สสส.16มิ.ย.-สสส.พร้อมภาคีเครือข่ายจัดเวทีเสวนา “New normal for Thai children” ชีวิตวิถีใหม่ของเด็กไทย ชูจัดกิจกรรมทางกายเพิ่มให้เด็ก หลังสำรวจพบเด็กไทยมีกิจกรรมทางกายลดลงกว่าร้อยละ 60 ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบาดวิทยา แนะให้ปิดสถานบันเทิงยาวไปจนถึงสิ้นปี
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเวทีระดมสมองเปิดมุมมอง”ชีวิตวิถีใหม่ของเด็กไทย” ภายใต้โครงการกิจกรรมส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายกลุ่มวัยเด็กในสถานศึกษา Active play Active school
นายวราวิช กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการมีความห่วงใยในสุขภาพของเด็กนักเรียน เพราะช่วงโควิด-19 หยุดยาวกิจกรรมทางกายมีน้อยลง การเปิดภาคเรียนนี้ จึงออกมาตรการให้โรงเรียน เพิ่มกิจกรรมให้เด็กเพื่อลดความเสี่ยง มีสุขภาพวะที่ดี
นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส.กล่าวว่า ผลสำรวจพฤติกรรมทางสุขภาพของประชากรในช่วงโควิด-19 พบว่ามีทั้งมิติเชิงบวกคือมีเด็กร้อยละ 11.6 ที่เพิ่มโอกาสเล่นออกแรงเคลื่อนไหวและมีกิจกรรมทางกายมากกว่าช่วงปกติ คาดว่าเป็นผลจากผู้ปกครองหยุดทำงานอยู่บ้านมีเวลาร่วมเล่นและทำกิจกรรมกับเด็ก ส่วนมิติเชิงลบพบมีเด็กร้อยละ 61.6 มีกิจกรรมทางกายลดลง แต่กลับมีเวลาอยู่หน้าจออิเล็กทรอนิกส์และความบันเทิงสูงขึ้นมากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน สถานการณ์นี้ทำให้น่าเป็นห่วงเพราะจากเดิมเฉลี่ยวันละ 3 ชั่วโมงก็จะสูงกว่ามาตรฐาน 1 ชั่วโมง อยู่แล้ว สสส.จึงหวังความร่วมมือจากทุกฝ่ายช่วยกันส่งเสริมให้ชีวิตวิถีใหม่ของเด็กมีสุขภาพวะที่ดีผ่านการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอสูงขึ้นอีก ร้อยละ 10
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า อันตรายจากโรคต่างๆ ของเด็กยังมีมาก เช่น ไข้หวัดใหญ่ มือเท้าปาก อาหารเป็นพิษ ไข้เลือดออก การบาดเจ็บบนท้องถนน การดื่มแอลกอฮอล์ การพนัน โรงเรียนต้องไม่คิดถึงแต่โควิดต้องเฝ้าระวังโรคและอุบัติเหตุต่างๆด้วย ส่วนโควิด-19 หากกลับมาติดเชื้อประปรายหลังเปิดประเทศ ตนแนะนำว่าสถานบันเทิงควรปิดยาวไปเปิดปลายปี หากเกิด การระบาดในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งต้องปิดแบบเจาะจง โรงเรียนปิดเฉพาะห้องหรือชั้น
รศ.นพ.ปัญญา ไข่มุก ประธานกรรมการบริหาร สสส.กล่าวว่า กิจกรรมทางกายนำมาซึ่งพัฒนาการทางสมอง ร่วมกับการกินอาหารที่เหมาะสม ทุกฝ่ายควรส่งเสริมให้เด็กมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ อย่างน้อย 60 นาทีต่อวัน ผ่านการเล่น 3 รูปแบบคือ 1.เล่นเพื่อความสนุกสนานและผ่อนคลาย 2.เล่นเพื่อเสริมสร้างทักษะต่างๆตามช่วงวัย 3.เล่นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง.- สำนักข่าวไทย