อ.ต.ก.ปัดข่าวชงงบกว่าหมื่นล้านใช้สินค้าเกษตรแลกห้องพักโรงแรม-ตั๋วเครื่องบิน

กรุงเทพฯ  8 มิ.ย. – รักษาการ ผอ.อ.ต.ก.ปฏิเสธข่าวเสนอโครงการนำสินค้าเกษตรแลกห้องพักโรงแรม 10 ล้านห้อง พร้อมแจกตั๋วเครื่องบินให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ วงเงิน 14,000 ล้านบาท ช่วงวันหยุดชดเชยเดือนกรกฎาคม ชี้เป็นเพียงข้อหารือกับผู้ประกอบการโรงแรมในการหาตลาดรองรับสินค้าเกษตร ไม่เกี่ยวโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจตาม พ.ร.ก. เงินกู้ 4 แสนล้าน 


นายศุภฤกษ์ เอี่ยมละออ รักษาการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกรรม (อ.ต.ก.) กล่าวว่า ได้จัดทำข้อเสนอแผนงาน/โครงการภายใต้กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศส่งให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ซึ่งทำหน้าที่รวบรวมโครงการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แล้ว โดย อ.ต.ก.เสนอ 5 โครงการ คือ โครงการเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อใช้ทำเกษตรแปลงใหญ่ โครงการเครื่องจักรกลการเกษตร (รถขุดดิน) เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กให้เกษตรกร ตลาดกลางเพื่อรวบรวมและกระจายสินค้าเกษตร อ.ต.ก.ประจำจังหวัด โครงการพัฒนาระบบตลาดกลางสำหรับผลิตผลทางการเกษตรและปศุสตว์เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตอย่างยั่งยืน และโครงการ อ.ต.ก. Delivery ซึ่งทั้ง 5 โครงการที่เสนอไป ผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ จะพิจารณาก่อน หากเห็นสมควรจะเสนอให้ สศช.อนุมัติกรอบแผนงาน จากนั้นจะส่งกลับมายังกระทรวงเกษตรฯ เพื่อทำแผนปฏิบัติการโดยละเอียดแล้วจึงนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. พิจารณา

ส่วนกระแสข่าว อ.ต.ก.ซึ่งเป็นหน่วยงานในการกำกับดูแลของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอขออนุมัติงบประมาณ 14,500 ล้านบาท มาใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการ “ไทยเที่ยวไทย ช่วยไทย” ซึ่งจะให้ อ.ต.ก.จัดซื้อสินค้าเกษตรมาแลกห้องพักในโรงแรม 10 ล้านห้องและตั๋วเครื่องบิน เพื่อแจกให้ประชาชนร่วมเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงวันหยุดเดือนกรกฎาคม ภายใต้งบประมาณฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบโควิด-19 โดยใช้เงินกู้ 400,000 ล้านบาทนั้น นายศุภฤกษ์ กล่าวว่า เป็นความเข้าใจผิด อ.ต.ก.เชิญผู้แทนจากกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและสายการบินในประเทศเข้าร่วมประชุม เพื่อหารือและรับฟังข้อเสนอเกี่ยวกับรับซื้อสินค้าเกษตรไปใช้ในกิจการร้านอาหารของโรงแรมและสายการบิน แต่ไม่ใช่เสนอโครงการ “ไทยเที่ยวไทย ช่วยไทย” ที่จะขอใช้งบประมาณ 14,500 ล้านบาทแน่นอน


ทั้งนี้ มีข่าวที่นำเสนอในสื่อสารมวลชนว่าเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา อ.ต.ก.เชิญผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและสายการบินในประเทศ เพื่อนำเสนอโครงการจัดซื้อสินค้าเกษตรแลกกับห้องพักในโรงแรม 10 ล้านห้อง จากผู้ประกอบการโรงแรมทั่วประเทศ รวม 77 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นโรงแรมระดับ 2-3 ดาว ราคาห้องพักไม่เกิน 2,000 บาท/ห้อง/วัน  อ.ต.ก.จะจ่ายเงินให้โรงแรม 1,000 บาท / ห้อง / วัน ซึ่งจะจ่ายเป็นเงินสด 500 บาท และจ่ายเป็นสินค้าเกษตรมูลค่า 500 บาท โดยจำนวนห้องพักที่จะใช้อยู่ที่ 5 ล้านห้อง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,000 ล้านบาท  โรงแรมระดับ 4-5 ดาว  ราคาห้องพักไม่เกิน 2,000 บาท/ห้อง/วัน อ.ต.ก. จะจ่ายเงินให้โรงแรม 1,500 บาท / ห้อง / วัน ซึ่งจะจ่ายเป็นเงินสด 750 บาท และจ่ายเป็นสินค้าเกษตร มูลค่า 750 บาท โดยใช้ห้องพักที่ 5 ล้านห้อง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 7,500 ล้านบาท 

สำหรับสินค้าเกษตรที่จะใช้แลกเปลี่ยนห้องพักของโรงแรม ประกอบด้วย ข้าวสาร ผลไม้ ผัก ผลไม้แปรรูป ที่นอน หมอนยางพารา สินค้าโอทอป ของที่ระลึก โดยผู้ประกอบกิจการโรงแรมแต่ละแห่งสามารถเลือกห้องพักของโรงแรมกับสินค้าเกษตรได้ตามความต้องการสินค้าเกษตรแต่ละชนิดซึ่งมีมูลค่าเท่ากับจำนวนห้องพักที่นำมาแลกเปลี่ยน 

สำหรับวงเงินงบประมาณส่วนแรก 6,250 ล้านบาท ทาง อ.ต.ก.จะนำไปซื้อสินค้าเกษตรจากเกษตรกรโดยตรง แล้วนำสินค้าเกษตรมาชำระค่าห้องพัก 10 ล้านห้องให้โรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าห้องพักปกติ ส่วนค่าที่พักอีกร้อยละ 50 อ.ต.ก.จ่ายเป็นเงิน 6,250 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 12,500 ล้านบาท


สำหรับการหาตั๋วเครื่องบินถูกแจกให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวตามที่เป็นข่าวนั้น อ.ต.ก.จะจ่ายค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินให้สายการบินที่ประชาชนเข้าร่วมโครงการในอัตราร้อยละ 50 ของค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน โดยระยะเวลาที่สามารถใช้สิทธิ์คือ ภายในเดือนกรกฎาคม โดยมีเงื่อนไขค้างคืนไม่น้อยกว่า 2 คืน/ครั้ง วงเงินงบประมาณ 2,000  ล้านบาท 

แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระบุว่า กระทรวงเกษตรฯ ยังไม่ได้เสนอแผนงานของกระทรวงไปยัง สศช. โดยผู้บริหารระดับสูงกำลังเร่งปรับแผนให้เป็นไปตามกรอบที่ สศช.กำหนด สำหรับข่าวที่ออกมา ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คาดว่าร้อยเอกธรรมนัส จะชี้แจงต่อไป เนื่องจาก อ.ต.ก.เป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