กทม.30 มิ.ย.- ศาลชั้นต้นยกฟ้อง “ศุภชัย” ฉ้อโกงเงินฝากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เสียหายพันล้าน ชี้พยานหลักฐานยังมีข้อสงสัย ยกประโยชน์ให้จำเลย
ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1260/61ที่นางนวลฉวี เกตุวัฒนเวสน์ กับพวกรวม 412 คน ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟัองสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ในฐานะประธานบริหารฯ เป็นจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานร่วมฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จ
สืบเนื่องจากระหว่างปี 2552-2556 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ได้โฆษณาเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปทราบว่า กิจการของจำเลยที่ 1 เป็นธนาคารพาณิชย์ มีสถานะการเงินมั่นคง น่าเชื่อถือสามารถจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์พิเศษอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ธนาคารพาณิชย์อื่นพึงจ่ายได้เป็นเหตุให้โจทก์ทั้งหมดและประชาชนหลงเชื่อนำเงินมาฝากกับจำเลยที่1 ทั้งที่ความจริงแล้วจำเลยที่1 มีสถานะเป็นเพียงสถาบันการเงินเพื่อชุมชนเท่านั้น ไม่มีสถานะเป็นสถาบันเป็นธนาคารพาณิชย์แต่อย่างใดทำให้จำเลยทั้งสอง ได้เงินหรือทรัพย์สินจากโจทก์ไปรวมทั้งสิ้น 1,115,567,027 บาท
ก่อนอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้คุมตัวนายศุภชัย จากเรือนจำกลางบางขวาง ตามคำพิพากษาศาลฏีกา คดียักยอกเงินฝากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นจำนวน 22 ล้านบาท มาฟังคำพิพากษาที่ศาลอาญา
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษายกฟ้องทั้งจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 เนื่องจากพยานหลักฐานยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสหกรณ์ฯ กระทำผิดตามฟ้อง ขณะที่จำเลยที่ 2 พยานหลักฐาน ยังมีเหตุอันควรสงสัยว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องหรือไม่จึงพิพากษายกฟ้อง
หลังฟังคำพิพากษาข้างต้น นายศุภชัย ถูกคุมตัวไปฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น ในคดี อ.235 /2562 ที่นายคนอง จุลมนต์ กับพวมรวม 292 คน ยื่นฟ้องสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ในฐานะประธานบริหารฯ เป็นจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานร่วมฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จ อีก 1 สำนวน ซึ่งศาลมีคำพิพากษาคดียกฟ้องจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 เช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย