หม่อมเต่า ย้ำ “ไม่ต้องห่วงผมนะ” เมินตั้งใครมานั่งเก้าอี้แทน

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย. – หม่อมเต่า ย้ำ “ไม่ต้องห่วงผมนะ” เมินตั้งใครมานั่งเก้าอี้ รมว.แรงงาน เร่งดูแลแผนจัดส่งคนงานไปหางานต่างประเทศ หลังโควิด-19 เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก เผยรายได้แรงงานไทยในต่างประเทศ 5 เดือนแรกปีนี้ 4.9 หมื่นล้านบาท  


หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า  หลังจากได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรี ให้รับทราบแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีไม่ได้ว่าอะไรทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้ ไม่ต้องเป็นห่วงตน การทำงานในส่วนของกระทรวงแรงงาน และพรรค รปช. ถือเป็นคนละส่วนกัน ส่วนจะปรับ ครม.จะเสนอใครมาเป็น รมว.แรงงาน คนใหม่ ไม่ใช่เรื่องของตน

“ไม่ต้องห่วงผมนะ การทำงานในส่วนของกระทรวงแรงงาน และพรรค รปช. ถือเป็นคนละส่วนกัน ตนไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับการดำเนินงานของพรรคแล้ว ส่วนกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี และจะมีการเสนอใครมาดำรงตำแหน่งแทนนั้น ไม่ใช่เรื่องของตน” หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล กล่าวสั้นๆ ก่อนที่จะเดินออกจากวงสัมภาษณ์สื่อมวลขน และไปฟังการประชุมเพื่อเตรียมแผนการจัดการส่งคนหางานไปทำงานในต่างประเทศหลัง สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19


ทั้งนี้  กระทรวงแรงงาน ได้จัดประชุมเพื่อเตรียมแผนการจัดการส่งคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะของผู้รับอนุญาตจัดหางาน กว่า 80 บริษัท เพื่อให้สามารถดำเนินการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศได้ทันที หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

รมว.แรงงาน กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้สถานกิจการหลายแห่งปิดตัวลง หรือหยุดกิจการชั่วคราวทำให้แรงงานและประชาชนทั่วไป ต้องหยุดงานขาดรายได้ กระทบกับการจัดส่งแรงงานไทยไปยังต่างประเทศ โดยตลาดแรงงานที่สำคัญของประเทศไทย ได้แก่ ไต้หวัน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น และยุโรป เป็นต้น ซึ่งการจัดส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศต้องคำนึงความปลอดภัยมากที่สุด

นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า  กรมฯ เชื่อว่า ภาคเอกชนหรือบริษัทจัดหางาน องค์กรผู้ส่งออกแรงงาน ที่ได้รับอนุญาตจะมีบทบาทสำคัญในการเร่งการติดต่อกับนายจ้างในต่างประเทศ เพื่อการเดินทางเข้าสู่ตลาดแรงงานในต่างประเทศได้ภายหลังการสิ้นสุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยได้ตั้งเป้าจัดส่งในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ย. จำนวน 52,253 คน ตลาดแรงงานที่คาดว่าจะจัดส่งในภูมิภาคเอเชีย เช่น ไต้หวัน 20,120 คน ญี่ปุ่น 3,818 คน สาธารณรัฐเกาหลี 6,421 คน มาเลเซีย 2,448 คน สิงคโปร์ 2,934 คน ภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ อิสราเอล 2,480 คน


ส่วนตัวเลขแรงงานไทยที่ยังทำงานอยู่ในต่างประเทศ จากข้อมูลของกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ณ เดือนพฤษภาคม 2563 มีจำนวน 128,102 คน แบ่งเป็น กลุ่มประเทศเอเชียและเอเชียใต้ 96,486 คน โดยอยู่ในไต้หวันมากที่สุด 61,635 คน, กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง 25,514 คน อยู่ในอิสราเอลมากที่สุด 22,844 คน, กลุ่มประเทศยุโรป อเมริกา และอื่นๆ 5,626 คน มากที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา 724 คน และกลุ่มประเทศแอฟริกา 476 คน มากที่สุด คือ แอฟริกาใต้ 189 คน

สำหรับประมาณการรายได้ที่คนไทยที่ทำงานในต่างประเทศส่งกลับประเทศผ่านระบบของธนาคารแห่งประเทศไทย ปี 2563 ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม มีจำนวน 49,087 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล