รัฐสภา 24 มิ.ย.-“วราวุธ” ขอโทษชาวแพร่ รื้อบ้านบอมเบย์เบอร์มา โดยไม่ถามความเห็น พร้อมรับผิดชอบ ยืนยันไม่มีการนำไม้เก่าจากอาคารไปขายร้านขายของเก่า มีคนเฝ้าไม้ตลอด 24 ชม.
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (24 มิ.ย.) มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามด้วยวาจาต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของนายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่ พรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารศูนย์เรียนรู้การป่าไม้ เป็นงบประมาณ 6.7 ล้านบาท กรณีที่มีการรื้อถอนอาคารโบราณ ซึ่งเป็นอาคารที่ทำการเก่าของบริษัท บอมเบย์ เบอร์มา เทรดดิ้ง ซึ่งตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองแพร่ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ริมแม่น้ำยม
“กรณีดังกล่าวทำให้เกิดเสียงวิพากวิจารณ์ที่ไม่เหมาะสมในการดำเนินการดังกล่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากการทำงบประมาณในการบูรณะที่มีการรื้อ และการใช้รถแม็คโคร โดยที่ไม่มีการถอดแบบที่ถูกต้องทางวิชาการ ไม่ดูแลไม้เดิมอาคารนี้ตามโครงสร้าง ซึ่งควรจะซ่อมแซม และให้กรมศิลปากรและให้พี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น” นายเอกการ กล่าว
นายเอกการ กล่าวว่า ตามกฎหมายคุ้มครองอาคารโบราณ อาคารหลังนี้เข้าองค์ประกอบการเป็นโบราณสถานตามกฎหมายทุกประการ แม้จะไม่ได้อยู่ในเขตอนุรักษ์เมืองเก่า แต่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถือว่า เป็นโบราณสถานที่ต้องขออนุญาตทางกรมศิลปากร แต่ไม่มีการทำตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น ทำให้เกิดความเสียหายต่ออาคารโบราณแห่งนี้
“จึงขอถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถึงวัตถุประสงค์ในการซ่อมแซมครั้งนี้ รวมถึง กระบวนการที่ถูกต้องในการปรับปรุงอาคารที่เป็นโบราณสถานว่ากระทรวงมีนโยบายอย่างไร และเหตุใด ทำไมโบราณสถานที่เป็นประวัติศาสตร์ของเมืองแพร่ถูกทำลาย” นายเอกการ กล่าว
นายเอกการ กล่าวว่า ปัจจุบันอาคารแห่งนี้ถูกรื้อถอนเป็นที่เรียบร้อย และการรื้อถอนไม่เป็นไปตามรูปแบบของการบูรณะอาคารโบราณ จึงตจ้องการให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างสำหรับอาคารสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นต่างๆ ที่ควรจะได้รับการดูแลปรับปรุงอย่างถูกต้อง และที่สำคัญที่สุดได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างแท้จริงก่อนที่จะดำเนินการใดๆ
ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงว่า การซ่อมแซมและบูรณะอาคารหลังนี้ มีแนวคิดตั้งแต่ปี 2561 แต่ไม่ได้งบประมาณ พึ่งมาได้งบประมาณในปี 2563 จากนั้น ผู้ว่าฯ แพร่มอบหมายให้กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชดูแลเรื่องการซ่อมแซม โดยมอบหมายต่อให้พื้นที่เริ่มดำเนินการ แต่กลับเกิดเหตุการณ์ให้ชาวแพร่เสียใจ เมื่อเหตุอาคารบอมเบย์เบอร์มาหายไป เหลือแต่กองไม้ ยอมรับว่า สิ่งที่ผิดพลาดคือ การดำเนินการที่ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน
“สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดที่ คำว่า เสียใจ คงจะไม่พอ คำว่า ขอโทษ คงจะไม่พอ จึงต้องมีการตรวจสอบ ผมขอให้กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร และเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน อธิบดีกรมอุทยานฯ ก็ได้ย้ายหัวหน้าสวนรุกขชาติเชตวันออกจากพื้นที่ไปแล้ว จะผิดจะถูกอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ต้องมีการย้ายออกจากพื้นที่ไปก่อน และหลังจากนั้นก็จะมีการสอบสวน การสอบสวนก็จะเป็นส่วนหนึ่ง” นายวราวุธ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายวราวุธ กล่าวว่า หัวใจสำคัญคือการเยียวยาความรู้สึก และจิตวิญาณของชาวจังหวัดแพร่ อาคารหลังนี้ ได้รับการปรับปรุง มีแผนการจะปรับปรุง แต่ต้องกราบขออภัยที่ไม่ได้พูดคุยและหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยชัดเจน ตนก็รับไม่ได้เช่นกัน พรรคชาติไทยพัฒนาก็มีอาคารเก่าเช่นนี้อยู่ในที่ทำการของพรรค ดังนั้น การดำเนินการที่เกิดขึ้นในจังหวัดแพร่ เป็นการดำเนินการที่ขาดความรอบคอบ ไม่คำนึงถึงหัวใจของชาวแพร่
“จากนี้ไป กรมอุทยานฯ ขอรับผิดชอบเรื่องงบประมาณที่เกิดขึ้น รวมทั้ง การประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชาวแพร่มาหารือร่วมกัน เพื่อให้อาคารหลังนี้กลับมาขึ้นใหม่” นายวราวุธ กล่าว
จากนั้น นายเอกการ กล่าวว่า เห็นด้วยกับคำตอบของรัฐมนตรีที่สั่งย้ายหัวหน้าสวนรุกขชาติออกไป แต่ต้องการถามต่อถึงการปรับปรุงรื้อถอนอาคารที่เกิดขึ้น กระทรวงได้มีการตรวจสอบถามถูกต้องเช่นไร ตลอดจนการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ และจะมีแนวทางในการฟื้นฟูอาคารสถานตลอดจนการฟื้นฟูความรู้สึกของชาวจังหวัดแพร่เป็นอย่างไร
“ชาวจังหวัดแพร่เข้าใจดีว่า อาคารถูกรื้อถอนไปแล้ว แต่ยังอยากทราบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับงบประมาณ และมาตรการที่จะรับผิดชอบ การลงโทษต่างๆ ที่ชาวจังหวัดแพร่พึงพอใจ ส่วนไม้ที่รื้อถอนออกมา มีข้อสังเกตว่ายังมีอยู่ครบหรือไม่ และสมบัติที่ประกอบอยู่ในอาคารถูกย้ายไปที่ใด มีการอนุมัติงบโปร่งใสหรือไม่” นายเอกการ กล่าว
ขณะที่ นายวราวุธ ยืนยันว่า ได้รับรายงานมาว่า ไม้ของอาคารบอมเบย์ เบอร์มา ยังอยู่ครบ ก่อนหน้านี้ที่มีเหตุดราม่าว่า มีไม้จากอาคารดังกล่าวไปขายที่ร้านขายของเก่าแล้ว เป็นการเข้าใจผิดกัน เพราะเป็นไม้เก่าจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ไม่ใช่จากอาคารบอมเบย์ เบอร์มา ส่วนไม้ของตัวอาคารบอมเบย์ เบอร์มา มีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าแล้ว มีติดตั้งกล้องวงจรปิดเฝ้าระวังตลอด ส่วนบทลงโทษของผู้กระทำความผิด จะเป็นไปตามระเบียบของราชการ ส่วนงบประมาณที่ได้มา เป็นการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจังหวัดเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว แต่ยืนยัน จะขอรับเป็นการบ้านไปสอบถามจังหวัดว่า มีส่วนร่วมในการพิจารณางบประมาณก้อนนี้อย่างไร เพราะทางกระทรวงไม่ได้เป็นผู้ตั้งงบประมาณในส่วนนี้แต่อย่างใด.- สำนักข่าวไทย