ผลสำรวจพบ ปชช.กลับมา “ยกการ์ด” ระวังโควิด-19 มากขึ้น

กทม. 8 มิ.ย. – ผลสำรวจมาตรการป้องกันตัวจากโควิด-19 ของประชาชนปลายเดือน พ.ค.พบว่าทำได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจากเดิมที่เริ่มการ์ดตกในช่วงก่อนหน้านี้ ชี้เหตุผลที่คลายความระมัดระวังลงเพราะส่วนใหญ่คิดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง ควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีขึ้นแล้ว



กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) ร่วมกับองค์การอนามัยโลก สำนักงานภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและสำนักงานสถิติแห่งชาติ ทำการสำรวจการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ระหว่างวันที่ 22-28 พ.ค. 2563 โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจ 25,623 ราย พบว่า ประชาชนมีพฤติกรรมป้องกันตนเองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งการ์ดตก 


โดยการใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าตลอดเวลา สามารถปฏิบัติได้ 91.5% เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า (15-21 พ.ค. 2563) ซึ่งอยู่ที่ 87.2% การล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ปฏิบัติได้ 83.2% เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 79.8%

ขณะที่กินอาหารร้อนและใช้ช้อนกลางของตนเอง สัปดาห์ก่อนหน้าปฏิบัติได้ 79.7% แต่สัปดาห์ต่อมาเพิ่มขึ้นเป็น 82.7% การระวังไม่อยู่ใกล้คนอื่นในระยะน้อยกว่า 2 เมตร เพิ่มขึ้นจาก 58.7% เป็น 65.2% การระวังไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก เพิ่มขึ้นจาก 53.7% เป็น 56.9% ทำให้พฤติกรรมป้องกันตนเองในภาพรวมของประชาชนเพิ่มขึ้นจาก 70.6% เป็น 74.8%

สำหรับสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ประชาชนคลายพฤติกรรมการป้องกันตัวเองลงนั้น กว่า 57.4% ตอบว่าเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง ควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีขึ้น อีก 36.6% ตอบว่ารู้สึกว่าตัวเองมีความเสี่ยงในการติดเชื้อต่ำ และอีก 28.4% ให้เหตุผลว่ากิจวัตรประจำวันไม่เอื้ออำนวย 


ผลสำรวจยังพบด้วยว่า กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม 66.0% ไม่ได้อยู่บ้านตลอดเวลา และ 55.3%ไม่สามารถเลือกทำงานที่บ้านได้ ต้องออกไปทำงานตามปกติ และอีก 29.6% ที่ทำงานจากบ้านได้เป็นบางวันหรือบางสัปดาห์ โดยมีเพียง 15.1% เท่านั้นที่สามารถทำงานจากที่บ้านทุกวัน ขณะที่ภาพรวมการเดินทางออกนอกจังหวัดมีแนวโน้มลดลงจาก 28.5% ในช่วงวันที่ 15-21พ.ค.เป็น 23.6% ในช่วงวันที่ 22-28 พ.ค. โดยสาเหตุหลักที่ต้องออกนอกจังหวัดคือไปทำงาน 48.6% และอีก 27.7% มีธุระจำเป็น 

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม 30.8% มองว่าควรให้เดินทางออกนอกจังหวัดได้อย่างอิสระ ยกเว้นจังหวัด/พื้นที่ที่ยังมีการติดเชื้อสูง อีก 27.7% อยากให้เดินทางได้อย่างอิสระโดยมีการลงทะเบียนติดตามตัว ส่วนอีก 19.8% มองว่าควรเดินทางได้อย่างอิสระ ยกเว้นจังหวัด/พื้นที่ที่ยังมีการติดเชื้อสูง โดยมีการลงทะเบียนติดตามตัว และมีอีก 16.5% ที่ยังอยากให้งด/ชะลอการเดินทางระหว่างจังหวัด

