“พล.อ.ประวิตร” ขับเคลื่อนศักยภาพกีฬาว่ายน้ำสู่นานาชาติ

สำนักข่าวไทย 26 มิ.ย.- “พล.อ.ประวิตร” ย้ำพัฒนากีฬาว่ายน้ำสู่ระดับนานาชาติ ตั้งเป้าเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ คราวหน้า





เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (26 มิ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ร่วมประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2562 สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย

ที่ประชุมการประชุมสมาคมฯ ได้แถลงผลการดำเนินการประจำปี 2562 ด้านการบริหาร ผลการประเมินการบริหารจัดการอย่างมีมาตรฐานตามแนวทางการพัฒนากีฬาเป็นเลิศในปี 2562 ได้รับการประเมินผลจากการกีฬาแห่งประเทศไทยเต็ม 5 คะแนน ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนา และปรับระบบการบริหารจัดการของสมาคมฯ ให้มีประสิทธิภาพ และสามารถตรวจสอบผลการดำเนินงานได้ชัดเจน


ด้านเทคนิคกีฬา ปี 2562 สมาคมได้ดำเนินการ ดังนี้

ฝ่ายกีฬาว่ายน้ำและมาสเตอร์ ได้ส่งนักกีฬาว่ายน้ำเข้าร่วมการแข่งขันในรายการนานาชาติที่สำคัญได้แก่ การแข่งขัน “ซีเอจกรุ๊ป” ที่กัมพูชา, “เอเชี่ยนเอจกรุ๊ป” ที่อินเดีย และ “ซีเกมส์ ครั้งที่ 30” ที่ฟิลิปปินส์” โดยรายการนี้ เจมส์บอนด์ ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ ยังได้ทำลายสถิติซีเกมส์ในท่ากบ 200 เมตรของตัวเองลงได้อีกด้วย ซึ่งภาพรวมผลงานของนักว่ายน้ำไทยในปี 62 ถือว่านักกีฬาทำผลงานได้ดีกว่าปีที่ผ่านมาเป็นผลจากการส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมต่างประเทศทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และจีน. ทางด้านได้นักกีฬาว่ายน้ำสูงอายุเข้าร่วมการแข่งขันรายการ “ซีมาสเตอร์” ที่อินโดนีเซีย และรายการ “เวิล์ดมาสเตอร์” ที่เกาหลีใต้ โดยในรายการนี้ “เงือกอุ้ม” น.ส.ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง ได้ทำลายสถิติโลกของว่ายน้ำมาสเตอร์ ในท่าฟรีสไตล์ 200 เมตร อีกด้วย

ฝ่ายกีฬากระโดดน้ำ ปี 62 ที่ผ่านมาได้ส่งนักกีฬาไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศอังกฤษและประเทศจีน จากนั้นก็ได้ส่งนักกีฬาชุดใหญ่เข้าร่วมการแข่งขัน “ชิงแชมป์โลก” ที่เกาหลีใต้ และชุดเยาวชนก็ส่งไปแข่งขันรายการ “เอเชี่ยนเอจ” ที่อินเดีย และในปลายปีก็ส่งนักกีฬาชุดที่ดีที่สุด เข้าร่วมการแข่งขัน “กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30” ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปี

ฝ่ายกีฬาว่ายน้ำมาราธอน ในปี 62 มีการจัดแข่งขันกีฬาว่ายน้ำมาราธอนประเทศไทย ประจำปี 2562 ทั้งหมด 3 ซีรีส์ จากนั้นก็ได้ส่งนักกีฬาชุดใหญ่เข้าร่วมการแข่งขัน “ชิงแชมป์โลก” ที่เกาหลีใต้, “ว่ายน้ำมาราธอนเวิล์ดซีรีส์” ที่ประเทศจีน  และการส่งทีมไปแข่งขัน “กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30” ที่ฟิลิปปินส์

ฝ่ายกีฬาระบำใต้น้ำ ต้นปีมีการส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมที่อิตาลีกว่า 50 วัน และกลับมามีการฝึกซ้อมที่สระ กกท.อย่างต่อเนื่อง จนกลางปีได้ส่งนักกีฬาไปแข่งขันรายการใหญ่อย่าง “ชิงแชมป์โลก” ที่เกาหลีใต้ โดยสามารถทำผลงานได้เป็นอันดับที่ 8

ฝ่ายกีฬาโปโลน้ำ ในปีที่ผ่านมานั้น ได้ส่งนักกีฬาทีมชายทีมหญิงไปฝึกซ้อมที่ประเทศกรีซและบินไปแข่งขัน EU Nations Cup จนคว้าแชมป์มาได้ ส่วนปลายปีก็ได้เดินทางไปการแข่งขัน “กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30” ที่ฟิลิปปินส์ โดยในรายการนี้ได้มีพล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและผู้ว่าการกกท. เดินทางมาเป็นกำลังใจแก่นักกีฬา จนทีมหญิงสามารถคว้าแชมป์มาได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันมาได้สำเร็จ.

วิทยาศาสตร์การกีฬา ในปี 2562 สมาคมฯ ได้นำวิทยาศาสตร์การกีฬาในด้านต่าง ๆ มาสนับสนุนนักกีฬาทีมชาติ เพื่อเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทุกระดับ ตามนโยบายของประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนบุคลากรและสิ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ จาก สถาบันการศึกษา และการกีฬาแห่งประเทศไทย ในด้านชีวกลศาสตร์มาช่วยสนับสนุนนักกีฬาในการวิเคราะห์การว่ายน้ำให้เหมาะสม เช่น การทดสอบการใช้อุโมงค์น้ำ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีในด้านโภชนาการ จิตวิทยา กายภาพบำบัด และสรีระวิทยาอีกด้วย

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสรุป ผลการดำเนินงาน ในปีที่ผ่านมา รับรองงบดุลสมาคมฯ ปี 2562​ และชี้แจง แผนงานและนโยบาย ของสมาคม ที่จะดำเนินการในปีนี้ เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 รองนายกฯ ยังกล่าวขอขอบคุณ การปฏิบัติงาน และขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จ ของทีมกีฬาทุกๆ ทีม ในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ และความร่วมมือของทุกท่าน ขอให้นำบทเรียนที่ได้รับ ไปปรับปรุง และเร่งพัฒนาวงการกีฬาทางน้ำของเรา ให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไป โดยห้วงต่อไปให้เน้นในเรื่องต่างๆ คือ 1.ให้ความสำคัญ และจัดความเร่งด่วน การนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ ในการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาในเชิงบูรณาการ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นรูปธรรม 2.จัดทำแผนพัฒนานักกีฬาในระยะยาวสู่ความเป็นเลิศ และเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันในระดับนานาชาติ ให้มีความต่อเนื่อง และเกิดความยั่งยืน 3.ยกระดับการบริหารงาน ไปสู่มาตรฐานสากล และเพิ่มบทบาทของสมาคมฯ ในสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ และสหพันธ์ว่ายน้ำระดับภูมิภาค 4.พัฒนางานสวัสดิการนักกีฬา และบุคลากรทางกีฬา ให้เหมาะสม และมีความรวดเร็ว ในการ ช่วยเหลือและสนับสนุน 5.สนับสนุนแผนการก่อสร้าง และเตรียมแผนงานศูนย์กีฬาทางน้ำ ที่จะเกิดขึ้น โดยมุ่งสู่การเป็นศูนย์กีฬาทางน้ำ ที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค มีการบริหารจัดการที่เป็นมาตรฐาน และให้เกิดประโยชน์สูงสุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]