเป็นการช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการหลังโควิด-19 คลี่คลายมากกว่า . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว