อุทยานฯ เตรียมพร้อมเปิด 1 ก.ค.

ลำปาง 27 มิ.ย.- อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน พร้อมเปิดบริการ 1 กรกฎาคม โดยจำกัดจำนวนคนเข้าได้ครั้งละ 800 คน ห้องอาบน้ำแร่เปิดบริการเฉพาะห้องเดี่ยว แช่ไข่ได้แต่ห้ามนั่งเฝ้า


อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาง ซักซ้อมการต้อนรับนักท่องเที่ยว ในระบบการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแบบ New Normal National Park เพื่อเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ ซึ่งจะเริ่มเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยทดสอบขั้นตอนและประเมินความพร้อม สำหรับผู้ที่เข้ามาใช้บริการในอุทยานแห่งชาติอุทยานแจ้ซ้อน ต้องเช็กข้อมูลจองคิวล่วงหน้า โดยลงทะเบียนผ่านแอป QueQ และแสดงตั๋วการจองคิวให้เจ้าหน้าที่ดูเมื่อมาถึง รวมทั้งต้อง check-in ผ่านแอปไทยชนะ ส่วนผู้ที่ไม่มีโทรศัพท์รองรับการสแกนคิวอาร์โค้ดให้ลงทะเบียนในสมุด พร้อมลงทะเบียนรถยนต์ที่ขับขี่เข้ามาท่องเที่ยว จากนั้นเจ้าหน้าที่จะวัดอุณหภูมิ และให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ก่อนเข้าไปยังด่านเพื่อชำระเงินค่าผ่านเข้าอุทยาน เมื่อขับรถผ่านประตู จะมีการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณล้อรถและประตู ก่อนที่จะเข้าไปยังภายในอุทยาน และขอให้ทุกคนสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างระหว่างการเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยประกาศเตือน และต้อง check-out ผ่านแอปไทยชนะ ทุกครั้งเมื่อออกจากอุทยาน

ทั้งนี้ จะเปิดรับนักท่องเที่ยวแต่ละช่วง เพียง 800 คน โดยแบ่งเป็นจากการจองผ่านแอป QueQ 70% และเดินทางมาโดยไม่มีการจอง 30% ส่วนน้ำตก ห้ามลงเล่นน้ำ ห้องอาบน้ำบริการเฉพาะที่เป็นห้องเดี่ยว ส่วนห้องรวม ห้องแช่เท้า ยังไม่เปิดให้บริการ พื้นที่ที่แช่ไข่ น้ำแร่ ยังสามารถซื้อไข่และนำมาแช่น้ำแร่ได้ แต่ไม่อนุญาตให้นั่งเฝ้า เมื่อถึงเวลาก็มานำไข่ออกจากบ่อ เพื่อไม่มีมีการนั่งรวมกลุ่มกัน ส่วนบ้านพักยังมีบริการเช่นเดิม บริเวณกางเต็นท์ยังมีให้บริการ แต่ให้เว้นระยะห่างเพิ่มขึ้น  


เช่นเดียวกับที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน หมู่ 8 ต.ผาเลือด อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ นายพงศ์สัณห์ รัตนสุวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน พร้อมเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อม และทดลองซ้อมใหญ่เสมือนจริง เตรียมรับนักท่องเที่ยว ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ หลังปิดจากสถานการณ์โควิดมานานกว่า 3 เดือน โดยมีฝ่ายปกครองทั้งจังหวัดและอำเภอ และคณะกรรมการป้องกันโรคติดต่อจังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว ผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว ร่วมทดสอบความพร้อม Test Run ด้วย เพื่อสร้างความรับรู้ ความเข้าใจ และสามารถนำไปถ่ายทอดให้กับนักท่องเที่ยว

โดยเริ่มทดสอบความพร้อม ตั้งแต่ขั้นตอนการรับนักท่องเที่ยว จัดตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประชาสัมพันธ์ การจองผ่านแอปพลิเคชั่น “QueQ” คัดกรองนักท่องเที่ยว ทั้งวัดอุณหภูมิร่างกาย เจลล้างมือ ติดสติกเกอร์ หากพบอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศา เบื้องต้นจะให้นั่งพัก หากยังมีไข้จะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลท่าปลา โดยรถกู้ชีพกู้ภัย และที่ดูตื่นตาตื่นใจ คือจุด Check in แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ด้วยคิวอาร์โค้ด ขนาดใหญ่บนป้ายไวนิล 1×2 เมตรที่ตั้งไว้บริการ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นได้ชัดเจน พร้อมการลงทะเบียน ชื่อที่อยู่ เข้า-ออกเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน และต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคน

อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ที่หมู่ 2 บ้านบ่อท่อ ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมทดสอบระบบแอปพลิเคชัน #QueQ การเข้าพื้นที่และบริการนักท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวแบบ New Normal และแอปพลิเคชัน ไทยชนะ ตลอดจนจัดสถานที่เตรียมมาตรการเฝ้าระวังการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะเปิดบริการนักท่องเที่ยว ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ซึ่งการทดสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย


นอกจากนี้ ยังมีการจัดระเบียบท่าเทียบเรือ โดยจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด ในการเข้าชมถ้ำผีหัวโต และถ้ำลอด ต้องมีการเว้นระยะห่าง ทุกคนที่เข้าอุทยานฯ ต้องตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัย  ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณีจะเรียกประชุมผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว และให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ให้ได้รับการดูแลในเรื่องของสุขภาพ ความสะอาดและความปลอดภัย 

อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น เกาะห้องที่มีชายหาดสวยงาม และสัตว์น้ำนาชนิด ถ้ำผีหัวโต ชมภาพเขียนสี อายุราวๆ 2,000-3,000 ปี ถ้ำลอดชมหินงอก หินย้อย และกิจกรรมพายเรือคายัค ชมป่าโกงกาง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย