กทม.19มิ.ย.-กทม.เตรียมพร้อมคุมเข้มป้องกัน โควิด-19 ก่อนศูนย์เด็กเล็กเปิด 1ก.ค.63 ส่งเทศกิจประจำ วันเปิดภาคเรียนดูแลรักษาระยะห่าง
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (ปลัด กทม.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนร่วมใจพัฒนา เขตประเวศ และศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนธรรมานุรักษ์ เขตสวนหลวง เพื่อดูความพร้อม การเตรียมพร้อมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในระยะเตรียมการก่อนเปิดศูนย์ฯที่อยู่ในความดูแลของ กทม.
ปลัด กทม.เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ของศูนย์ทุกศูนย์จัดกิจกรรม Big Cleaning อาคารสถานที่ การทำความสะอาดพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยๆ ห้องเรียน ห้องนอน ห้องอาหาร ห้องเด็กเล่น สื่อการสอน เครื่องเล่นสนามและอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงห้องสุขาและการกำจัดขยะมูลฝอยก่อนศูนย์จะเปิดในวันที่ 1 ก.ค.นี้
และหลังการเปิดขอให้เน้นมาตรการหลัก คือเริ่มตั้งแต่ก่อนเข้าศูนย์ เด็กทุกคนต้องล้างมือล้างเท้า ตรวจวัดไข้ อาการไอ น้ำมูก เสมหะ เว้นระยะห่างในห้องเรียนอย่างน้อย 1เมตร และ1ห้องเรียนนั่งได้ 15คนเท่านั้น เด็กทุกคนใส่หน้ากากผ้าตลอดเวลาระหว่างอยู่ในศูนย์ ให้คุณครูฝึกใส่ ถอด และเก็บหน้ากากผ้าอย่างถูกสุขลักษณะ ให้กับเด็กเป็นประจำ
มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและให้อาสาสมัครผู้ดูแลเด็กหรือครูพี่เลี้ยงพาเด็กไปล้างมือให้บ่อยครั้งโดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร การจัดกิจกรรมทุกประเภท เช่น ก่อนรับประทานอาหาร การนอน การอาบน้ำ การล้างมือ การแปรงฟัน การเล่น กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการ
งดกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกันจำนวนมาก ให้เน้นไปที่กิจกรรมเฉพาะตัว โดยแบ่งกลุ่มทำกิจกรรมไม่เกิน 5 คนโดยให้มีครูพี่เลี้ยง 1 คน เน้นกิจกรรมที่ให้เด็กทำบนพื้นที่ของตนเอง จัดพื้นที่เฉพาะการเรียนรู้กับเด็กเป็นรายบุคคล เช่น กิจกรรมเสริมจินตนาการเน้นการปั้นดินน้ำมัน แต่ต้องให้เป็นของส่วนตัวไม่ไช้ร่วมกัน กรณีพบเด็กที่ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคตามแนวทางที่กำหนดจะต้องจัดเตรียมห้องแยก ไม่ให้นำเด็กไปปะปนร่วมกับเด็กคนอื่น
และในวันเปิดภาคเรียนวันที่ 1ก.ค.จะอนุญาตผู้ปกครอง มาส่งได้เฉพาะบริเวณจุดรับและส่งเด็กเล็กกับผู้ปกครอง หน้าทางเข้าศูนย์ฯเท่านั้น ไม่ อนุญาตให้เข้าไปส่งด้านใน และงดการรับและส่งเด็กก่อนวัยเรียนจากที่บ้านแบบรวมกลุ่ม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อบนรถรับส่งเด็ก ซึ่ง ในวันเปิดศูนย์คาดว่าจะมีผู้ปกครองมาส่งเด็กจำนวนมากจึงได้ประสาน ไปยังทุกสำนักงานเขตให้ส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้ามาจัดระเบียบดูแลความเรียบร้อยรักษาระยะห่างอีกทาง
ส่วนกรณีเด็กโต ไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับเด็กเล็กแต่ได้เน้นย้ำทุกโรงเรียนในสังกัดต้องดำเนินการตามมาตรฐานข้อกำหนดที่ได้วางไว้อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องการรักษาระยะห่างและการสวมใส่หน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน พร้อมให้นำรูปแบบการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์มาใช้ เพื่อเป็นการลดความหนาแน่นของจำนวนนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียน โดยโรงเรียนเด็กโตจะกำหนดให้แต่ละห้องมีนักเรียนไม่เกิน 20 คน
ด้านบุคลากรครูที่อยู่ในสังกัด ขณะนี้ทาง กทม.ได้ทำการสุ่มตรวจสุขภาพ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 และทำแบบประเมินสุขภาพ ในกลุ่มเสี่ยง โดยทาง กทม.ได้โควต้าตรวจหาเชื้อ 15,000 คน กทม.ได้สุ่มตรวจในทุกกลุ่มอาชีพเสี่ยง รวมถึงครูในโรงเรียน พบว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อ โควิด-19 จึงขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองสบายใจได้
สำหรับศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนร่วมใจพัฒนา เขตประเวศ เปิดสอนระดับเตรียมอนุบาลถึงระดับอนุบาล 3 จำนวน 8 ห้องเรียน ส่วนศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนธรรมานุรักษ์ เขตสวนหลวง เปิดสอนตั้งแต่ระดับช่วงอายุ 2-6 ปี จำนวน 8 ห้องเรียน
สำหรับ กทม.ปัจจุบันมีศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนจำนวน 292 ศูนย์ ในพื้นที่ 45 เขต แบ่งเป็นศูนย์ฯ ขนาดเล็ก S มีเด็กก่อนวัยเรียนน้อยกว่า 50 คน จำนวน 39 สำนักงานเขต 155 ศูนย์ , ขนาดกลาง M มีเด็กก่อนวัยเรียน 50-100 คน จำนวน 33 สำนักงานเขต 75 ศูนย์ , และขนาดใหญ่ L มีเด็กก่อนวัยเรียน 101 คนขึ้นไป จำนวน 26 สำนักงานเขต 62 ศูนย์ รวมเด็กก่อนวัยเรียนทั้งสิ้น 22,713 คน รวมอาสาสมัครผู้ดูแลเด็กทั้งสิ้น 2,053 คน
ส่วนเขตที่ไม่มีศูนย์พัฒนาวัยเรียน ได้แก่ บางบอน บางรัก บางกอกใหญ่ พระนคร และสัมพันธวงศ์ .-สำนักข่าวไทย