นายกฯ ยันลงโทษทุกคน หากพบทุจริตใช้งบประมาณ

รัฐสภา 4 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรี แจงสภาฯอีกรอบ ย้ำไม่ต้องห่วงจัดสรรงบตาม พ.ร.บ.โอนงบฯ จัดสรรเพื่อคนไทยทุกคน ยืนยันจะดูแลคนทุกกลุ่มเท่าเทียม คาดโทษหากเจอการทุจริตจะลงโทษทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ละเว้น ยินดีรับฟังความเห็นที่เป็นประโยชน์


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย วงเงินกว่า 88,000 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาโควิด -19 อีกครั้งว่า หลังจากที่ฟังการอภิปรายของ ส.ส. หลายคน เป็นประโยชน์ พร้อมนำไปปรับปรุงพิจารณา อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ จะรับฟังแต่จะให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปยืนยันว่า จะนำไปใช้จ่ายให้สอดคล้องกับ สภาพความเป็นจริง อยากย้ำว่ากฎหมายวันนี้เป็นคนละฉบับ กับ พ.ร.ก.กู้เงิน  ซึ่งงบประมาณที่พิจารณาวันนี้มีทั้งงบบุคลากร งบการดำเนินงาน งบการลงทุน และงบอุดหนุน และงบใช้จ่ายอื่น ๆ  

ส่วนกรณีที่มีการอภิปรายโจมตีการใช้จ่ายงบกลาง นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งบส่วนนี้ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีคนเดียวที่เป็นผู้พิจารณา งบกลางส่วนนี้ ต้องนำไปใช้เป็นเบี้ยหวัดบำนาญ สำหรับปรับเงินเดือนข้าราชการและเงินสมทบลูกจ้างประจำ กว่า 5.1 แสนล้านบาท เป็นเงินสำรองกรณีฉุกเฉิน 96,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ใช้จ่ายไปแล้วเหลือเพียง 400 ล้านบาทเท่านั้น โดยแบ่งออกเป็นค่าใช้จ่าย 4 กลุ่ม คือเงินสำหรับการแก้ปัญหาสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 จำนวน กว่า 56,000 ล้านบาท  ค่าใช้จ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งและอุทกภัยกว่า 18,000 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายด้านเศรษฐกิจและสังคม กว่า 11,000 ล้านบาท และค่าใช่จ่ายในการบริหารจัดการภาครัฐ กว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งเหตุผลที่จำเป็นต้องใช้ไปก่อนเพราะ พ.ร.บ.โอนงบ และพ.ร.ก.กู้เงินยังไม่ออก โดยรวมที่ใช้ไปแล้ว กว่า 95,000 ล้านบาท จึงขอให้เข้าใจสัดส่วนงบกลางให้ดีก่อน


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การบริหารเงินไม่ใช่อำนาจการบริหารของนายกฯ เพียงอย่างเดียว และไม่ใช่เงินของนายกฯ และตามกฎหมายการจะโอนงบกลางออกจากส่วนราชการต้องทำเป็นพระราชบัญญัติเท่านั้น จึงได้เสนอร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณฯ ในวันนี้ (4มิ.ย.) และการจะจัดสรรงบกลางให้กับหน่วยงานต่าง ๆ นั้นเป็นอำนาจการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตามความจำเป็น 

