ผบก.ป.เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม”บรรยิน”หลังได้เบาะแสจากผู้ต้องขัง2รายเตรียม”แหกคุก”หลบหนี

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- ผู้บังคับการกองปราบปรามยอมรับ ได้รับเบาะแส “พันตำรวจโทบรรยิน” วางแผนแหกคุก จากผู้ต้องขัง 2 ราย เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มพันตำรวจโทบรรยินแล้ว ขณะที่เรือนจำกลางบางขวาง สั่งแยกขังจับตาดูพฤติกรรมตลอด 24 ชั่วโมง


พลตำรวจตรีจิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยถึงกรณีข่าวพันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง และอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา วางแผนแหกคุกและพยายามฆ่าตัวตายภายในเรือนจำ โดยยอมรับว่า เรื่องดังกล่าวได้รับเบาะแสจริงมาจากผู้ต้องหา 2 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือให้ประกันตัวออกมา ซึ่งให้การเป็นประโยชน์ต่อชุดสืบสวน และได้นำข้อมูลส่วนนี้ไปหารือกับคณะพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว เบื้องต้นได้พิจารณาเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด และยังไม่ตัดสินใจว่าจะแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดในเรื่องนี้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องการเฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ประสานงานกับทางกรมราชทัณฑ์ ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษแล้ว พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้ชุดหนุมานกองปราบปราม เตรียมกำลังพร้อมสนับสนุนหากต้องมีการคุมตัวพันตำรวจโทบรรยินไปขึ้นศาลทุกครั้ง พร้อมกับประสานตำรวจศาล ดูแลเป็นกรณีพิเศษด้วย

ด้านพันตำรวจเอกณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า กรณีดังกล่าวยังคงมีการสืบสวนเป็นทางลับ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมราชทัณฑ์และตำรวจในการสืบหาข้อเท็จจริง จึงไม่ขอยืนยันเรื่องการวางแผนแหกคุกดังกล่าว แต่ยืนยันว่าทางกรมราชทัณฑ์มีมาตรการในการดูแลนักโทษอยู่แล้ว และได้สั่งการให้เฝ้าระวังตรวจสอบเรื่องนี้เป็นพิเศษ


ขณะที่มีข้อมูลว่าปัจจุบันพันตำรวจโทบรรยิน ถูกย้ายไปควบคุมอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวางตั้งแต่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจุบันทางเรือนจำได้เพิ่มความเข้มในการป้องกัน โดยไม่อนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมยกเว้นแต่ทนายความ และแยกขังพันตำรวจโทบรรยิน ไม่ให้ติดต่อกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ เพื่อป้องกันการติดต่อกับบุคคลภายนอก พร้อมกับเฝ้าติดตามพฤติกรรม โดยการประเมินอารมณ์ และเฝ้าจับตาดูพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด ผ่านกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย