พช.คิกออฟปลูกผักสวนครัว เฟส 2 สร้างชุมชนมั่นคงทางอาหาร

สำนักข่าวไทย 28 มิ.ย.- คิกออฟ! ปลูกผักสวนครัว เฟส 2 “อธิบดี พช.” ชูบ้านโพธิ์ศรี สุพรรณบุรี พื้นที่แห่งชัยชนะ ประกาศเดินหน้าสร้างวัฒนธรรมทางสังคม “ปลูกผักสวนครัว เฟส 2” เริ่มทันทีวันที่ 1 กรกฎาคมเดือนมหามงคล สู่ความสำเร็จ 5 ธันวาคม นำพาชุมชนมีความมั่นคงทางอาหาร นำพาประเทศชาติสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน





วันนี้ (28 มิ.ย.) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงาน การน้อมนำแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ของกรมการพัฒนาชุมชน ณ บ้านโพธิ์ศรี ตำบลบางปลาม้า อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วยนายเสน่ห์ บุญสุข ที่ปรึกษาอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (อดีตพัฒนาการจังหวัดสุพรรณบุรี) นายวีระชาติ สมบูรณ์วิทย์ พัฒนาการจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนจังหวัด คณะกรรมการสภาสตรีจังหวัด เครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองระดับจังหวัด ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านบ้านโพธิ์ศรี ให้การต้อนรับ


พระธรรมพุทธิมงคล ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ได้มอบต้นมหาโพธิ์แก่อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และได้แสดงปาฐกถาธรรมเรื่องการปลูกผักสวนครัว โดยยกคำสอนคติเตือนใจเปรียบเทียบคนทำงานกับคนเกียจคร้านว่า “ไม้จิ้มก้นดีกว่าคนขี้เกียจ คนขี้เกียจเป็นเสนียดสังคม” ซึ่งคนที่ชอบพูดว่าไม่มีงานทำถือว่าเป็นคำพูดที่ไม่ดี เพราะความจริงงานมีให้ทำทุกวัน ขอให้พิจารณาดูกันเองว่าแต่ละวันเราควรทำงานอะไรกันได้บ้าง

“ขอชื่นชม ยินดีกับชาวบ้านโพธิ์ศรี ที่ได้ร่วมกันทำโครงการปลูกผักสวนครัวไว้กิน ไว้ใช้ เพราะถือว่าเป็นทรัพย์ในดินสินในน้ำที่อยู่ในแผ่นดิน ความจริงแผ่นดินเรามีสมบัติเยอะแยะ อยู่ที่เราจะเอามาทำประโยชน์ได้มากแค่ไหน ประเทศเราอยากกินอะไรก็ปลูกได้ ทั้งพืชผักและพืชผลไม้ ขออนุโมทนาให้ชาวบ้านโพธิ์ศรีและจังหวัดสุพรรณบุรี ประสบความสำเร็จในโครงการปลูกผักสวนครัวทุกประการ” พระธรรมพุทธิมงคลกล่าวแสดงปาฐกถาธรรมทิ้งท้าย

 นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ของการแพร่บาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม กรมการพัฒนาชุมชนจึงได้ “น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผน “ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” ของกรมการพัฒนาชุมชน เพราะเชื่อมั่นในแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นความเข้มแข็งมาจากข้างในตัวเราก่อน มีการพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด และการได้มาเยือนบ้านโพธิ์ศรีในวันนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ได้เห็นภาพความร่วมมือร่วมใจที่เข้มแข็ง และความรุดหน้าของการร่วมปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่สำเร็จไปแล้วกว่า 95 %

ผมขอยกย่องคุณพี่เสน่ห์ บุญสุข เป็นทั้งที่ปรึกษาอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และเป็นอดีตพัฒนาการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุคคลต้นแบบของข้าราชการที่ดีของกรมการพัฒนาชุมชน ใช้ความรู้ความสามารถ ความขยันหมั่นเพียร อุทิศตนทำงานให้กับทางราชการมาตลอดชีวิต เป็นทั้งผู้นำ เป็นทั้งผู้ทำเพื่อความสุขของชุมชนบ้านเกิด แม้เกษียณอายุราชการแล้วก็ยังมุ่งมั่นทำงานเพื่อส่วนรวมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ ดำเนินงาน และการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาเป็นแนวทางในการเป็นผู้นำชุมชนในการปลูกผักสวนครัว ในช่วงประเทศชาติประสบสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ช่วยทำให้ชุมชนมีความมั่นคงทางอาหาร อยู่รอดปลอดภัย

