สงขลา 14 มิ.ย. – ญาติพาตัวลูกชายวัย 16 ปี ที่ก่อเหตุแทงแม่บาดเจ็บสาหัส เข้ามอบตัวแล้ว เผยปมก่อเหตุ เพราะอยากมีชีวิตอิสระของตัวเอง ไม่ต้องการให้ใครมาบังคับ
ความคืบหน้ากรณีลูกชายวัย 16 ปี ก่อเหตุใช้มีดทำครัวแทงแม่ที่กำลังนอนหลับ 12 แผล บาดเจ็บสาหัส ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) ที่ห้องแถวแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ล่าสุดช่วงสายวันนี้ (14 มิ.ย.) ญาติได้พาผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง ผู้กำกับการ สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ แล้ว หลังจากที่ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับในข้อหาพยายามฆ่าบุพการี โดยขณะเข้ามอบตัว ผู้ก่อเหตุเริ่มกลับมามีสติดีแล้ว และรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
จากการสอบถามถึงแรงจูงใจที่ทำร้ายแม่ ลูกชายวัย 16 ปี บอกว่า อยากมีชีวิตอิสระของตัวเอง ไม่ต้องการให้ใครมาบังคับให้อยู่ในกรอบ หรือทำในสิ่งที่แม่ต้องการอยากให้เป็น และคิดว่าหากฆ่าแม่แล้วจะทำอะไรก็ได้ ที่ผ่านมาแม้ว่าแม่จะไม่ได้บังคับ แต่ก็รู้สึกอึดอัด และไม่เคยปฏิเสธแม่ในสิ่งที่แม่อยากให้ทำ ยอมรับทุกอย่าง จึงรู้สึกอึดอัด และไม่คิดว่าจะคุยกับแม่ได้ สิ่งที่ทำไปเป็นความคิดส่วนตัว ซึ่งบางครั้งเป็นปมมาจากวัยเด็กที่ถูกเพื่อนแกล้ง แต่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
ผู้ก่อเหตุ บอกว่า ตอนทำคิดว่าแม่จะสู้ แต่แม่กลับไม่สู้ จึงเริ่มตั้งสติได้และวิ่งหนีออกจากบ้าน เพราะไม่กล้าอยู่สู้หน้าใคร และเมื่อตั้งสติได้ รู้สึกผิดมาก อยากขอโทษแม่และยอมรับผิด หลังจากนี้จะทำทุกอย่างให้แม่สบายใจ และยอมรับว่า ตัวเองอยู่ในสังคมไม่ได้ ชอบเก็บตัวอยู่ในห้องมากกว่า ชอบเขียนเพลง เล่นโซเชียล แต่ไม่ได้ติดเกม และเรียนแค่ชั้น ม.2 ก็หยุดเรียน ที่ผ่านมาอยู่กับยายเพียง 2 คนที่บ้าน แต่แทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย โดยแม่จะคอยส่งเงินมาให้ใช้
นอกจากนี้ ลูกชายวัย 16 ปี ยังได้เขียนบันทึกขึ้นมาฉบับหนึ่งด้วยลายมือ เพื่อเล่าเหตุการณ์ในคืนเกิดเหตุให้ฟังว่า “เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 5 ทุ่ม แม่เข้านอน จากนั้นผมก็ใช้ผ้าพยายามปิดตาปิดปากแม่ และใช้มีดแทงท้องแม่ไม่ยั้งมืออย่างขาดสติ และจะเอาชีวิตแม่ให้ได้ แม่พยายามดิ้นหันหลังให้ และผมก็แทงซ้ำที่หลังแบบไม่ยั้งมือ ผมพยายามถีบแม่ ในขณะที่แม่พยายามยืน ทำให้ผมลื่นเลือดแม่ จากนั้นแม่ก็พูดกับผมว่า จะฆ่าแม่จริงหรือ ผมก็ไม่ฟัง และคิดว่าภาระของตัวเองสำคัญกว่า และแม่ก็พูดกล่อมจนผมได้สติ และยังบอกรักผมในขณะที่เลือดอาบ ผมก็หยุดและถือมีดไว้ เพราะกลัวแม่จะทำร้าย จึงไปวางมีด ผมตัดสินใจออกจากบ้าน ไม่ใช่เพราะกลัวความผิด แต่ผมไม่มีหน้าจะอยู่บ้านอีกแล้ว ผมบอกกับแม่ว่า ผมอยู่ต่อไปไม่ได้ แม่ก็ช่วยผมหนี และให้ผมรีบๆ ไป ทำให้ผมคิดได้ว่า แม่รักผมขนาดไหน ผมรีบวิ่งออกจากบ้านด้วยความลุกลี้ลุกลน และความคิดผมก็เปลี่ยนจากเกลียดเป็นสำนึกผิด คิดจะกลับมารับความผิดที่ตัวเองทำ” – สำนักข่าวไทย