ก.ล.ต.สนับสนุนตราสารหนี้ไทยเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ลักเซมเบิร์ก

กรุงเทพฯ 9 มิ.ย. – ก.ล.ต.เปิดเผยผลการศึกษาเทียบเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยกับของลักเซมเบิร์ก พร้อมสนับสนุนบริษัทไทยที่มีความพร้อม นำตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลักเซมเบิร์ก 


นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  เปิดเผยว่า ตนและคณะเข้าพบ Mr. Robert Scharle CEO ตลาดหลักทรัพย์ลักเซมเบิร์ก (LuxSE) และคณะ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 เพื่อร่วมหารือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดตั้งแพลตฟอร์มข้อมูลด้านตราสารหนี้ยั่งยืน รวมถึงมีแนวคิดที่จะนำตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Green Bond, Social Bond, Sustainability Bond) ของไทยไปแสดงข้อมูลใน LGX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่แสดงข้อมูลตราสารยั่งยืนที่ LuxSE เพื่อให้ผู้ลงทุนทั่วโลกสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก และสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้ 

ก.ล.ต.จึงศึกษาและเทียบเกณฑ์เสนอขายหลักทรัพย์ของไทยกับของลักเซมเบิร์ก (regulatory mapping) เพื่ออำนวยความสะดวกให้บริษัทไทยที่มีความพร้อมจดทะเบียนในต่างประเทศ โดยพบว่าผู้ออกตราสารหนี้สามารถนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดใดตลาดหนึ่งของ LuxSE ซึ่งมีอยู่ 3 แห่ง คือ Bourse de Luxembourg (BdL) ซึ่งมีกฎเกณฑ์เข้มเทียบเท่าการเสนอขายหุ้นกู้แก่ประชาชนทั่วไป Euro Multilateral Trading Facility (MTF) มีกฎเกณฑ์ผ่อนคลายเทียบเท่าการเสนอขายหุ้นกู้แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่ และ Securities Official List (SoL) ที่มีกฎเกณฑ์ผ่อนคลายมากที่สุดอาจเทียบเท่าการเสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน 


“ตลาด BdL และ MTF เป็นตลาดที่สามารถซื้อขายตราสารหนี้ได้ ขณะที่ SoL เป็นแพลตฟอร์มสำหรับแสดงรายละเอียดของตราสารหนี้ (profile listing) หากผู้ลงทุนที่สนใจซื้อขายตราสารในแพลตฟอร์มนี้จะต้องทำธุรกรรมในตลาดตราสารหนี้ไทย สำหรับบริษัทที่สนใจและมีความพร้อมสามารถเลือกไปจดทะเบียนในตลาดดังกล่าวเพื่อให้ตราสารหนี้ปรากฏในแพลตฟอร์ม LGX ซึ่งมีส่วนที่ต้องทำเพิ่มหลักคือการแปลหนังสือชี้ชวนและเอกสารให้ความเห็นจากที่ปรึกษาทางกฎหมาย โดยอาจเริ่มจากการขึ้นทะเบียนในตลาด SoL ซึ่งมีเกณฑ์ที่ผ่อนคลายและมีค่าใช้จ่ายที่ไม่เป็นภาระกับบริษัทผู้ออกมากจนเกินไป ส่วนบริษัทที่เริ่มมีความคุ้นเคยกับกฎเกณฑ์อาจเลือกจดทะเบียนในตลาด BdL หรือ EuroMTF ที่สามารถซื้อขายในตลาดได้ด้วย” นางสาวรื่นวดี กล่าว

นอกจากนี้ ก.ล.ต.พร้อมให้การสนับสนุนและลดอุปสรรคให้กับบริษัทผู้ออกตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีความสนใจ โดยจะจัดทำคู่มือการจดทะเบียนหลักทรัพย์ใน LuxSE และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับผู้ออกตราสารหนี้ รวมทั้งประสานกับตลาดหลักทรัพย์ลักเซมเบิร์ก เพื่อให้ความรู้เชิงลึกและตอบข้อสงสัยเพิ่มเติม 

ทั้งนี้ LGX เป็นแพลตฟอร์มแสดงตราสารด้านสิ่งแวดล้อม (Green Exchange) แห่งแรกของโลกที่แสดงข้อมูลครบวงจรของตราสารหนี้และกองทุนรวมยั่งยืนจากหลายประเทศที่มีความน่าเชื่อถือซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 ปัจจุบันมีการแสดงข้อมูลของตราสารหนี้ยั่งยืนมากกว่าร้อยละ 50 ของตราสารหนี้ยั่งยืนที่จดทะเบียนทั่วโลก และมีผู้ออกจากประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น จีนและฮ่องกง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า-กทม.อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสานมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอากาศร้อนในตอนกลางวัน ส่วนภาคกลาง รวม กทม.-ปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ อากาศร้อนในตอนกลางวัน

ไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก เสียชีวิต 2 ราย

เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่วัดไทยในเขตบรองซ์ นครนิวยอร์ก ของสหรัฐ ช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิต 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็นพระไทยที่จำพรรษาในวัด

ปฏิบัติการกวาดล้าง “คาวบอยบ่อแก้ว” แก๊งยาเสพติดรายใหญ่ภาคเหนือ

เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่าย “คาวบอยบ่อแก้ว” แก๊งขนยาเสพติดรายใหญ่ของภาคเหนือ พร้อมยึดทรัพย์สินกว่า 100 ล้านบาท หลังพบช่วง 2 ปีนี้ ขนไอซ์จากชายแดนลงไปภาคกลางไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง เฉพาะที่ถูกจับได้ 3 ครั้ง ยึดไอซ์ได้กว่า 3,000 กิโลกรัม