พร้อมกันนี้ได้ยกตัวอย่างความสำเร็จในพื้นที่ อบต.โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี เป็นโครงการต้นแบบแห่งแรกตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเริ่มทดลองเป็นแห่งแรกและประสบความสำเร็จ นำไปสู่เป็นต้นแบบอย่างดีในการปลูกพืชผักทั่วประเทศ ปลูกไว้ทั้งรับประทานเองในครัวเรือน และมีเหลือก็แบ่งปันให้กับเพื่อนบ้าน ช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหาร รวมทั้งมีการใช้พื้นที่สาธารณะส่วนรวมมาใช้ประโยชน์ ซึ่งที่ อบต.โก่งธนู ได้สร้างต้นแบบความสามัคคีแห่งการเกื้อกูลกันโดยปลูก “ถนนมีผล ผู้คนรักกัน” ซึ่งผลไม้ที่ปลูกสามารถเก็บกินได้เลย ขณะนี้ที่บ้านโพธิ์ศรีปัจจุบันก็มีพื้นที่ส่วนรวมปลูก “ผลไม้กู้ชีวิตครัวเรือน” ซึ่งชุมชนได้ร่วมมือกันอย่างเป็นพลัง ผมอยากให้ความร่วมมือร่วมแรงใจกันอย่างนี้ อยู่คู่เป็นวัฒนธรรมของสังคมไปอย่างต่อเนื่อง 

“ขอขอบคุณทางจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวแบบเข้าถึงทุกครัวเรือน โดยมีการประสานงาน และสร้างความรู้ความเข้าใจกับกลุ่มองค์กรต่างๆ ของหมู่บ้าน ชุมชน เพื่อสานพลังขับเคลื่อนการปลูกผักสวนครัว รวมทั้งการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผักพืชผักสวนครัว สนับสนุนต้นกล้าพืชผักสวนครัว สนับสนุนปุ๋ยอินทรีชีวภาพคุณภาพสูง จนสำเร็จไปแล้วกว่า 95 % การปลูกผักสวนครัวเป็นคำตอบที่บรรพบุรุษเราสอนไว้ สมัยก่อน ปู่ย่าตายาย จะปลูกผักสวนครัวกันทุกบ้าน หากวันนี้ทุกคนช่วยกันปลูกผักสวนครัวให้มากชนิดทุกบ้าน เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร หมู่บ้าน ชุมชน ทุกแห่งก็จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ได้”

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้พบว่าจากจำนวนครัวเรือนเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั่วประเทศ 12,976,932 ครัวเรือน  ไม่รวมกรุงเทพฯ รวมพลังปลูกผักสวนครัวไปแล้วถึง 95 % ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว กรมการพัฒนาชุมชน มีความคาดหวังว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวจะช่วยเหลือประชาชนและสังคมไทยได้หลายประการ กล่าวคือ ทำให้ประชาชนลดรายจ่ายจากการซื้อผักมาบริโภคในระดับครัวเรือน โดยครัวเรือนสามารถลดรายจ่ายเฉลี่ย 50 บาท/วัน หากไม่ต้องซื้อผัก 20 วัน/เดือน ก็สามารถประหยัดเงินได้กว่า 1,000 บาท/เดือน ขณะเดียวกันก็จะมีผักรับประทานตลอดทั้งปี”

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวสรุปว่าการดำเนินการโครงการปลูกผักสวนครัวที่ผ่านมามีหัวใจ 5 ประการคือ 1.ต้องมีความต่อเนื่องและเป็นพลังแห่งความร่วมมือ 2.ร่วมมือกันทำทั้งครอบครัว 3.ร่วมกันสร้างชุมชนให้เป็นสีเขียวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 4.สร้างให้เป็นวัฒนธรรมการปลูกพืชผักเป็นสิ่งที่ดีงามสืบทอดต่อกันไปอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาสู่การสร้างนวัตกรรม ซึ่งทั้งหมดจะนำไปสู่ข้อที่ 5 คือ พลังแห่งความร่วมมือของครอบครัวและชุมชน ในการช่วยเหลือสู่ความยั่งยืนด้วยวิถีพอเพียง

“ผมขอใช้พื้นที่บ้านโพธิ์ศรี จังหวัดสุพรรณบุรี ดินแดนที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงมีชัยชนะเหนืออริราชศัตรู เป็นดินแดนแห่งชัยชนะ เป็นชัยภูมิที่ดี เพื่อประกาศสร้างความมั่นคงทางอาหารต่อระยะที่ 2  เพราะที่น่าเรามีต้นแบบอย่างคุณพี่เสน่ห์ และพี่น้องชาวบ้านโพธิ์ เพื่อขับเคลื่อนโครงการแผนปฏิบัติการ 90 วันปลูกผักสวนครัว สู่ระยะที่ 2 ที่เริ่มในเดือนมหามงคลวันที่ 1 กรกฎาคม และไปสิ้นสุดความสำเร็จวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นห้วงเวลามหามงคล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ทำให้แผ่นดินนี้เกิดวัฒนธรรมการปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับบ้านเมือง และนำพาประเทศชาติสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าวทิ้งท้าย

พร้อมกันนี้ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ยังได้เยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน โดยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้มอบพืชสวนครัวคู่ชีวิตได้แก่ต้นกล้วย 5 หน่อ มะละกอ 5 ต้น แก่พัฒนาการจังหวัดภาคกลางเพื่อนำไปขยายผลการสร้างวัฒนธรรมการปลูกพืชผักสวนครัว และดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์มอบต้นอินทนิลให้แก่ผู้นำสตรีและผู้นำเครือข่ายต่างๆ ตามกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี อีกทั้งร่วมปลูกต้นรวงผึ้งและต้นอินทนิล และร่วมปรุงอาหารกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]