ในส่วนของการเดินทางเข้าประเทศนั้น กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม 60.3% มองว่าสำหรับคนไทยควรให้เดินทางเข้าประเทศได้ แต่คัดกรองและกักกัน 14 วัน ใน state quarantine โดยมีอีก 28.4% ที่มองว่าไม่ควรอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ อีก 10.6% คิดว่าให้เดินทางเข้าประเทศได้ แต่คัดกรองและกักกัน 14 วัน ที่บ้าน/ที่พักอาศัย ขณะที่ในส่วนของชาวต่างชาตินั้น 63.3% มองว่าไม่ควรอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทย และอีก 30.9% มองว่าให้เดินทางเข้าประเทศได้ แต่คัดกรองและกักกัน 14 วัน ใน state quarantine 

ขณะเดียวกันในส่วนการเปิดกิจการ/กิจกรรมที่จำเป็น เช่น ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน มหาวิทยาลัย กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามยังมีความคิดเห็นที่แตกต่าง ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน คือควรให้ทำได้มากขึ้น 31.9% ควรให้ทำได้เท่าปัจจุบัน (22-28 พ.ค.) 34.9% และควรกลับไปทำเหมือนเดือน เม.ย. 33.1% แต่ในส่วนของกิจการ/กิจกรรมอื่นๆ เช่น โรงภาพยนตร์ นวดแผนโบราณ งานสังคม ผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าควรกลับไปทำเหมือนเดือน เม.ย. มากที่สุด 40.2% รองลงมาคือ ควรให้ทำได้เท่าปัจจุบัน (22-28 พ.ค.) 35.8% และควรให้ทำได้มากขึ้นอีก 24.0%

ติดตามผลการสำรวจฯ เพิ่มเติมได้ที่ www.อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ.com .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้นำโลกอายุน้อย

นายกฯ ได้รับเลือก 1 ในผู้นำโลกอายุต่ำกว่า 40 ปี สร้างการเปลี่ยนแปลง

นายกฯ แพทองธาร ได้รับคัดเลือก 1 ในผู้นำโลกอายุต่ำกว่า 40 ปี ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงโดย “YGL 2025” สะท้อนวิสัยทัศน์และภาวะผู้นำของไทย ที่ได้รับการยอมรับในเวทีสากล มั่นใจสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้ประเทศไทยได้

ผาเหวนรกถล่ม

ผาน้ำตกเหวนรกถล่ม นักท่องเที่ยวเจ็บ​ 2 สั่งปิดชั่วคราว

หน้าผาบริเวณสะพานลงน้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถล่มลงมา หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง 5 วัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 ราย ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ พร้อมประกาศปิดการท่องเที่ยวน้ำตกเหวนรกชั่วคราว

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

ออกแบบตึกสตง.

ตามหาคนออกแบบตึก สตง. มูลค่าพันล้าน

ประเด็นเกี่ยวข้องกับตึก สตง. ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก วันนี้ มีวิศวกรที่เอกสารระบุชื่อเป็นผู้ออกแบบ อายุถึง 85 ปี ออกมาบอกว่าไม่ได้ออกแบบตึกอาคารมานานแล้ว

ผาเหวนรกถล่ม

ผาน้ำตกเหวนรกถล่ม นักท่องเที่ยวเจ็บ​ 2 สั่งปิดชั่วคราว

หน้าผาบริเวณสะพานลงน้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถล่มลงมา หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง 5 วัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหญิงชาวฟิลิปปินส์ 2 ราย ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ พร้อมประกาศปิดการท่องเที่ยวน้ำตกเหวนรกชั่วคราว

เจ้าหน้าที่ลำคลอง​งู

“เฉลิม​ชัย” ย้ำดูแลครอบครัวเจ้าหน้าที่ ​อช.​ลำคลอง​งู เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่​

อธิบดี​กรมอุทยานฯ​ ยืนยันให้ความช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหน้าที่อุทยาน​แห่งชาติ​ลำคลอง​งูเต็มที่ หลังเสียชีวิตขณะงมหามือถือให้นักท่องเที่ยว ที่ทำตกน้ำในถ้ำเสาหิน