กรุงเทพฯ 30 มิ.ย.-ทนาย ยันไม่รู้จัก “บรรยิน” เป็นการส่วนตัว รับงานประกันตัว “โจ” จาก 1 ในทีมทนายทำคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ขณะที่ลูกชายบรรยิน ขอเลื่อนให้ปากคำเป็น 2 ก.ค.นี้
นายกรณ์ กันเที่ยง ทนายความที่ประกันตัวนายสุธน ทองศิริ หรือ โจ อดีตผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำเดียวกันกับ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ จำเลยคดีฆาตรกรรมนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเเละคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา โดยได้เดินทางมาให้ปากคำ หลังพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามออกหมายเรียกเพื่อมาให้ข้อมูล และชี้แจงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน หรือไม่
นายกรณ์ เปิดเผยหลังให้ปากคำนานกว่า 5 ชั่วโมงว่า ได้ให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎ ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการชิงตัวพันตำรวจโทบรรยิน และไม่รู้สึกแปลกใจที่พนักงานสอบสวนจะเกิดความสงสัย จนต้องออกหมายเรียกมาสอบปากคำ การมาครั้งนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจตามปกติ
ส่วนการประกันตัวนายสุธน หรือโจ ไม่ได้รับการประสานจากพันตำรวจโทบรรยิน แต่ได้รับงานนี้มาจากเพื่อนทนายที่รู้จักกัน พร้อมรับเงินการประกันตัวจากญาติผู้ต้องหา ยืนยันไม่รู้จักพันตำรวจโทบรรยินเป็นการส่วนตัว รวมถึงพันตำรวจโทนุกูล ทองศิริ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ เพิ่งมารู้จักหลังมีข่าวปรากฎตามสื่อต่างๆ
ทั้งนี้มีรายงานว่าการสอบปากคำนายกรณ์ ให้การยอมรับว่าได้รับจ้างจากญาตินายสุธน หรือโจ เป็นเงินประมาณ 2 หมื่นบาท ให้ช่วยประกันตัวออกมา เพราะเป็นช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดทำให้ไม่มีงานขาดรายได้จึงรับงานนี้ อีกทั้งญาตินายสุธน ไม่สามารถเข้าเยี่ยมหรือประกันตัวได้ด้วยตัวเอง สำหรับทนายความที่เป็นผู้ประสานนายกรณ์ นั้นเป็น 1 ใน ทีมทนายว่าความให้พันตำรวจโทบรรยิน ในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา
สำหรับนายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ ลูกชายพันตำรวจโทบรรยิน ประสานขอเลื่อนการให้ปากคำเป็นวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนจะเข้าไปสอบปากคำพยานในเรือนจำอีกประมาณ 2-3 ปาก จึงจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อ พันตำรวจโทบรรยินได้ .-สำนักข่าวไทย