นนทบุรี 30 มิ.ย. – รมช.พาณิชย์ชงเชื่อมเครือข่ายเอสเอ็มอีอาเซียน หวังได้ประโยชน์สูงสุดจากห่วงโซ่การผลิตโลก
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือไอทีดี ศึกษาวิจัยเรื่อง “การพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของประเทศสมาชิกอาเซียนสู่ความเชื่อมโยงกับห่วงโซ่คุณค่าโลก (Global Value Chain)” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและมาตรการที่ช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถเชื่อมโยงกับ GVCs ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอบเขตการศึกษาวิจัยได้ประเมินสถานะและบทบาทของเอสเอ็มอีต่อการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ GVCs พร้อมทั้งศึกษาและประเมินปัญหาและอุปสรรคในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ GVCs โดยอาศัยการวิเคราะห์นโยบายจากประเทศต้นแบบ 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลี และศึกษาเชิงลึกกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ประกอบด้วย อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และอุตสาหกรรมการขนส่งและการบิน
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์เชิงปริมาณการมีส่วนร่วมใน GVCs โดยใช้ฐานข้อมูลปัจจัยการผลิตและผลผลิต ของ OECD ซึ่งมีการแบ่งสาขาการผลิต 34 สาขา ระหว่างปี 2538-2554 ใน 4 อุตสาหกรรม แสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมทั้ง 4 ของประเทศไทยในสายการผลิตโลกนั้นมีความเชื่อมโยงเพิ่มมากขึ้น โดยอุตสาหกรรมขนส่งมีระดับความมีส่วนร่วมมากที่สุด หากพิจารณาแยกอุตสาหกรรมตามลักษณะการเชื่อมโยงกันจะพบว่าอุตสาหกรรมอาหารมีการพึ่งพิงสายการผลิตโลกเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันมูลค่าของอุตสาหกรรมอาหารไทยที่ถูกผลิตและนำไปใช้วัตถุดิบต่อในต่างประเทศ ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ อุตสาหกรรมพลังงาน (ประกอบด้วยปิโตรเลียมเป็นส่วนใหญ่) จำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ทำให้ต้องพึ่งพิงมูลค่าจากสายการผลิตโลกสูง ขณะที่สัดส่วนมูลค่าของอุตสาหกรรมพลังงานต่ออุตสาหกรรมอื่นกลับลดลง แตกต่างจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการพึ่งพิงสายการผลิตโลกในสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ในสายการผลิตโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่ได้จากงานวิจัยเรื่องนี้ พบว่าควรเน้นไปที่การพัฒนาบุคลากร สร้างระบบคุณวุฒิวิชาชีพ การให้เงินทุนพัฒนา ควรควบคู่กับการวิเคราะห์ความคุ้มค่า มีที่ปรึกษาและมีการประเมินผล ภาครัฐควรสนับสนุนภาคบริการและการค้าควบคู่กัน ในการขยายตลาดไปต่างประเทศ การส่งเสริม R&D และนวัตกรรม ควรดำเนินการร่วมกันระหว่างผู้ผลิตและผู้ให้บริการ ให้มีการสร้างนวัตกรรมร่วมกัน การสร้างความร่วมมือระหว่าง SMEs ไทย ผลักดันให้สมาคมผู้ประกอบการมีการพัฒนา สร้างหน่วยธุรกิจย่อยในสมาคมฯ เพี่อให้ผู้ประกอบการรายย่อย เข้าไปรับสัมปทานขนาดใหญ่ หรือลงทุนในกิจการที่เป็นประโยชน์ในภาพรวมได้ การส่งเสริมความเชื่อมโยงกับเอสเอ็มอีในอาเซียนควรสร้างฐานข้อมูลผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยให้สมบูรณ์ เป็น Platform เพื่ออำนวยความสะดวก ในการประสานงาน และเช่ือมต่อไปยังประเทศอื่นในอาเซียน และควรจัดให้มีเวทีแลกเปลี่ยนเครือข่ายระหว่างสมาคมผู้ประกอบการในอาเซียน จัดงาน Trade Showใน CLMV เพื่อสร้างเครือข่ายให้กับ SMEs
ทั้งนี้ ผลการวิจัยเรื่องนี้จะมีส่วนช่วยสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในการกำหนดนโยบายและนำไปสู่ผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม อันจะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเอสเอ็มอีในประเทศไทยให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ GVCs มากขึ้น เพื่อการเติบโตแบบทั่วถึงได้มากขึ้นในอนาคต.-สำนักข่าวไทย