ส่วนเหตุผลที่ไม่เสนอ พ.ร.บ.โอนงบฯ ก่อนพ.ร.ก.กู้เงินนั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า จัดทำได้เร็วกว่า  เพราะแม้จะกู้เงินก็เชื่อว่าไม่เพียงพอ เนื่องจากมีปัญหาหลายมิติไม่ใช่เพียงสถานการณ์โควิด-19 เท่านั้น จากการประมาณการ ค่าใช้จ่ายเยียวยาประชาชน ถึง 55,000 ล้านบาท ซึ่งเงินสำรองจ่ายที่มีอยู่ไม่เพียงพอ เงิน 2 ก้อนทั้งจาก พ.ร.ก.และพ.ร.บ.จะเข้ามาอยู่ในกรอบการใช้จ่าย ที่รัฐบาลกำหนด ว่าจะเอาไปใช้จ่ายส่วนใดบ้าง ตามความจำเป็นของสถานการณ์ ซึ่งมีแผนการใช้จ่ายชัดเจน โดยเงินที่มีการโอนกลับมาในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นงบจากโครงการที่ยังทำสัญญาไม่ได้ โครงการที่แผนรายละเอียดที่ยังไม่สมบูรณ์ ทำให้จำเป็นต้องหยุดโครงการดังกล่าวไว้ก่อน แต่ไม่ได้ตัดโครงการทั้งหมด เมื่อมีความพร้อมให้นำเสนอกลับมาใหม่ 

ส่วนกรณีที่มีการตัดงบกระทรวงกลาโหมมากกว่ากระทรวงอื่นถึงกว่าร้อยละ10 จากที่หน่วยงานอื่นปรับลดร้อยละ5นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามหลักเกณฑ์โครงการใดที่สามารถชะลอได้โดยไม่สร้างความเสียหายแก่ราชการ ก็สามารถปรับได้มากกว่าร้อยละ 5 อยู่แล้วดังนั้นงบประมาณในปี 2563 ส่วนใดที่ยังไม่สามารถใช้ได้ในปีนี้ให้โอนกลับมาส่วนกลางก่อนภายใต้การพิจารณาของ คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐไม่ใช่การปรับโอนงบประมาณเพื่อให้รัฐบาลใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น


“หลายโครงการอยู่เกณฑ์ที่สามารถชะลอได้ ยกเว้นบางอย่างที่มีความผูกพัน โดยเฉพาะการจัดซื้อยุทโธปกรณ์บางรายการที่ทำสัญญาไปแล้วก็ไม่สามารถปรับลดได้ เราได้พยายามผ่อนลดลงทุกอย่างแล้ว แต่จะไม่ให้ซื้อ ไม่ให้ทำอะไรเลยคงทำไม่ได้ ต้องรู้ว่าทหารทำหน้าที่กี่อย่าง แต่ไม่ใช่ว่าผมเป็นทหารแล้วเอาใจทหาร ทหารต้องช่วยทุกเรื่อง แม้ว่าจะมีหน้าที่จริงจะทำหน้าที่ป้องกันประเทศเพียงอย่างเดียว ซึ่งที่ผ่านมาทหารก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรเพิ่มเติม ในส่วนของอาวุธยุทธโธปกรณ์ผมไม่ได้แก้ตัว ทำไมต้องมาใช้ของแพง ใช้ของดี เพราะชีวิตคนก็มีความสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แต่ถ้าจะบอกว่าไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องมีทหารอีก ก็แล้วแต่จะคิด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าห่วงการจัดสรรงบประมาณในส่วนนี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายและให้เจ้าหน้าที่ทำงานไปตามกระบวนการ ส่วนในรายละเอียดค่อยไปดูว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่ ตอนนี้เป็นเพียงการตั้งกรอบงบประมาณไว้เท่านั้น เมื่อมีการใช้จ่ายงบประมาณขึ้นมาก็ต้องมีกรรมการคัดกรองและตรวจสอบตั้งแต่ระดับล่าง  การใช้จ่ายงบกลางหลังจากนี้จะต้องรับฟังความเห็นของประชาชนว่าต้องการอะไร ซึ่งเป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (กบจ.) พิจารณา อย่าไปก้าวก่ายหรือบังคับ โดยมีสำนักงบประมาณคอยตรวจสอบอยู่แล้ว ก่อนจะเสนอให้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณในการใช้จ่าย ตนขออย่างเดียวอย่าไปแทรกแซงข้าราชการระดับล่าง ถ้ามีการทุจริตจะมีการลงโทษทุกคนที่เกี่ยวข้องโดยไม่ละเว้น การจัดสรรงบประมาณไม่ใช่เพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เพื่อคนไทยทุกคน และจะดูแลคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]