เชียงราย 10 มิ.ย. – ผลสอบเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ถ้ำหลวง เรียกรับเงินแลกกับการเข้ามาทำงานมีมูล ด้านป่าไม้ ยืนยันไม่มีการรับสมัครบุคลากรและร้านค้าสวัสดิการ
ความคืบหน้ากรณีที่มีกลุ่มผู้เสียหายอย่างน้อย 2 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเอาผิดกับ น.ส.ฤทัยวรรณ หรือ เจ๊นก ปฏิเสน เจ้าหน้าที่ประจำอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมพวก คือ นายสุพรรณ รักเมือง และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอีก 1 คน รวม 3 คน กล่าวหาว่ามีการเรียกรับเงิน รายละ 70,000 บาท เพื่อแลกกับการเข้าทำงานในอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ โดยในโซเชียลมีคลิปการพูดคุยต่อรองเรียกรับเงินอีก 80,000 บาท จากผู้ประกอบการร้านค้า เพื่อแลกกับการเข้ามาเป็นร้านค้าสวัสดิการ ภายในอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ล่าสุดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ และสรุปผลการตรวจสอบไปยังกรมอุทยานแห่งชาติฯ แล้วว่า เรื่องดังกล่าวมีมูล และมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า น.ส.ฤทัยวรรณ หรือ เจ๊นก กับพวก มีพฤติการณ์เข้าข่ายทุจริตเรียกรับเงินจริง ขณะนี้อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบความผิดกับเจ้าหน้าที่รายนี้
นายกวี ประสมพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ เปิดเผยว่า น.ส.ฤทัยวรรณ หรือ เจ๊นก เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลฝ่ายมวลชนสัมพันธ์ของอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ใช้โอกาสที่รู้จักการเคลื่อนไหวของอุทยานฯ เป็นอย่างดี ไปกระทำการร่วมกับบุคคลภายนอกหลอกลวงผู้อื่น เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า ทั้งที่ตนเองไม่มีหน้าที่หรืออำนาจใดๆ ยืนยันว่า อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ไม่มีการรับสมัครพนักงานราชการแต่อย่างใด เพราะอัตราที่มีอยู่นั้นเต็มหมดแล้ว ยิ่งการเปิดร้านค้าสวัสดิการไม่มีแน่นอน เพราะนโยบายการพัฒนาถ้ำหลวง ไม่ต้องการให้มีร้านค้าบดบังทัศนียภาพภายในถ้ำหลวง
ด้านนายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) กล่าวว่า ได้สั่งย้าย น.ส.ฤทัยวรรณ ไปปฏิบัติงานในส่วนกลาง ที่สวนรุกขชาติโป่งสลี อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 โดยเมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.) ทางอธิบดีฯ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัย เนื่องจากเรื่องนี้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีมูล และมีพยานหลักฐานชี้ชัดว่ามีการแอบอ้าง โกหกหลอกลวง ทำให้หน่วยงานเสียชื่อเสียง. – สำนักข่าวไทย