ทำเนียบฯ 26 มิ.ย.-“วิษณุ” ให้รอ ศบค.ชุดใหญ่ เคาะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชี้เป็นธรรมดาที่กลุ่มเคลื่อนไหวมองโยงการเมือง ระบุเป็นข้อดี ช่วยเตือนสติรัฐบาล
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อประเมินความเหมาะสมในการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมใหญ่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค. วันที่ 29 มิ.ย.นี้ ว่า เรื่องนี้ต้องรอผลการประชุม ศบค.ว่าจะให้ความเห็นชอบตามที่เสนอหรือไม่ เพราะจะต้องฟังความคิดเห็นจากหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข
“ที่ผ่านมา ทุกหน่วยงานได้ระมัดระวังกันเรื่องการคุมเข้มอยู่แล้ว สำหรับครั้งนี้ คงคุมเข้มในเรื่องการเดินทางของนักท่องเที่ยว (Travel bubble) รวมถึง วันที่ 1 กรกฎาคม นี้ โรงเรียนต่างๆ จะเปิดเทอม จึงต้องดูแลเกี่ยวกับเด็กๆเป็นกรณีพิเศษ นอกจากนี้ ในส่วนของชายแดนก็น่าเป็นห่วง เนื่องจากยังมีการเดินทางข้ามไปมาจากต่างประเทศ ซึ่งมีปัญหาอยู่พอสมควร” นายวิษณุ กล่าว
ส่วนกรณีที่ สมช.ระบุว่า ไม่เข้มงวดกับนักธุรกิจมากเท่ากับนักท่องเที่ยวทั่วไปนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ก็มี 2 อย่าง คือ ถ้าเข้ามาแล้วอยู่ยาว ก็ต้องกักตัว 14 วันก่อน กับ ถ้าอยู่สั้นแค่ 3-4 วัน ก็จะมีมาตรการอีกแบบหนึ่ง เช่น การใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ และเข้าโรงแรมที่จะต้องจ่ายเงินเอง พร้อมกับมีตารางเวลาที่จะสามารถให้ติดตามตัวได้ และต้องชี้แจงด้วยว่า เข้ามาทำธุรกิจอะไร ไปไหนบ้าง ผ่านทางเครือข่ายแอปพลิเคชันไทยชนะ
นายวาณุ กล่าวว่า ข้อสำคัญคือ ด่านที่ตรวจสอบ คือ ด่านแรกจากประเทศของเขา โดยการตรวจโรค , ด่านที่ 2 คือ มาตรวจเมื่อมาถึงที่ประเทศไทย ด่านที่ 3 เข้าสู่ขั้นตอนการเลือกโรงแรมที่จะเข้าพักอาศัย โดยการจ่ายเงินเอง , ด่านที่ 4 จะต้องจัดทำตารางเวลาที่ระบุได้ว่า เดินทางไปไหนมาไหนบ้าง , ด่านที่ 5 คือ ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ ในการให้ติดตามตัวได้ , ด่านที่ 6 คือมีกำหนดเวลาที่แน่ชัด ซึ่งขณะนี้แจ้งความจำนงมาแล้วกว่า 20,000 คน
ต่อกรณีที่ฝ่ายค้านและกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองมองว่า การขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือน มีนัยทางการเมือง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ก็เป็นอย่างนี้กันทั่วโลก หลายกลุ่มก็มีการออกมาคัดค้าน เป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ดีเป็นการเตือนสติให้รัฐบาลจะได้คิด .- สำนักข่าวไทย