พรรคพลังประชารัฐ 23 มิ.ย.- “ไพบูลย์” ยืนยันใช้สถานที่มูลนิธิป่ารอยต่อ เทียบเชิญ “พล.อ.ประวิตร” นั่งหัวหน้า พปชร.ไม่ผิด ท้าให้ฟ้องได้ ชี้ทหารมาเป็นนักการเมืองมีความเหมาะสม
นายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรคพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำพรรคพลังประชารัฐ เดินทางไปเทียบเชิญพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อวานนี้ (22 มิ.ย.) ว่า เป็นการไปขอเข้าพบผู้ใหญ่ของพรรค เพื่อขอความกรุณาให้มารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อสร้างความเข้มแข็งและความมีเอกภาพ พล.อ.ประวิตรไม่ได้ต้องการมาเป็นหัวหน้าแต่อย่างใด เบื้องต้นพล.อ.ประวิตรได้ตอบรับในหลักการ และให้ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสามัญในวันเสาร์ที่ 27 มิถุนายนนี้
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าใช้มูลนิธิป่ารอยต่อเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองนั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า การเข้าพบที่มูลนิธิป่ารอยต่อนั้น ไม่ผิดกฎหมายหรือขัดกับประกาศของมูลนิธิ เนื่องจากไม่ได้ไปติดต่อกับมูลนิธิฯ แต่เป็นการไปพบพล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นสถานที่ที่พล.อ.ประวิตรสะดวก และหากใครจะไปฟ้องร้องเพื่อเอาผิดก็สามารถทำได้และให้ฟ้องตนด้วย ที่ผ่านมาตนมีประสบการณ์ในการทำมูลนิธิมาก่อน ซึ่งข้อประกาศที่ห้ามดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองมีเพียงการไม่นำเงินของมูลนิธิไปสนับสนุนพรรคการเมือง และในมูลนิธิก็เปิดโอกาสให้นักการเมืองเข้าไปเป็นกรรมการของมูลนิธิได้จึงมั่นใจว่าไม่ผิด
นายไพบูลย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ทหารมาเป็นนักการเมืองว่า ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสม เพราะทหารได้ผ่านอุดมการณ์เสียสละชีวิตเพื่อชาติ จึงถือเป็นเรื่องที่ดี
นายไพบูลย์ ยังกล่าวถึง การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคพลังประชารัฐ วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน นี้ ว่า มีวาระสำคัญในการแก้ไขข้อบังคับพรรค และ โครงสร้างคณะกรรมการบริหารของพรรค เพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น และให้สอดรับกับภารกิจของพรรคต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ จะมีการเลือกตำแหน่งต่าง ๆ ตั้งแต่หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิก นายทะเบียนและกรรมการบริหารพรรค รวม 29 คน ขณะที่ ตำแหน่งรองหัวพรรค เป็นอำนาจของหัวหน้าพรรคคนใหม่จะเป็นผู้เลือก ไม่เกิน 9 คน สำหรับการปรับโครงสร้างพรรคในครั้งนี้ เชื่อว่าการประชุมจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย.-สำนักข่าวไทย