“พล.อ.ประวิตร” ขับเคลื่อนศักยภาพกีฬาว่ายน้ำสู่นานาชาติ

สำนักข่าวไทย 26 มิ.ย.- “พล.อ.ประวิตร” ย้ำพัฒนากีฬาว่ายน้ำสู่ระดับนานาชาติ ตั้งเป้าเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ คราวหน้า





เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (26 มิ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ร่วมประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2562 สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย

ที่ประชุมการประชุมสมาคมฯ ได้แถลงผลการดำเนินการประจำปี 2562 ด้านการบริหาร ผลการประเมินการบริหารจัดการอย่างมีมาตรฐานตามแนวทางการพัฒนากีฬาเป็นเลิศในปี 2562 ได้รับการประเมินผลจากการกีฬาแห่งประเทศไทยเต็ม 5 คะแนน ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนา และปรับระบบการบริหารจัดการของสมาคมฯ ให้มีประสิทธิภาพ และสามารถตรวจสอบผลการดำเนินงานได้ชัดเจน


ด้านเทคนิคกีฬา ปี 2562 สมาคมได้ดำเนินการ ดังนี้

ฝ่ายกีฬาว่ายน้ำและมาสเตอร์ ได้ส่งนักกีฬาว่ายน้ำเข้าร่วมการแข่งขันในรายการนานาชาติที่สำคัญได้แก่ การแข่งขัน “ซีเอจกรุ๊ป” ที่กัมพูชา, “เอเชี่ยนเอจกรุ๊ป” ที่อินเดีย และ “ซีเกมส์ ครั้งที่ 30” ที่ฟิลิปปินส์” โดยรายการนี้ เจมส์บอนด์ ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ ยังได้ทำลายสถิติซีเกมส์ในท่ากบ 200 เมตรของตัวเองลงได้อีกด้วย ซึ่งภาพรวมผลงานของนักว่ายน้ำไทยในปี 62 ถือว่านักกีฬาทำผลงานได้ดีกว่าปีที่ผ่านมาเป็นผลจากการส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมต่างประเทศทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และจีน. ทางด้านได้นักกีฬาว่ายน้ำสูงอายุเข้าร่วมการแข่งขันรายการ “ซีมาสเตอร์” ที่อินโดนีเซีย และรายการ “เวิล์ดมาสเตอร์” ที่เกาหลีใต้ โดยในรายการนี้ “เงือกอุ้ม” น.ส.ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง ได้ทำลายสถิติโลกของว่ายน้ำมาสเตอร์ ในท่าฟรีสไตล์ 200 เมตร อีกด้วย

ฝ่ายกีฬากระโดดน้ำ ปี 62 ที่ผ่านมาได้ส่งนักกีฬาไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศอังกฤษและประเทศจีน จากนั้นก็ได้ส่งนักกีฬาชุดใหญ่เข้าร่วมการแข่งขัน “ชิงแชมป์โลก” ที่เกาหลีใต้ และชุดเยาวชนก็ส่งไปแข่งขันรายการ “เอเชี่ยนเอจ” ที่อินเดีย และในปลายปีก็ส่งนักกีฬาชุดที่ดีที่สุด เข้าร่วมการแข่งขัน “กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30” ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปี

ฝ่ายกีฬาว่ายน้ำมาราธอน ในปี 62 มีการจัดแข่งขันกีฬาว่ายน้ำมาราธอนประเทศไทย ประจำปี 2562 ทั้งหมด 3 ซีรีส์ จากนั้นก็ได้ส่งนักกีฬาชุดใหญ่เข้าร่วมการแข่งขัน “ชิงแชมป์โลก” ที่เกาหลีใต้, “ว่ายน้ำมาราธอนเวิล์ดซีรีส์” ที่ประเทศจีน  และการส่งทีมไปแข่งขัน “กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30” ที่ฟิลิปปินส์

ฝ่ายกีฬาระบำใต้น้ำ ต้นปีมีการส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมที่อิตาลีกว่า 50 วัน และกลับมามีการฝึกซ้อมที่สระ กกท.อย่างต่อเนื่อง จนกลางปีได้ส่งนักกีฬาไปแข่งขันรายการใหญ่อย่าง “ชิงแชมป์โลก” ที่เกาหลีใต้ โดยสามารถทำผลงานได้เป็นอันดับที่ 8

ฝ่ายกีฬาโปโลน้ำ ในปีที่ผ่านมานั้น ได้ส่งนักกีฬาทีมชายทีมหญิงไปฝึกซ้อมที่ประเทศกรีซและบินไปแข่งขัน EU Nations Cup จนคว้าแชมป์มาได้ ส่วนปลายปีก็ได้เดินทางไปการแข่งขัน “กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30” ที่ฟิลิปปินส์ โดยในรายการนี้ได้มีพล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและผู้ว่าการกกท. เดินทางมาเป็นกำลังใจแก่นักกีฬา จนทีมหญิงสามารถคว้าแชมป์มาได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันมาได้สำเร็จ.

วิทยาศาสตร์การกีฬา ในปี 2562 สมาคมฯ ได้นำวิทยาศาสตร์การกีฬาในด้านต่าง ๆ มาสนับสนุนนักกีฬาทีมชาติ เพื่อเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทุกระดับ ตามนโยบายของประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนบุคลากรและสิ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ จาก สถาบันการศึกษา และการกีฬาแห่งประเทศไทย ในด้านชีวกลศาสตร์มาช่วยสนับสนุนนักกีฬาในการวิเคราะห์การว่ายน้ำให้เหมาะสม เช่น การทดสอบการใช้อุโมงค์น้ำ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีในด้านโภชนาการ จิตวิทยา กายภาพบำบัด และสรีระวิทยาอีกด้วย

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสรุป ผลการดำเนินงาน ในปีที่ผ่านมา รับรองงบดุลสมาคมฯ ปี 2562​ และชี้แจง แผนงานและนโยบาย ของสมาคม ที่จะดำเนินการในปีนี้ เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 รองนายกฯ ยังกล่าวขอขอบคุณ การปฏิบัติงาน และขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จ ของทีมกีฬาทุกๆ ทีม ในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ และความร่วมมือของทุกท่าน ขอให้นำบทเรียนที่ได้รับ ไปปรับปรุง และเร่งพัฒนาวงการกีฬาทางน้ำของเรา ให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป โดยห้วงต่อไปให้เน้นในเรื่องต่างๆ คือ 1.ให้ความสำคัญ และจัดความเร่งด่วน การนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ ในการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาในเชิงบูรณาการ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นรูปธรรม 2.จัดทำแผนพัฒนานักกีฬาในระยะยาวสู่ความเป็นเลิศ และเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันในระดับนานาชาติ ให้มีความต่อเนื่อง และเกิดความยั่งยืน 3.ยกระดับการบริหารงาน ไปสู่มาตรฐานสากล และเพิ่มบทบาทของสมาคมฯ ในสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ และสหพันธ์ว่ายน้ำระดับภูมิภาค 4.พัฒนางานสวัสดิการนักกีฬา และบุคลากรทางกีฬา ให้เหมาะสม และมีความรวดเร็ว ในการ ช่วยเหลือและสนับสนุน 5.สนับสนุนแผนการก่อสร้าง และเตรียมแผนงานศูนย์กีฬาทางน้ำ ที่จะเกิดขึ้น โดยมุ่งสู่การเป็นศูนย์กีฬาทางน้ำ ที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค มีการบริหารจัดการที่เป็นมาตรฐาน และให้เกิดประโยชน์สูงสุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก