เสี่ยหนุ่มใหญ่จ่อยิงภรรยา-ลูกชายดับ ก่อนยิงตัวตาย

กระบี่ 29 มิ.ย. – เสี่ยรับซื้อเศษยางพาราใช้อาวุธปืน .38 จ่อยิงภรรยาและลูกชายวัย 12 ขวบ เสียชีวิต ก่อนยิงตัวตาย รวม 3 ศพ คาดสาเหตุมาจากปมหึงหวง ขณะที่หลานชายวัย 10 ขวบ ที่อยู่ในเหตุการณ์ วิ่งหนีออกมาได้รอดหวุดหวิด



พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผู้กำกับการ สภ.เมืองกระบี่ พร้อมชุดพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา เข้าตรวจสอบเหตุยิงกันเสียชีวิต 3 ศพ ภายในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ โดยที่เกิดเหตุอยู่ติดถนนสายกระบี่น้อย-เขาพนม เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ข้างบ้านเปิดเป็นโรงรับซื้อเศษยางพารา และมีชาวบ้านยืนมุงดูนับร้อยคน


จากการตรวจสอบภายในห้องโถงกลางบ้าน พบทีวียังเปิดอยู่ มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ นอนอยู่หน้าจอทีวี ศพแรกทราบชื่อคือ นายจรูญ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี เป็นเจ้าของบ้าน สภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งโสร่งลายสีฟ้า นอนตะแคงซ้ายจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ขมับขวา 1 นัด กระสุนทะลุขมับซ้าย และที่มือขวากำปืนลูกโม่ขนาด .38 คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ


ใกล้กันพบศพ น.ส.เรณู (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ภรรยาของนายจรูญ อยู่ในชุดเสื้อแขนสั้นสีครีม นุ่งผ้าถุงโจมอก นอนตะแคงขวาจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนที่ลำคอทะลุท้ายทอย 1 นัด และที่แขนขวา 1 นัด นอกจากนี้ ภายในห้องนอนยังพบผู้เสียชีวิต 1 ศพ เป็นเด็กชายอายุ 12 ปี ลูกชายของนายจรูญ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะ 1 นัด รวมถึงแขนซ้ายและขวา ข้างละ 1 นัด 

สอบสวน ด.ช.เอ (นามสมมติ) หลานชายของผู้ตาย ซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังกินข้าวอยู่ในห้อง ส่วนนายจรูญ ซึ่งมีศักดิ์เป็นคุณตา นั่งอยู่หน้าจอทีวีกับภรรยา รวมถึงลูกชายคนสุดท้อง จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงออกมาดู และพบว่า น.ส.เรณู ถูกยิงเสียชีวิต จากนั้นคุณตาได้สั่งให้ตนรีบไปเก็บจานข้าวแล้วให้เข้าไปอยู่ในห้อง ก่อนจะเห็นคุณตาเอาปืนไปจ่อหัวลูกชายวัย 12 ขวบ แต่ลูกชายพยายามเอามือปัด จึงถูกจ่อยิงศีรษะจนเสียชีวิต ตนเองจึงตัดสินใจวิ่งหนีออกจากบ้านทันที ก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด

สอบสวนเบื้องต้นคาดว่า นายจรูญอาจมีความเครียดจากปัญหาบางอย่าง จึงลงมือก่อเหตุ ซึ่งจากการสอบถามญาติ ทราบว่า นายจรูญต้องกินยาระงับประสาท ขณะที่นายมะโน เครือแก้ว กำนัน ต.กระบี่น้อย ซึ่งเป็นญาติของผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายเป็นคนมีฐานะ อาชีพทำสวนยางและสวนปาล์มหลายไร่ และรับซื้อเศษยางพาราด้วย หลังภรรยาเก่าเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งได้ประมาณ 1 ปี นายจรูญก็มีภรรยาใหม่ คือ น.ส.เรณู และอยู่กินกันมาประมาณ 6 เดือน แต่ น.ส.เรณู ยังคงไปทำงานที่ห้างฯ ใน อ.เหนือคลอง ไม่ยอมลาออกจากงานมาอยู่บ้าน และมักจะกลับบ้านที่ อ.เหนือคลอง อยู่บ่อยๆ จึงทำให้นายจรูญเกิดความหึงหวง และเคยขู่ว่าจะยิงให้หมดทั้งบ้าน

ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน น.ส.เรณู ได้กลับไปดูแลลูกที่เกิดกับสามีเก่า ทำให้นายจรูญไม่พอใจและมีปากเสียงกัน ก่อนที่จะมาก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดภายในบ้าน และสอบปากคำพยานอย่างละเอียดอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