พบผู้ป่วยใหม่ 1ราย กลับจากซาอุฯ อยู่ใน State Quarantine จ.ปัตตานี

นนทบุรี3มิ.ย.-ศบค. รายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพียง 1 ราย ในสถานที่กักตัว จ.ปัตตานี
เดินทางกลับจากซาอุดีอาระเบีย ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐ
ป้องกันระบาดซ้ำ กลับมาใช้ชีวิตปกติได้


พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล
ผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
หรือ ศบค. แถลงภาพรวมสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ประจำวันที่ 3 มิ.ย.
ว่า วันนี้พบจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวน  1 ราย เป็นผู้ป่วยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่ที่เราจัดให้  ขณะนี้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3
,084 ราย รักษาหายแล้ว 2,968 ราย
และยังคงรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 58 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังคงที่อยู่ที่58 ราย

สำหรับภาพรวมการติดเชื้อโควิด-19
 ในประเทศไทย  ยังคงเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง และพื้นที่การรักษายังคงพบอยู่ที่กรุงเทพมหานครและนนทบุรีตามมาด้วยภาคใต้
ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 39 ปี ส่วนจังหวัดในประเทศไทยที่มีผู้ป่วยยืนยันสะสมมากที่สุด
3 จังหวัดแรก ยังคงเป็นกรุงเทพมหานคร ภูเก็ตและนนทบุรี


สำหรับรายละเอียดของผู้ป่วยรายใหม่
เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 26 ปีเดินทางจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ถึงกัวลาลัมเปอร์ แล้วเข้าไทยผ่านด่านปาดังเบซาร์
ในวันที่ 25 พฤษภาคม 63 ตรวจหาเชื้อครั้งแรกไม่พบเชื้อและได้เข้าพัก ในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้จังหวัดปัตตานี  ระหว่างการเข้าพักได้มีการตรวจครั้งที่ 2
ในวันที่ 31 พฤษภาคม ยืนยันว่า มีการติดเชื้อโควิด-19
จึงส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดปัตตานี

สำหรับสถานการณ์ของโควิด-19
ในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์- 3 มิถุนายน พบผู้ป่วยแล้ว
147 ราย เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 39 ปี
สำหรับประเทศต้นทางที่มีผู้ป่วยเดินทางมามากที่สุด 5 อันดับแรก คือ อินโดนีเซีย
ซาอุดีอาระเบีย คูเวต ปากีสถานและคาซัคสถาน 
วันนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็เดินทางกลับมาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย

สำหรับปัจจัยเสี่ยงตลอดระยะเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19
 อันดับ 1. คือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยก่อนหน้า
2. อาชีพเสี่ยง 3.สนามมวย 4.คนไทยที่เดินกลับมาจากต่างประเทศ 5.สถานบันเทิง 6.
ผู้ป่วยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่ที่รัฐจัดให้   ขณะที่ 2 สัปดาห์ล่าสุดกลับกัน พบว่าปัจจัยเสี่ยงคือกลุ่ม
ผู้ป่วยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และ ผู้ป่วยที่ไปในสถานที่ชุมชนแออัด สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยก่อนหน้า
ดังนั้นการใส่หน้ากากอนามัยยังคงเป็นสิ่งจำเป็น ที่ผ่านมาจะเห็นประชาชนใส่หน้ากากผ้ามากขึ้น  จึงอยากเน้นย้ำเรื่องการซักทำความสะอาดหน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนนำกลับมาใช้ใหม่


สำหรับสถานการณ์โควิด- 19
ทั่วโลก พบผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 6
,485,571 ราย รักษาหาย3,010,695
ราย  อาการรุนแรง54
,528
ราย เสียชีวิต 382
,412 ราย อันดับแรกยังคงเป็น อเมริกา
ตามมาด้วยบราซิล
, รัสเซีย ,สเปนและอังกฤษ   ประเทศไทยยังคงอยู่อันดับที่ 79

สำหรับสถานการณ์โควิด- 19
ในฝั่งเอเชีย ประเทศอินเดีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยมากที่สุด สำหรับประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง
คือ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ยังคงพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 วันนี้ประเทศเมียนมามีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น
4 ราย 

ประเด็นที่น่าสนใจ ประเทศดูใบเปิดหาด
ผ่อนปรนสถานที่ต่างๆมากขึ้นหลังมีการประกาศเคอร์ฟิวมาร่วม 2 เดือน พบว่าประชาชนเริ่มไม่สวมหน้ากากอนามัยและไม่เว้นระยะห่างทางสังคม
เป็นตัวแปรสำคัญว่า ความร่วมมือต่างๆเร่มหย่อน 
ส่วนประเทศอังกฤษ  เริ่มให้มีการเรียนการสอนสอน
ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 
ครูในอังกฤษมองว่าเร็วเกินไป และกลัวการระบาดซ้ำ
แม้ว่าจะมีการจำกัดจำนวนนักเรียนไม่เกิน 15 คน มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาระยะห่าง
แต่พบว่าไม่สามารถทำได้จริง และยังพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

พญ.พรรณประภา  กล่าวว่า สะท้อนกลับมาที่ไทยเมื่อมีการสวมหน้ากากอนามัยของคนในประเทศเพิ่มขึ้น  การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ลดลงอย่างมาก เพราะฉะนั้นการสวมหน้ากากป้องกันได้ทั้งโควิด-19
และเชื้อไข้หวัดใหญ่  
โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน มีมาตรการผ่อนคลายระยะที่
3 มีกิจการและกิจกรรมหลายประเภท สามารถเปิดได้ตามปกติ  ส่งผลทำให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ปกติมากขึ้น  แต่ย้ำว่าความปกตินี้จะไม่ใช่ความปกติเดิม แต่เป็นความปกติใหม่
หรือที่เรียกว่า
New Normal คือ วิถีชีวิตใหม่ ซึ่งวิถีชีวิตใหม่นี้
สำหรับประชาชนรู้สึกว่าขัดใจ ไม่คุ้นชิน หรือว่าไม่สะดว สบาย มาตรการต่างๆที่ออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดซ้ำ
ดังนั้นขอให้ผู้ประกอบกิจการ และประชาชนยังคงปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข
รวมถึงสแกน
QR code ในการเข้าและออกตามสถานที่ต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชั่น
ไทยชนะ สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ เพื่อให้ไทยเดินไปข้างหน้า
สามารถมีมาตรการผ่อนคลายในระยะต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]